ด่วน ! ศพที่เจอฝังดิน ถูกมัดมือโยนลงหลุม

จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการพบศพปริศนาถูกฝังดินอยู่ในป่าพื้นที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ปรากฏว่าตำรวจทีมที่ขุดศพ ยืนยืนว่า เป็นศพมนุษย์ ลักษณะคว่ำหน้า มือไพล่หลังคล้ายกับถูกมัด และศพสวมกางเกงสามส่วน

ทั้งนี้จากที่ทีมข่าวได้เช็กวงจรปิดภาพสุดท้ายของเสี่ยหมาส ตอนเดินทางไปหาน้องเก๋ ภรรยาอีกคน พบว่า เวลา 18.41 น. เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ก่อนเสี่ยหายตัวไป ภาพจากกล้องจะเห็นว่าเสี่ยหมาสสวมใส่กางเกงสามส่วน เป็นช่วงที่เสี่ยหมาสขับรถไปส่งน้องเก๋ที่บ้าน และบอกว่าจะกลับไปหาเจ๊อ้วน จากนั้นเสี่ยก็ได้หายตัวไปเลย

ขณะที่ แนน สิกิตตรี นักข่าวช่อง 8 รายงานสดจากจุดพบศพปริศนา เผยว่า จากสถานการณ์ล่าสุดบริเวณจุดพบศพปริศนา ที่ริมห้วย อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งล่าสุดทางนายอำเภอบางขัน ได้มีการให้ข้อมูลหลังจากที่เข้าไปตรวจสอบหลุมดังกล่าว พบว่าหลุมมีขนาดกว้างประมาณ 45 ซม. ยาวประมาณ 170 ซม. โดยลักษณะหลุมที่พบจะเจอศพผู้ชายคนหนึ่งนอนคว่ำหน้า มือไพล่หลัง ถูกมัดด้วยเชือกฟาง ส่วนบริเวณขาไม่ได้ถูกมัด สวมเสื้อยืด และสาวมกางเกงขาสามส่วน สภาพศพไม่ได้ถูกน้ำยางกัดกร่อน ศพมีสภาพครบสมบูรณ์ ไม่ได้เจอชิ้นส่วนมนุษย์ เพราะศพมีลักษณะค่อนข้างสมบูรณ์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม จากนั้นจะนำศพดังกล่าวไปที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลบางขัน

เจ๊อ้วน หลั่งน้ำตา ยอมรับ ชุดที่เจอเป็นเสี่ยหมาส

ขณะที่ นฤทธิ นักข่าวช่อง 8 ได้รายงานสดจากบ้านของ เจ๊อ้วน ซึ่งเจ้าตัวได้นั่งดูข่าวจากช่อง 8 อยู่ พร้อมป้าหมู พี่สาวของเสี่ยหมาส โดยทันทีที่ทุกคนกำลังดูการรายงานข่าวอยู่นั้น เป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรายงานลักษณะศพปริศนา ว่าอยู่ในสภาพมือไพล่หลัง ถูกมัดด้วยเชือก ทางป้าหมู พี่สาวของเสี่ยหมาสถึงกับร้องไห้ออกมาเลย เนื่องจากว่าทางพี่สาวเสี่ย ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ชุดที่เสี่ยหมาสสวมใส่ก่อนหายตัวไป คือใส่เสื้อสีขาว กางเกงสามส่วน และมีการผูกผ้าขาวม้า

โดยทีมข่าวได้ถามป้าหมู ว่ามั่นใจหรือไม่ว่าศพที่พบนั้นเป็นน้องชายของตัวเอง แต่ทว่า เจ๊อ้วนซึ่งนั่งดูอยู่ข้าง ๆ ก็หันมาตอบว่า "เสี่ยหมาสใส่เสื้อคอโปโล ลายจุดสีดำ ไม่ใช่เสื้อสีขาว แต่กางเกงสามส่วนน่ะใช่ แต่ยังไม่เห็นชัด ๆ จากศพ" จากนั้นทีมข่าวถามเจ๊อ้วนว่า มั่นใจหรือไม่ว่าศพที่เจออาจจะเป็นสามีของเจ๊หรือไม่ ซึ่งเจ๊อ้วนก็ตอบมาว่า "ยังไม่เห็นว่าศพนี้คือใคร ลักษณะเป็นยังไง ไม่กล้าบอกว่าใช่หรือไม่ใช่"

จากนั้นทีมข่าวได้ถามเรื่องเงินในบัญชี เจ๊อ้วนจะชี้แจงยังไง ซึ่งเจ๊อ้วนบอกว่า "เงินที่ซื้อบ่อนไก่ หรือซื้อสวนนั้น ไม่ใช่ของตน แต่เป็นของคุณอาผู้หญิง ไม่มีเงินของตนแม้แต่บาทเดียว ในเมื่อคุณอาบอกว่าให้ขายบ่อน เงินก็โอนกลับไปหาคุณอา ซึ่งเป็นคุณอาผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย" ทีมข่าวจึงถามย้ำไปว่า เจ๊อ้วนยืนยันว่าไม่ได้ขายเพื่อจะเอาไปใช้จ่ายเองใช่หรือไม่ โดยเจ๊อ้วนก็ตอบว่า "ใช่ ตนมีเงินในบัญชีอยู่ 452 บาท"

