จากเหตุการณ์ที่พบศพหนุ่มชาวพม่าตกลงมาเสียชีวิตอยู่ในทางน้ำของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งซอยร่มเกล้า 16 ย่านมีนบุรีเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตได้หายออกไปจากห้องพักในอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว เมื่อสองวันที่แล้วจนกระทั่งพบเป็นศพ

 

วันนี้ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่าทางน้ำดังกล่าวอยู่บริเวณชั้นดาดฟ้าวางเรียงกันอยู่ประมาณ 4 ใบ แต่ยังไม่ทราบว่าผู้ตายตกลงไปในถังใบไหนเพราะเจ้าของสถานที่ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปด้านบนในจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของสน. มีนบุรีได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับได้สอบถามผู้ดูแลอพาร์ตเม้นต์และเชิญตัวภรรยาของผู้เสียชีวิตไปสอบปากคำ

 

ทีมข่าวได้สอบถาม นายชัย อายุ 69 ปีผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์ เปิดเผยว่า ตนเองไม่รู้มาก่อนว่ามีคนลงไปเสียชีวิตในแท็งก์น้ำจนกระทั่งภรรยาของผู้ตายได้มาตามหาสามีที่หายไปจนกระทั่งไปเจอผู้เสียชีวิตอยู่ในแท็งก์น้ำ ปกติแล้วครอบครัวผู้เสียชีวิตพักอยู่ที่ชั้นสี่ ซึ่งติดกับชั้นห้าที่เป็นจุดเกิดเหตุและเป็นชั้นดาดฟ้าซึ่งตนเองไม่ได้ล็อกกุญแจจึงทำให้มีคนขึ้นไปได้ และก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครเคยขึ้นไป มีเพียงตนเองคนเดียวที่ขึ้นไปตรวจน้ำ

 

ส่วนที่ผู้เสียชีวิตตกลงไปอยู่ในแทงน้ำนั้นตนเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าตกไปได้อย่างไร แต่ตนเองสอบถามจากภรรยาผู้ตายทราบว่าผู้ตายอยู่ในอาการมึนเมา ที่ตนเองตรวจสอบพบว่าแท็งก์น้ำหนึ่งในสี่ใบ ที่อยู่ข้างบนมีร่องรอยแตกอยู่หนึ่งใบซึ่งคาดว่าจะเป็นใบที่ผู้ตายตกลงไป หลังจากนี้ตนเองจะเปลี่ยนทางน้ำทั้งหมดเพื่อความสบายใจของลูกบ้านและจะทำกุญแจล็อกไม่ให้คนอื่นขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าได้อีก เพราะตอนนี้ลูกบ้านบางคนก็ยังไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่ตนเองยืนยันว่าเมื่อตอนที่เจอศพแล้วก็ปิดไม่ให้ใช้น้ำทั้งหมดเลยก่อนที่จะทำความสะอาดและเตรียมที่จะเปลี่ยนทางน้ำใหม่ แต่ตนเองตรวจสอบแล้วไม่พบกลิ่นจากน้ำเพราะศพยังไม่ได้ทานเน่าเพราะตกไปเพียงประมาณกว่า 20 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาภายในอพาร์ตเมนต์ก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะรุนแรงกันมาก่อนเพราะหากมีการทะเลาะวิวาทกันตนเองก็จะไล่ออกทันที และคนนอกก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้เพราะประตูเป็นระบบคีย์การ์ด และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ตายขึ้นไปด้านบนเพียงคนเดียวไม่มีใครขึ้นไปด้วยแต่อย่างใด

 

ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถามภรรยาของ นาย AungsuNyat อายุ 27 ปี ชาว พม่า เป็นคนงานก่อสร้างบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่งย่านร่มเกล้า ที่ตกลงไว้เสียชีวิตในทางน้ำของอพาร์ตเมนต์ เปิดเผยว่า สามีตนเองหายไปเมื่อเวลาประมาณสี่ถึงห้าทุ่มของวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนที่จะหายตัวไปตนเองรู้ว่าสามีเดินขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า แต่ไม่รู้ว่าอยู่กับใครเพราะตนเองไม่ได้ขึ้นไปดู เพราะตนเองทำกับข้าวอยู่ภายในห้องแล้วก็เลี้ยงลูกจนกระทั่งหลับไป แต่ก็ไม่ได้ล็อกกุญแจเพราะคาดว่าเดี๋ยวสามีกลับมาจะเข้าห้องไม่ได้ แต่เมื่อตนเองตื่นมาไม่พบว่าสามีกลับเข้ามาในห้องจึงพยายามหาแต่ไม่เจอ ซึ่งดูจากกล้องวงจรปิดสามีก็ไม่ได้เดินออกไปจากอพาร์ตเม้นต์ ต่อมาเมื่อคืนจึงช่วยกันตามหาและไปเจอสามีนอนเสียชีวิตอยู่ ในแท็งก์น้ำของดาดฟ้า แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของสามีหรือไม่ภรรยาของผู้เสียชีวิตไม่ตอบคำถามแต่อยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจร้องไห้อยู่ตลอดเวลา

