จากกรณีที่หนุ่มทหารเกณฑ์ชื่อว่า พลทหารเต้ย คิดสั้นกระโดดตึกโรงนอนด้วยความสูง 6 เมตร ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2567 โดยก่อนที่จะกระโดดตึกได้ส่งข้อความหาน้องสาว ตัดพ้อว่าโดนรุ่นพี่กดขี่ เบื้องต้นพลทหารเต้ยได้รับบาดเจ็บสาหัส และนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูใช้เครื่องปั๊มหัวใจ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยมีแม่เดินทางมาเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด




ขณะที่ทีมข่าวได้รับแชตข้อความระหว่างพลทหารเต้ย พูดคุยกับน้องสาวก่อนเกิดเหตุวันที่ 20 มี.ค. ซึ่งในข้อความมีการพูดคุยกันว่าทางครอบครัวจะไปรับพลทหารเต้ย วันที่ 1 เมษายน พร้อมถามว่ามีอะไรในนั้นไหม ซึ่งพลทหารเต้ย บอกว่า "มี พวกรุ่นพี่ชอบกด แต่เล่าไม่ได้มากนักต้องกลับไปเล่าที่บ้าน พี่โดนทุกคนกด ทุกคน ช่วยพี่ด้วย สั่นกลัวไปหมดแล้วตอนนี้" ซึ่งน้องสาวยังบอกตอนท้ายว่า "บอกจ่าได้ไหม" ซึ่งพลทหารเต้ย บอกว่า "ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย"




จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในขณะที่ก่อนเกิดเหตุ พบว่า เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 21 มี.ค. พลทหารเต้ย ได้มีการนั่งคุยกับเพื่อนทหารอยู่บริเวณโรงนอน จากนั้นเพื่อนได้เดินเข้าไปบริเวณโรงนอน โดยยังมีพลทหารเต้ยยังนั่งอยู่ที่เดิม ต่อมาพลทหารเต้ยได้เดินเข้าไปบริเวณประตูโรงนอน จากนั้นได้เดินออกมาจากประตูและเดินมาบริเวณระเบียงก่อนที่จะกระโดดลงมา ซึ่งความสูงจากพื้นดินขึ้นไปยังจุดที่โดดนั้นประมาณ 6 เมตร




เบื้องต้น พล.ต.ไพรัช ศรีแก้ว ผบ.มทบ.12 ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของพลทหารเต้ยและได้มีการพูดคุยกับครอบครัวซึ่งมีทางคุณพ่อ คุณแม่และน้องสาว ของพลทหารเต้ยได้เดินทางมาเยี่ยมเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ต่อมา พล.ต.ไพรัช ได้นำครอบครัวของพลทหารประกิต พร้อมกับสื่อมวลชนไปดูจุดที่เกิดเหตุ บริเวณโรงนอนภายในค่ายทหาร พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ในกรณีที่เกิดขึ้นจะมีการดำเนินการตรวจสอบ และขอยืนยันว่าจะทำการดูแลรักษา พลทหารเต้ยที่ทำการกระโดดจากเรือนนอนให้ดีที่สุด และขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และสิ่งที่อยากชี้แจง คือ การฝึกของทหารใหม่นั้น ได้ผ่านมา 5 เดือนแล้ว เพราะเป็น ทหารผลัด 2/2566 โดยตอนนี้ ได้มีการพักการฝึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก่อนได้ขึ้นกองร้อย ไปปฏิบัติหน้าที่ด้านเอกสารอยู่ในค่ายทหาร ซึ่งไม่ได้หนักอะไร




เบื้องต้นในที่เกิดเหตุมีภาพกล้องวงจรปิด โดยจะพบว่าน้องนั้นได้กระโดดลงมาเอง แต่ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ จะต้องทำการรักษาน้องเขาให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้รู้ ถึงสาเหตุที่แท้จริง ส่วนประเด็นที่ 2 ที่ทางโซเชียลไปลงว่าน้องกดดันแล้วทำให้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ทางหน่วยงาน จะได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงว่า เป็นเช่นไร เรามองไว้ 3 ประเด็น คือ 1. ถูกรุ่นพี่กดดัน 2. อาจจะเกิดจากปัญหาทางครอบครัว และ 3. มองในเรื่องของอาการป่วยของตัวผู้ก่อเหตุ