ส่วนข้อมูลเมื่อวันที่ 2 ที่บอกว่ามีการโทร. หานายชัย จริงหรือไม่ เจ๊อ้วนตอบว่า "ตนไม่เห็นว่าโทร. ตนมีแต่ไลน์ของเมียเขาที่ทักบอกว่า เจอรถแล้วหรือยังคะน้าอ้วน ถ้าเจอก็ขอให้โชคดี ไลน์มาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แล้วก็มีคุยกับชัย 15 ครั้ง หลานตนก็อยู่ด้วย มันก็ได้ยิน ไม่ใช่อยู่ห่างกัน นอนหัวเตียงติดกัน" ส่วนรูปพรรณสันฐานของศพยังไม่ฟันธงว่าเป็นเสี่ยใช่ไหม ด้านเจ๊อ้วนก็ส่ายหน้าและบอกว่า "ยังไม่รู้เลยว่าศพนี้ตัวเสื้อผ้าเป็นยังไง"

จากนั้นทีมข่าวถามอีกว่า มีประเด็นไหนที่ยังคาใจอีกไหม ที่ดูข่าวแล้วอยากจะชี้แจงประเด็นไหนอีกไหม ซึ่งเจ๊อ้วนตอบว่า คือตนไม่ได้มีตังค์อย่างที่ทุกคนคิด เหมือนอย่างบ้านแม่นังเก๋นั่น มันเป็นเงินของคุณอาตน ถามพี่น้องในตระกูลสมหวังได้ทุกคน นายหัว (เสี่ยหมาส) ไม่ใช่มีเงินออกมาจากคุก คุณอากับตนนี่แหละเป็นคนดูแล

ทีมข่าวถามถึงประเด็นที่เจ๊อ้วนฟังบทสัมภาษณ์ของเก๋แล้วรู้สึกอย่างไร เจ๊อ้วนก็ตอบว่า "พ่อมันก็เหมือนกัน แก่หัวหงอกแล้วก็ให้ข่าวอะไรออกมาบ้าง" จากนั้นทีมข่าวถามไปว่า ป้าอ้วนครับขอโทษที่ต้องถามว่า สรุปได้โทร. หาชัย จริง ๆ ไหม เจ๊อ้วนก็ตอบว่า "เขาโทร. เข้ามาเป็นไลน์ของเมียเขาโทร. เป็นเมียของชัย" ทีมข่าวจึงถามย้ำว่า ไม่เคยคุยกับชัยหรือครับ เจ๊อ้วนก็ตอบว่า "บอกว่าเขาโทร. เข้ามาในเบอร์ของเมียเขา แต่ตนไม่ได้คุยกับชัย" ทีมข่าวย้ำอีกครั้งว่า 15 สายไม่ได้คุยกับชัยเลยใช่ไหม เจ๊อ้วนก็ยืนยันว่า "ตนบอกว่าไม่มีคำว่า 15 สาย มีแต่ไลน์ ไลน์ของเมียเขา โทร. มาถามว่า เจอรถไหมน้าอ้วน ขอให้โชคดีนะ ไลน์มาแบบนี้หลาย ๆ ครั้ง เป็นสิบครั้ง ไม่ใช่ตนคุยกับชัย"

นักข่าวจี้ถามอีกครั้งว่า ทำไมต้องคุยกับเมียชัยด้วย ซึ่งเจ๊อ้วนก็ตอบว่า "ก็เขาเป็นคนไลน์เข้ามา ไม่ใช่ตนโทร. ไปหาเขา และปกติไม่เคยรู้จัก ตนเพิ่งเจอเขาแค่ครั้งเดียว คือวันที่เขามาบอก" จากนั้นทีมข่าวถามอีกว่า สงสัยไหมทำไมเมียชัยถึงโทร. มาคุยกับป้าอ้วน วันนั้นหลังจากเสี่ยหายตัว เจ๊อ้วนก็บอกว่า "เขาต้องการให้ตนจัดรายการจ่ายให้เขา ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยติดต่อกันเลย"

ทีมข่าวถามต่อว่า แต่นั่นก็มันวันที่ 25 ซึ่งมันผ่านไป 7 วันแล้ว เขาจะคุยเพื่ออะไร โดยเจ๊อ้วนตอบว่า "เพราะว่าที่ตนจะจัดรายการให้เขา เข้าใจไหมว่ามันคือเงิน เขาบอกว่าเขาต้องการให้เราจัดรายการให้ ก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่า เหมือนเป็นการเอาใจหรือว่าสอบถามประมาณนี้"

ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจากจุดพบศพซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดหน้าดินขึ้นมา พบว่า สภาพศพเน่าเปื่อย มือถูกเชือกฟางมัดไพล่หลัง ศพสวมเสื้อยืด สวมกางเกงสามส่วน นอนค่ำหน้าอยู่ภายในหลุม และเจอชิ้นส่วนเศษผ้าเป็นสีเทา ซึ่งตรงกับข้อมูลชุดกางเกงสุดท้ายที่เสี่ยหมาสสวมใส่อยู่ก่อนหายตัว