จากกรณีเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2567 ที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ซื้อบ้านหลังหนึ่งใน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ แต่หลังจากซื้อบ้านหลังดังกล่าวแล้ว ได้ของแถมเป็นผู้ป่วยติดเตียง 1 ราย และคนชรา 1 ราย โดยที่ยังไม่ย้ายออกจากบ้าน ช่วยตรวจสอบภายหลังพบว่า ลูกชายคนโตของสองตายายดังกล่าว แอบขายบ้านโดยที่ไม่บอกพ่อและแม่ และปล่อยพ่อและแม่ ซึ่งเป็นชายชรา และหญิงชราที่ป่วยติดเตียง อยู่บ้านเพียงลำพัง นั้น




ล่าสุดในวันนี้ (23 มี.ค.) ทีมข่าวจึงได้เข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง โดยทีมข่าวและพบกับ นายบุญทา อายุ 65 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างกลับจากการไปรับจ้างขายของ แถวประตูเมืองเชียงใหม่ โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณตาบุญทา โดยคุณตาบุญทา เผยว่า เมื่อวานได้มีประชาชนเข้ามาพบกับตนและสัมภาษณ์ตนไปหลายช่อง ซึ่งหลังจากที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวในตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีหน่วยงานอะไรเข้ามาช่วยเหลือตนและครอบครัว




และช่วงเมื่อเช้าที่ผ่านมาตนก็ไปขายของตั้งแต่ตี 1 จนถึงเที่ยงวัน ให้ภรรยาของตนอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งภรรยาของตนเขาเป็นผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตนเองบ้างอย่างเช่น กินข้าว แต่ก็ต้องนอน ใส่แพมเพิสอยู่บนเตียงผู้ป่วยโดยเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ ซึ่งปกติแล้วตนจะเป็นคนดูแลในทุกเรื่อง แต่ช่วงเวลาที่ตนไปขายของนั้นเขาก็จะอยู่เพียงคนเดียว




ตอนนี้สิ่งที่ตนอยากจะขอความช่วยเหลือ ก็คือ อยากจะขอให้เจ้าของบ้านคนใหม่นั้นยืด เวลาให้ตนไปก่อน เพราะตนตั้งตัวไม่ทัน และยังไม่มีที่อยู่ใหม่ ซึ่งถ้าหากตนพร้อมที่จะออกจากบ้านหลังนี้แล้วเดี๋ยวตนแจ้งไปอีกครั้ง ตนก็กลัวว่า เจ้าของบ้านคนใหม่จะนำทนายมาฟ้องร้องขับไล่ตอนออกจากบ้าน แล้วตนกลับภรรยาจะไม่มีที่อยู่ ในส่วนของลูกชายของตนนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ แต่ตนก็ไม่มีอะไรจะพูดกับลูกชายคนโตของตน มันพูดไม่ออก เสียใจที่ลูกชายคนโตทำกับตนและแม่เขาแบบนี้


ส่วนเรื่องความช่วยเหลืออื่น ๆ นั้น ตนอยากจะขอปรึกษากับภรรยาของตนก่อน แล้วเดี๋ยวถ้าตกลงกันได้ว่าต้องการความช่วยเหลือสิ่งใด ตนก็แจ้งให้กับสื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ แล้วในตอนนี้หลังจากที่เรื่องดังกล่าวได้เป็นข่าวไป ลูกชายอีกคนของตนก็ได้เข้ามาต่อว่าเพราะรู้สึกว่าอายที่กรณีดังกล่าวเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปหลังจากที่นำเสนอข่าว ในตอนนี้จึงไม่สะดวกที่จะให้สื่อมวลชนเข้ามาภายในบ้านหรือพูดคุยกับอะไรเพิ่มเติม




นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ทราบข้อมูลจากคุณตาบุญทา มาว่า ข้อมูลสุดท้ายคุณตาทราบเกี่ยวกับลูกชายคนโตได้ไปทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านอาหารที่สอนชาวต่างชาติทำอาหารด้วย โดยร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณแถวด้านหน้าวัดสวนดอก ในอำเภอเมืองเชียงใหม่


จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังบริเวณหน้าวัดสวนดอก เมื่อถึงหน้าวัดสวนดอกผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่และเดินสอบถามหาร้านอาหารดังกล่าว ซึ่งจากการสอบถามก็พบว่าบริเวณดังกล่าวไม่มีร้านอาหารในลักษณะดังกล่าว และนอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังได้นำรูปของลูกชายคนโตของคุณตาบุญทา เดินสอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งจากการสอบถามก็ไม่มีผู้ใดรู้จักบุคคลในรูปดังกล่าวเลย

 

ล่าตัวลูกชายแอบขายบ้าน ทิ้งพ่อ-แม่ป่วยติดเตียง