 

วงจรปิดจับภาพหนุ่มพม่าก่อนที่จะพบเป็นศพภายในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าของอพาร์ตเมนต์เดินมาซื้อเหล้าใกล้กับจุดเกิดเหตุ

เปิดภาพกล้องวงจรปิด บริเวณร้านขายของชำด้านนอก วันที่ 17 เมษายน 67 เวลาประมาณ 22:11 น. จะเห็นว่ามีชายรายหนึ่งลักษณะคล้ายผู้ตาย สวมเสื้อสีเทา โสร่งสีน้ำตาลแดง สะพายกระเป๋าสีน้ำตาล เดินเข้ามาซื้อของในร้านชำ โดยใช้เวลาซื้ออยู่พักหนึ่ง

 

ซึ่งกล้องวงจรปิดตัวเดิม เวลาถัดมา สามารถจับภาพขณะเดินวนในร้านเพื่อซื้อของก่อนไปจ่ายเงิน

 

ขณะที่ ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่งซึ่งอยู่ด้านในร้านชำดังกล่าว และเห็นหน้าชายลักษณะคล้ายผู้ตายชัดขึ้น เมื่อเข้ามาจ่ายเงิน เจ้าของร้านชำให้ข้อมูลว่า พูดภาษาไทยยังไม่ค่อยชัด จึงให้เดินหาและเลือกหยิบเอาเอง ก่อนนำมาจ่ายเงิน

 

ซึ่งกล้องวงจรปิดตัวสุดท้ายสามารถจับภาพขณะชายรูปร่างคล้ายผู้ตาย เดินถือของออกจากร้านแล้วเลี้ยวซ้ายไปบริเวณทางออก ซึ่งเป็นจุดทางขึ้นของอพาร์ตเมนต์

ขณะที่ต่อมาทีมข่าวได้ขออนุญาต ทางอพาร์ตเมนท์เข้าไปพิสูจน์น้ำ ภายในอพาร์ตเมนต์ที่เชื่อมต่อมาจาก แท็งก์น้ำจากชั้นดาดฟ้าที่หนุ่มชาวพม่าลงไปเสียชีวิต พบว่าสีน้ำยังคงใสเป็นปกติและเมื่อทีมข่าว ได้ใช้มือรองและลงไปดมพบว่าไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าแต่อย่างใด ซึ่งเป็นไปตามคำบอกเล่าของผู้ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวว่าก่อนที่จะพบศพและใช้น้ำทุกวันก็ไม่พบกลิ่นเหม็นหรือมีสีที่เปลี่ยนไป จึงเป็นไปได้ว่าระหว่างที่ศพของผู้ตายอยู่ในแท็งก์น้ำยังสมบูรณ์และยังไม่มีอาการเน่าเปื่อย

 

หลังจากนั้นทีมข่าว พบว่านายชัย นามสมมุติ ผู้ดูแลอพาร์ตเม้นต์ ได้นำช่างเข้ามาเข้ามาทำความสะอาดแท็งก์น้ำและรวมถึงตู้กดน้ำบริเวณหน้า อาพาร์ตเมนต์ ก่อนจะเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุวันนี้ได้ให้ช่างเข้ามาทำความสะอาดแท็งก์น้ำทั้งสี่แท็งก์ที่เหลืออยู่ส่วนอีกแท็งก์ที่ผู้ตายเสียชีวิตนั้นได้ตัดทิ้งทำลายที่จะเคลื่อนย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์ โดยจะหาแท็งก์น้ำใหม่มาเปลี่ยนแทน รวมถึงหลังจากได้มีการระบายน้ำเก่าทิ้งออกไปหมดแล้วได้มีการ ทำความสะอาดและใส่น้ำใหม่เข้าไปในแท็งก์ ก่อนจะจ่ายน้ำเพื่อสร้างความมั่นใจกับลูกบ้านพักอาศัยอยู่

 

โดยการกระจายน้ำไปยังอพาร์ตเมนต์ทั้งหมดในตึกมีจำนวน 50 ห้อง ซึ่งระบบการกระจายน้ำจะอยู่ที่ห้าแท็งก์บนชั้นดาดฟ้า ซึ่งระบบการไหลเวียนของน้ำจะไหลจากแท็งก์น้ำทั้งห้าใบ กระจายไปยังท่อลำเลียงน้ำไปยังห้องพักต่างๆ ที่อยู่ในอพาร์ตเมนต์ทั้งหมด ที่ผู้พักอาศัยจะนำไปใช้อุปโภคบริโภค

