เสี่ยสนามไก่ชนหายตัวลึกลับ รถโผล่ทิ้งไกลพันกิโล

จากกรณีเมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (4 ก.พ.67) นายสำราญ อายุ 74 ปี ได้ขอความช่วยเหลือกับผู้สื่อข่าวในพื้นที่จังหวัดชุมพร พร้อมกับนำหลักฐานภาพถ่ายและรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ของนายขนบ หรือ หมาส อายุ 56 ปี เป็นน้องชาย และเป็นเจ้าของสนามชนไก่ หลังหายตัวออกจากบ้านเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม และอยากวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเร่งติดตามตัวเพราะไม่สามารถติดต่อน้องชายได้กลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้น

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ข้อมูลจากชุดสืบสวน โดยพุ่งเป้าไป 3 บุคคลที่ตำรวจต้องสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเสี่ยหมาสหรือไม่ หลังปรากฏว่า บนรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ของเสี่ยหมาสพบชายใส่แว่นรายหนึ่ง เป็นคนขับรถไปยังจังหวัดนครพนม

ทีมข่าวได้รับภาพถ่ายกล้องวงจรปิดบนถนนทางหลวงที่สามารถจับภาพคนขับรถของนายขนบ ที่หายตัวออกจากบ้านไปจากจังหวัดชุมพร ด้วยรถคันดังกล่าว แต่จากภาพวงจรปิดที่จับภาพได้ปรากฏว่าคนขับรถคันดังกล่าวกลับไม่ใช่นายขนบ แต่เป็นชายอีกคนที่มีลักษณะใบหน้าท้วมกว่านายขนบ สวมใส่แว่นตา ขับรถคันดังกล่าวอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นมีการตรวจพบว่ารถคันนี้ของนายขนบ ขับขึ้นมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ่านมายังจังหวัดชุมพร (จังหวัดที่หายตัวออกมา) มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจากภาพนี้ได้ช่วงวันที่ 2 กุมภาพันธุ์ หลังจากที่หายตัวออกจากม่านไปช่วงค่ำของวันที่ 1 กุมภาพันธ์

ทีมข่าวพยายามสำรวจดูจากภาพกล้องวงจรปิดที่พบในเขตพื้นที่ภาคอีสานใกล้กับจังหวัดนครพนม พบว่าคนขับมีรูปร่าง เค้าโครงใบหน้าคล้ายกับผู้หญิง ซึ่งแตกต่างแตกต่างจากรูปหน้าผู้ชายที่ชัดเจนที่กล้องวงจรปิดทางหลวงจับภาพได้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เปรียบเทียบคนขับรถฟอร์จูนเนอร์

เสี่ยสนามไก่ชนหายตัวลึกลับ รถโผล่ทิ้งไกลพันกิโล

ล่าสุดทีมข่าวไปเจอกับนางสาวน้ำอ้อย ซึ่งถือเป็นชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดที่เจอรถของนายขนบมากที่สุด ในบ้านของนางสาวน้ำอ้อยอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ประมาณ 80 เมตรเท่านั้น

นางสาวน้ำอ้อยเล่าให้กับทีมข่าวของเราฟังว่าช่วงกลางวันเมื่อวานนี้ก่อนที่จะมาเจอรถคันดังกล่าวจอดอยู่ในพงหญ้า ตัวเองเห็นรถลักษณะแบบเดียวกันคือเป็นฟอร์จูนเนอร์สีขาวแบบนี้ขับวนเวียนอยู่ในซอยประมาณสามรอบ ก่อนที่จะเห็นรถกระบะสีแดงไม่ทราบว่าเป็นกี่ประตูจอดเทียบถนนอยู่บริเวณจุดที่เจอรถคันดังกล่าว

นางสาวน้ำอ้อยยอมรับว่าตอนนั้นแค่เห็นรถมาจอดแต่ก็ไม่ได้เฝ้าสังเกตว่าจอดอยู่นานเท่าไหร่ เมื่อตัวเองเห็นรถจอดอยู่ก็เข้าไปในบ้านโดยที่ไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวออกไปตอนไหน ที่สำคัญไม่เห็นว่ามีบุคคลใดมาเดินอยู่บริเวณจุดที่รถจอดอยู่พบแค่เพียงรถจอดอยู่เท่านั้นแต่ไม่เห็นว่ามีคนลงมาจากรถ

