จากเหตุอาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ยกพวกทำร้ายร่างกายฝ่ายอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณปั๊มแห่งหนึ่งบนถนนเทพรักษ์-สายไหม แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด ทีมข่าวลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุและพบว่ารถของกู้ภัยคนที่บาดเจ็บยังคงจอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน

ล่าสุดนี้ตำรวจได้คุมตัวนายศิริรักษ์ หรือเอ็กซ์ ผู้ก่อเหตุ มาที่ห้องพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยระหว่างทาง นายเอ็กซ์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์กร และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เมื่อปี 61 เพราะเหตุดังกล่าวได้เคลียร์จบไปแล้ว

แต่สาเหตุที่ตนเองเดินปรี่เข้าไปตบหน้าบังซา ผู้บาดเจ็บ เพราะมีปมในใจกับบังซา แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นเรื่องอะไร บอกเพียงว่ามีหลายเรื่อง สำหรับเหตุการณ์นี้ตนเองไปสังเกตการณ์เฉยๆ ไม่ได้ไปในนามอะไรทั้งสิ้น เพราะตนเองไม่ได้เป็นอาสาอยู่แล้ว และไม่รู้มาก่อนว่าจะได้กับบังซา

พันตำรวจเอกอนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับสน.บางเขน เข้าสอบปากคำฝั่งผู้ก่อเหตุ วันนี้เรียกนายเอ็กซ์ เป็นคนที่ลงมือตบหน้า บังซาผู้บาดเจ็บ ส่วนผู้ชายอีกคนหนึ่ง ที่เตะตัดขาผู้บาดเจ็บ จนล้มหัวฟาดพื้น ตำรวจก็ได้เรียกมาสอบปากคำเช่นกัน แต่ยังไม่ได้เข้ามาพบในวันนี้

หลังสอบปากคำเสร็จ ผู้กำกับสน.บางเขน ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับองค์กร มีเจ้าหน้าที่บางคนของมูลนิธิร่วมกตัญญู เขตสายไหม และมีเจ้าหน้าที่บางคนของอปพร.เขตสายไหม ไม่ถูกใจกันอยู่ เคยโพสต์ท้าทายกันในโลกโซเชียล

แล้วทั้งสองฝ่ายก็ได้มาเจอกัน เพราะเมื่อคืนนี้มีอุบัติที่ซอยพหลโยธิน 54/1 ทางมูลนิธิไปถึงก่อน แล้วทางอปพร.เขตสายไหม ตามมาทีหลัง

หลังจากที่ส่งผู้บาดเจ็บเสร็จแล้ว ทั้งสองฝ่ายจึงได้นัดเคลียร์กันที่ปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ

โดยบังซา เป็นตัวแทนของมูลนิธิร่วมกตัญญู เอ็กซ์ มาในนามของอาสาอปพร.เขตสายไหม ซึ่งทั้งสองคนก็ได้มาเจอกัน ซึ่งนายเอ็กซ์ได้เข้าตบหน้า บังซาทันที เพราะเคยมีเรื่องกันเมื่อปี 61 นายเอ็กซ์ ผูกใจเจ็บเพราะคิดว่าบังซา เป็นคนที่ทำให้ตัวเองต้องติดคุก ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่ององค์กร หรือทับที่ทับทางกัน

หลังจากที่นายเอ็กซ์ ตบหน้าบังซา มีผู้ชายอีกหนึ่งคน ได้เข้ามาเตะตัดขาบังซา ทำให้ล้มหัวฟาดพื้น ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นตำรวจได้เข้ามาในพื้นที่ ฝ่ายอปพร.จึงแตกกระเจิงออกจากพื้นที่

วันนี้นายเอ็กซ์ ได้เข้ามามอบตัว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าตัวเองไม่ได้จะเอาให้ถึงตาย เพราะไม่ได้มีอาวุธอะไร และตามตัวชายที่เตะตัดขาบังซา จนล้มหัวฟาดพื้น ให้มามอบตัว ซึ่งตอนนี้ตำรวจรู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร เป็นทีมอปพร.เขตสายไหม

ส่วนผู้บาดเจ็บกำลังรอผลการตรวจ เพื่อนำมาประกอบสำนวน เบื้องต้นเตรียมดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองคน คือร่วมกันทำร้ายร่างกาย

ส่วนที่มีการแจ้งความเอาไว้ที่สน.สายไหม ว่ามีการยิงปืนข่มขู่ใส่รถของอปพร. สน.สายไหมไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีปลอกกระสุน

เตรียมนัดผู้บริหารทั้งสองฝ่ายมาคุยกันอีกครั้ง เพื่อตกลงกัน จะได้ไม่มีปัญหากันอีกในอนาคต ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 61 แล้ว