นอกจากนี้ พัทโทอำนาจ บุญถม ผู้บังคับกองพัน ทหารสารวัตรที่ 12 ยังได้พากองทัพสื่อ เข้าพื้นที่ไปยังค่ายทหาร ที่พลทหารผู้บาดเจ็บ พักและประจำการ และเป็นผู้พาเข้าจุดเกิดเหตุ และเปิดเรือนนอนของพลทหารประกิต พร้อมได้อธิบายเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุ คือ วันที่ 21 มีนาคม 2567 ซึ่งเผยว่า ในช่วงเวลา 18.00 น. ของพลทหารประกิต หรือ พลทหารเต้ย ได้เห็นว่ามีการออกมานั่งพูดคุยกับเพื่อนพลทหารด้วยกัน




หลังจากนั้น เพื่อได้เดินกลับเข้าเรือนนอนไป และเจ้าตัวมีการนั่งอยู่คนเดียวสักพัก ก่อนกลับเข้าเรือนนอนตามเพื่อน แต่หลังจากนั้นก็เดินออกมาหน้าโรงนอนแล้วกระโดดลงจากโรงนอนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งภาพกล้องวงจรปิดหน้าโรงนอนของกองพันสามารถจับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ และจะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครวิ่งไล่ตามหรือไล่ทำร้ายพลทหารประกิตแต่อย่างใด


ช่วงเวลา 18.40 - 18.44 น. ตอนนั้นคุยกับเพื่อนและเพื่อนเข้าไป พร้อมกับเจ้าตัวนั่งอยู่สักพัก และทำการเดินกลับไปเรือนนอน และวิ่งออกมากระโดดลงไป และเหล่าเพื่อนพลหารวิ่งออกมาดู


ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ พลทหารธนวัฒน์ เพื่อนสนิท โดยเผยว่า ตัวนายประกิต หรือ เต้ย มีท่าทีเปลี่ยนไปจากเดิม ในช่วงตอนที่ตนเปลี่ยนผลัดกลับบ้าน เพราะตนกลับช่วง 11-21 กุมภาพันธ์ ซึ่งในช่วงนั้ เพื่อนจะอยู่ทำงานคนที่กองทัพคนเดียว และพอกลับมาทางพลทหารเพื่อนตนก็ผลัดกลับบ้าน ตั้งแต่ 21-29 กุมภาพันธ์ ทำให้ไม่ได้มีการพูดคุยกันแบบเจอหน้า แต่จะมีเพื่อน ๆ มาบอกว่า เพื่อนเปลี่ยนไป แปลกไป และเมื่อกลับมา พยายามถาม หรือพูดคุยกัน ก็ได้แค่รู้ว่ามีความเครียดเรื่องโดดรุ่นพี่ว่า เรื่องการทำงาน แต่ไม่ใช่แค่เขาโดนพวกตนก็โดนด้วย เพราะเป็นรุ่นเล็กที่สุด ที่เข้าไปทำให้รุ่นพี่เคร่งกับการทำงาน และเรื่องที่บ้านเงินก็มีพูดถึง ตนมองว่าที่เพื่อนทำแบบนี้ เพราะหลาย ๆ อย่างรวมกัน




เวลาคุยกันก็จะบอกให้เขาค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ วิเคราะห์ ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ก็อยู่กับพวกตน ในวันเกิดเหตุเป็นช่วงที่ตนเฝ้าประตูหน้ากองทัพ ทำให้ไม่ได้อยู่กับเขา แต่ก่อนหน้านั้น ในช่วงบ่ายมีการพูดคุยกัน และตนค่อนข้างกังวล และมีความคิดว่าเขาจะทำแบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเมื่อวาน ตอนนั้นตนยืนประจำการและได้ยินเสียง ก็รู้เลยว่าเป็นเพื่อนตน อยากให้เขาหาย ๆ ไว กลับมาเป็นปกติ