เมียเบอร์ 2 สำรวจรถเสี่ย ฟันธงมีคนย้ายทรัพย์สิน

ส่วนรถของกลางที่เจอตอนนี้ตำรวจนำไปจอดเพื่อเตรียมตรวจสอบโดยตำรวจพิสูจน์หลักฐานอยู่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม

โดยทีมข่าวของเราไปสำรวจ ดูเหมือนว่ารถคันดังกล่าวอยู่ในสภาพใหม่มากเหมือนเพิ่งทำการล้างดูดฝุ่นมาใหม่ได้ไม่นาน

ทีมข่าวจึงวิดีโอคอลเพื่อพูดคุยกับ นางสาวเก๋ ภรรยาที่สองของนายขนบ คนที่หายตัวไป เนื่องจากนางสาวเก๋ให้ข้อมูลว่าปกติรถคันนี้มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่จะนั่งอยู่เป็นประจำ และทราบดีว่ามีสิ่งของอะไรอยู่ในรถบ้าง

โดยนางสาวเก๋ส่งรูปคู่กับนายขนนกที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งนางขนบจะสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเขียว โดยเสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวตัวนี้จะถูกแขวนอยู่หลังเบาะที่นั่งคนขับตลอดเวลารวมถึงก่อนที่นายขนนกจะหายตัวไป กับรถคันนี้ด้วย แต่วันนี้เมื่อทีมข่าวมาตรวจสอบกลับ ไม่พบเสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวตัวดังกล่าวแล้ว

ระหว่างที่วิดีโอคอลพูดคุยกับนางสาวเก๋ซึ่งให้ทีมข่าวของเราเราเป็นตัวกลางในการส่องกล้องดูภายในรถ นางสาวเก๋บอกว่ามีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะพระเครื่องที่แขวนเอาไว้บริเวณกระจกหน้ารถก็ไม่พบแล้ว

ส่วนกระเป๋าของชำร่วยที่วางอยู่บริเวณเบาะหลังของรถนางสาวเก๋บอกว่าปกติแล้วจะถูกใส่ไว้ที่บริเวณกระเป๋าที่นั่งคนขับ

แต่สิ่งหนึ่งที่นางสาวเก๋ยืนยันข้อมูลให้กับเราได้อย่างชัดเจนเลยก็คือว่ากางเกงขายาวผ้าร่มและเสื้อที่พบอยู่ในรถ ไม่ใช่ของนายขนบอย่างแน่นอน และลักษณะกางเกงผ้าร่มคล้ายกับกางเกงวอร์มที่ใช้ในหน่วยงานราชการบางแห่ง

เปิดหลักฐานเส้นทางพันโลทิ้งรถ เสี่ยหายลึกลับ

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสามแยกหนองญาติ พบรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวของนายขนบ ขับผ่านแยกนี้ จากอำเภอโพนสวรรค์เข้าสู่ตำบลหนองญาติ ซึ่งจากเส้นทางดังกล่าวจริงๆแล้วจะมุ่งหน้าสู่อำเภอท่าอุเทน แต่คนขับรถ กลับขับมุ่งหน้าเข้าสู่เขตอำเภอเมืองในตำบลหนองญาติ โดยจุดนี้อยู่ห่างจากจุดที่พบรถประมาณ 4 กิโลเมตร

ต่อมาเป็นภาพตรงบริเวณแยกหนองย่านเช่นกันแต่เป็นมุมที่พบรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวของนายขนบ ขับเข้าสู่เขตตำบลหนองญาติแล้ว

ทีมข่าวยังภาพกล้องวงจรปิดจากร้านร้านค้าแห่งหนึ่งบนถนนที่จะมุ่งหน้าไปยังจุดที่พบรถฟอร์จูนเนอร์ของนายขนนกจุดนี้อยู่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร พบรถของนายขนนกวิ่งด้วยความเร็วเพื่อไปยังจุดที่พบรถ