ทางด้านของนายพิมพ์ชนก กรรมการอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนต้องบอกว่าเรื่องนี้มีการที่จะโยงว่าเป็นความขัดแย้งขององค์กร แต่ตนมองว่าไม่ใช่ จุดเริ่มต้นมันเป็นปัญหาขัดแย้งของบุคลากรทั้ง 2 ฝ่าย ที่ไม่ชอบกันเป็นการส่วนตัว

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนแรกเราได้รับแจ้งเหตุว่ามีอุบัติเหตุ ทางอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูของเราจึงได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ไปถึงก่อน ซึ่งโดยระบบมาตรฐาน ซึ่งเป็นระบบที่สำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร เขาวางระบบเอาไว้ ก็คือหากทีมไหนไปถึงก่อนสามารถประเมินอาการ และดำเนินการให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

ซึ่งทีมของทางร่วมก็ไปถึงก่อนและได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จากนั้นทางทีมของคู่กรณี(อปพร.) ก็ได้ตามมา และเกิดการแซะกัน และพูดจาไม่ดีกัน จนมีปากเสียงกันเล็กน้อย ซึ่งด้วยความที่ไม่ชอบกันมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้ตกลงว่าจะมีการนัดเคลียร์กัน โดยทางฝั่งของร่วมกตัญญู จะให้บังซา ผู้บาดเจ็บ ไปเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย เพราะเขาเป็นกรรมการ และเป็นผู้อาวุโส โดยตอนแรกตกลงกันว่าจะไป 2-2 ไปคุยตกลงกัน แต่ก็มากันเยอะตามที่เห็น และมีการรุมทำร้ายกันตามคลิปที่เห็น

ซึ่งตัวของบังซากับนายเอ็กซ์นั้นเคยมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้แล้ว

โดยหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นตนเองได้เดินทางไปยังศูนย์อปพร. เขตสายไหม ซึ่งไปถึงตนก็เข้าไปถามและแนะนำตัว และบอกว่าตนจะมาตามหาคนที่ทำร้ายร่างกายคนของทางร่วมกตัญญู ขอให้ออกมาคุยกัน ให้ออกมาคุยกัน แต่ก็ไม่มีใครออกมา ตนจึงได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ฝั่งตนกลับไปร่วมตัวกันที่ปั๊มน้ำมันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ โดยระหว่างที่ตนกำลังกลับไปปั๊ม ก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับตามมา ก่อนจะตะโกนด่ากลุ่มตนด้วยคำไม่สุภาพ ทางอาสาตนจึงเปิดกระจกถามว่าตะโกนด่าอะไร แต่เขาก็ขับรถจักรยานยนต์หนี ทางอาสาจึงขับรถไล่ตาม พอถึงจุดๆหนึ่ง ก็ถูกชักปืนยิงใส่ แต่ไม่โดนใคร

นายคม เจ้าหน้าที่อปพร.สายไหม ที่อยู่ในเหตุการณ์ เผยกับทีมข่าวผ่านทางโทรศัพท์ ว่า ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บภายในซอยพหลโยธิน 54 / 1 แล้วเกิดมีปากเสียงกับกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเรื่องที่มีปากเสียงก็เป็นปัญหาส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเคสคนเจ็บ หลังจากนั้นได้มีการนัดเคลียร์กันที่ร้านสุกี้แห่งหนึ่ง โดยมีเงื่อนไข ว่าให้แต่ละฝ่ายส่งคนไปเคลียร์กันฝั่งละ 2 คน แต่เมื่อเดินทางไปถึงร้านสุกี้ พบว่ามีรถกู้ภัยของร่วมกตัญญูจอดรออยู่นับ 10 คัน ซึ่งฝ่ายร่วมกตัญญูไม่ได้ทำตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ ว่าจะไปกันฝั่งละ 2 คน ทางฝั่งของ อปพร.สายไหม จึงไม่ได้ลงจากรถไปเคลียร์ตามนัด เพราะอีกฝ่ายไม่ทำตามสัญญาตั้งเเต่เเรก จึงได้เดินทางกลับฐาน

แต่หลังจากนั้นปรากฏว่าทางกลุ่ม อปพร.สายไหม และกลุ่มของร่วมกตัญญู ได้ไปพบกันภายในปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปั๊มน้ำมันนั้น เป็นความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างบังซา(ผู้บาดเจ็บ) และนายเอ็กซ์(ผู้ก่อเหตุ) ที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อปี 2561 ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องแย่งเคสคนเจ็บ เเละไม่ใช่ข้อพิพาทระหว่างหน่วยงาน แต่เป็นความบาดหมางส่วนตัว