ซึ่งต่อมาทางด้าน พัทโทอำนาจ ได้พาทีมข่าวไปดูห้องปฏิบัติงานของกองทัพ ที่พลทหารปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะมาทำงานด้านเอกสาร อยู่ภายในตึกไม่ได้มีการทำงานออกแดด และทีมข่าวได้สอบถามกับ พลทหารที่ทำงานกับ พลทหารประกิต ก่อนเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวาน ปกติดี ไม่ได้มีอะไรที่ผิดสังเกต พวกตนก็สอนงานและเขาก็มีความกระตือรือร้นดี ไม่ได้เหม่อหรือเหมือนกลุ้มใจ


ต่อมา ทางด้านครอบครัวของพลทหารประกิต ได้เปิดใจว่า ในตอนนี้ขอแค่ลูกกลับมา ไม่ได้ติดใจกับค่ายทหาร เพราะผู้ใหญ่ที่มากันในวันนี้ซัพพอร์ตและให้การช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน ต้องขอบคุณ ผบ.ทบ. และทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือดูแล และแสดงความจริงใจกับครอบครัว




ด้าน นางสาววันวิสา น้องสาวพลทหารเต้ย ได้เล่าว่า ช่วงพี่ชายกลับบ้านมักเล่าเรื่องความเครียด ความกดดันจากรุ่นพี่ให้ฟัง แต่เขาก็จะมีท่าทีปกติ ไปเล่นดนตรี ไปเล่นกับเพื่อนในช่วงกลับบ้านที่ผ่านมาตั้งแต่ 21-29 กุมภาพันธ์ ต่อมาในวันเกิดเหตุพี่ชายได้ทักหาตน ประมาณ 17.30 น. ตามแชตที่ปรากฏและก็หายไป แต่ก็ก่อนหายไปก็ได้โทร. คุยกับพี่ชาย เพื่อสอบถาม เรื่องดังกล่าว ซึ่งทางพี่ก็บอกเหมือนในไลน์เลย ว่ากลัวรุ่นพี่ รุ่นพี่ชอบกด ต่อมาช่วงเวลา 2 ทุ่มกว่า ๆ ก็มีการโทร. มาแจ้งพ่อและก็เดินทางออกมาเลย


ในวันนี้ อย่างที่ทุกคนเห็นว่าทางหน่วยงาน หรือผู้ใหญ่แสดงความบริสุทธิ์ กับครอบครัวก็ต้องขอบคุณ แต่ความจริงยังไง เกิดอะไรขึ้น ก็ต้องหาคำตอบ เพราะตนเป็นคนได้คุยกับพี่ชาย และเป็นได้ข้อความที่ทำให้ทราบว่า พี่ชายโดนรุ่นพี่กด และในด้านทางครอบครัว พี่ชายไม่มีใคร ไม่มีพันธะ เรื่องเงินครอบครัวซัพพอร์ต พ่อแม่ก็ไม่มีอะไร มองว่าไม่น่าใช่ปัญหาหรือสาเหตุทำให้พี่ชายตัดสินใจแบบนี้ ก็ต้องรอการพิสูจน์และอย่างเรื่องยาสารเสพติด พี่ชายก็ไม่เคยมีประวัติ โรคซึมเศร้าก็ไม่มี


พร้อมกันนี้ จากข้อมูลเชิงลึกพบว่า พลทหารประกิต ได้มีการมาหาหมอช่วงบ่ายของวันที่ 20 มี.ค. เพราะเจ้าตัวบอกว่าไม่สบาย และจากเช็กข้อมูลผลตรวจ หลังมีการกระโดดตึก พบว่าในร่างกายของพลทหารนั้น มีสารผิดปกติอยู่ในร่างกาย แต่ต้องรอให้ทางตำรวจ และหน่วยงานตรวจสอบความจริงอีกครั้ง ว่าสารที่พบนั้นเป็นอะไร มีผลต่อร่างกายหรือกระตุ้นให้ทำการกระโดดหรือไม่ หรือมีเหตุผลอื่นที่ตัเสินใจกระโดด จากเรือนนอนด้วยความสูง 6 เมตรนั้น คืออะไรกันแน่

 

พลทหารเครียดดิ่งตึกในค่ายสาหัส เผย แชตฟ้องน้องถูกบุคคลปริศนากดดัน