กรณีครอบครัวของเสี่ยบ่อนไก่  ซึ่งหาตัวไปจากพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยญาติได้มีการเข้าแจ้งความค้นหาเอาไว้ที่โรงพักสภ. ฉวี และจากการตรวจสอบรถที่หายไปพร้อมกับเสี่ยบไก่ พบว่าเป็นรถยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์สีขาวป้ายทะเบียนจังหวัดชุมพร โดยปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดตำรวจ ขับผ่านเส้นทางตำบลคอกกระบือ จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 2 ก.พ. เวลาประมาณเที่ยง แล้วยังตรวจสอบพบรถคันดังกล่าว GPS ไปโผล่อยู่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะไปพบรถ เมื่อค่ำวานนี้ที่จังหวัดนครพนม แต่ไม่เจอเบาะแสของเสี่ยบ่อนไก่ นั้น

วันนี้ (5 ก.พ.) ทีมข่าวช่องแปดลงพื้นที่ตรวจสอบ ในพื้นที่ของ ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดยเป็นจุดที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับภาพรถของเสี่ย วันที่ 2 ก.พ. ขาเข้าและออกในพื้นที่ได้ ซึ่งตอนที่ขับเข้าในพื้นที่เขตตำบลคอกกระบือ บนถนน พระราม 2 มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จับภาพได้เวลาประมาณ 12:01 น. และขับออกในพื้นที่ตำบลคอกกระบือ ในวันเดียวกัน เวลา 12:10 น.

ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม พบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ขาเข้าของตำบลคอกกระบือ บนถนน พระราม 2 มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพ จับภาพกล้องวงจรปิดได้ 3 มุม เห็นรถของเสี่ยบ่อนไก่ ขับผ่านกล้องวงจรปิดเวลาประมาณ 12.01น. ซึ่งเห็นว่ารถของเสียขับมาโดยปกติ ขับปะปนอยู่กับรถบนถนน ซึ่งมีทั้งรถเก๋ง กระบะ และรถพ่วงขับตามกันมาแต่ไม่ได้มีความผิดสังเกตว่า จะหยุดหรือชะลอความเร็ว

จากนั้น  ทีมข่าวยังได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ตำบลคอกกระบือ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจากภาพรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวของเสี่ยบ่อนไก่ขับออกจากพื้นที่ ยังใช้เส้นทางบนถนนพระราม2มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพ จับภาพได้เวลาประมาณ 12.10น. ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดวงจร 2 ตัว จับภาพเอาไว้ได้ โดยลักษณะยังคงขับปะปนอยู่กับรถคันอื่นบนถนน ซึ่งก็ไม่มีความผิดสังเกตว่าจะชะลอความเร็วหรือหยุดรถ

จากนั้น ทีมข่าวยังได้ประสานข้อมูลเพิ่มเติมจากตำรวจทางหลวง  ในเขตพื้นที่รับผิดชอบจากรอยต่อระหว่างถนนพระราม2 เข้าเขตพื้นที่บางบอน เพื่อตัดผ่านออกบางใหญ่ มุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปจังหวัดสระบุรี และต่อด้วยปลายทางในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเบื้องต้นกล้องวงจรปิดของถนน จะต้องมีการเชื่อมและกรอกข้อมูลด้วย ทะเบียนรถ จะสามารถจับเส้นทางได้

แต่พบว่ารถคันดังกล่าวหลังจากที่ขับผ่าน บริเวณตำบลคอกกระบือ จังหวัดสมุทรสาคร รถได้หายไปในช่วงเวลาหลายชั่วโมง ก่อนที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจะจับภาพได้ที่ตำรวจทางหลวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาขาออก มุ่งหน้าจังหวัดสระบุรี ในเวลา 22:44 น. ของวันที่ 2 ก.พ. ดังนั้นรถฟอร์จูนเนอร์ของเสี่ยบ่อนไก่จึงหายไปในเขตพื้นที่กรุงเทพ