 

ซึ่งรวมถึงถึงบริเวณตู้กดน้ำหน้าอพาร์ทเมนต์ที่ลูกบ้านจะต้องมากดน้ำเพื่อไปใช้บริโภควันนี้ก็ได้ให้ช่างเข้ามาเปลี่ยนที่กรองน้ำใหม่ พร้อมระบายเก่าน้ำออกและทำความสะอาด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าน้ำน้ำไม่มีกลิ่นและสีเป็นปกติดี

 

ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตหลังจากนี้ตนเองจะให้ย้ายออก เนื่องจากสร้างปัญหาให้กับลูกบ้านคนอื่นที่เขาพักอาศัยในอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ และตนเองอยากจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้านทุกคน ว่าน้ำสามารถกลับมาใช้ได้อย่างปกติแล้ว

 

ต่อมาทีมข่าวได้พบกับ นายโจ้อายุ 44 ปี ลูกบ้านคนหนึ่งที่พักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่พบศพดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งทราบเรื่องเมื่อเช้า ก็รู้สึกมีความกลัวบ้างเพราะน้ำที่ตนเองใช้ต้องผ่าน แท็งก์น้ำที่พบศพลงมา จึงได้มีการประสานกับเจ้าของอพาร์ตเมนต์บอกว่าได้ดูแลทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว และทางอพาร์ตเมนต์จะเปลี่ยนแท็งก์น้ำใหม่ให้หมดตนเองก็รู้สึกสบายใจขึ้น

 

ส่วนก่อนหน้าที่จะพบศพแล้วตนเองใช้น้ำทั้งอาบทั้งแปรงฟันมาโดยตลอดก็มีความวิตกกังวลเรื่องความสะอาด วันนี้จึงจะไปพบแพทย์เพื่อไปปรึกษาและตรวจร่างกายว่ามีการติดเชื้ออะไรหรือไม่ แต่เรื่องความหวาดผวาหรือกลัวผีหรือสิ่งลี้ลับนั้นตนเองยืนยันว่าไม่ได้กลัวแต่อย่างใด

 

ทีมข่าวได้สอบถามกับลูกบ้านในอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ อีกหนึ่งคนคือ นายเอก (นามสมมติ) อายุ 35 ปี เล่าว่า ตนเองเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นานแต่ไม่ได้ทราบเรื่องอะไร เพิ่งมาทราบจากทีมข่าวว่ามีคนเสียชีวิตอยู่บนแท็งก์น้ำดาดฟ้า ก็รู้สึกตกใจ ผวา และกลัว กังวลเรื่องน้ำที่มีศพเน่าเปื่อยอยู่ด้วย และกลัวผี ซึ่งที่ผ่านมาผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์ไม่ได้แจ้งอะไร แต่ที่ตนเองใช้น้ำอุปโภคบริโภคก็ยังไม่มีกลิ่น หรือสิ่งผิดปกติใด แต่พอทราบก็รู้สึกแย่

 

ตั้งแต่อยู่มาเห็นชาวเมียนมาดื่มเหล้ากันช่วงสงกรานต์ ยังไม่เคยเห็นทะเลาะกันมาก่อน ส่วนบนดาดฟ้าตนเองก็ไม่เคยเดินขึ้นไป ไม่ทราบว่ามีการปิดกั้นเอาไว้หรือไม่ หลังจากนี้ต้องคุยกับแฟนสาวก่อนว่าจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่นหรือไม่

 

ต่อมาเมื่อช่วงเย็นของวันนี้ พบว่าทางด้านของภรรยาของผู้เสียชีวิตได้มีการขนย้ายของบางส่วนออกจากอพาร์ตเมนต์ โดยมีเพื่อนร่วมสัญชาติได้มามาช่วยขนของ จากการพูดคุยกับ ภรรยาของผู้เสียชีวิต บอกสั้นๆว่า หลังจากที่เกิดเหตุตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าของอพาร์ตเมนต์แล้ว ซึ่งทางเจ้าของก็ให้ตนเองย้ายออก แต่ตอนนี้ตนก็ยังไม่รู้ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหน ต้องรอให้เผาศพของสามีให้เรียบร้อยก่อน

 

โดยเหตุที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมาวันนั้นตนเองไม่ได้อยู่กับสามี ซึ่งสามีได้ซื้อเหล้า ก่อนนำขึ้นไปกินบนชั้นดาดฟ้า และได้พาลูกไปด้วย ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าสามีจะขึ้นไปอยู่กับใครหรือไม่ และตนเองก็ไม่ได้ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สยอง! หนุ่มตายเปลือยในแท็งก์น้ำ คนในตึกช็อกกินน้ำแช่ศพ