อัยการสั่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหาบุกรุกบ้านอากู๋ ส่งฟ้องศาล เจอ 3 ข้อหาหนัก บุกรุก ลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์

วันที่ 6 มี.ค. เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานอัยการมีนบุรีมีคำสั่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหา คือ น.ส.ศรีพรรณ , นางนิตยา ,นายพลกฤษณ์ และ น.ส.มาลี ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกัน บุกรุก,ลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ บ้านอากู๋ ซอยรามอินทรา 58 โดยมาเข้ารับฟังคำสั่งพนักงานอัยการ พร้อมนายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความ

นายสุรศักดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ตนเองรับผิดชอบในคดีอาญาเรื่องการบุกรุกเท่านั้น ซึ่งคาดว่าวันนี้อัยการจะมีคำสั่งฟ้องทันที สำหรับ น.ส.ภาณุมาศ สามัคคี หนึ่งในผู้ต้องหาที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะจำหน่ายคดีไป ขณะที่เรื่องการเจรจาก็ได้พูดคุยกับนายซัน และ น.ส.อาย คู่กรณีไปบ้างแล้ว ลูกความตนเองก็ยอมรับผิดในส่วนที่ผิด พร้อมขอเวลาแก้ไข เพราะมีผู้เสียชีวิตไปแล้วก็ไม่อยากให้เหตุบานปลายไปมากกว่านี้

นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 กล่าวว่า หลังรับตัวผู้ต้องหาแล้ว คณะพนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานบุกรุก,ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ ตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาไว้ เนื่องจากได้พิจารณาประกอบพยานหลักฐานแล้วพบว่ามีมูล โดยสัปดาห์ก่อน พนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องแจ้งเข้ามาว่ามี น.ส.ภาณุมาศ หนึ่งในผู้ต้องหาได้เสียชีวิตลง ก็สั่งยุติคดีไป ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 รายก็จะนำตัวส่งฟ้องต่อศาลอาญามีนบุรีในวันนี้ทันที

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาตั้งแต่ในชั้นสอบสวน ขณะที่ชั้นอัยการ ผู้ต้องหาไม่ได้มีข้อร้องขอความเป็นธรรมใดๆ ทั้งยังมีความพยายามจะขอเจรจากับคู่กรณีด้วย แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มาพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม หากบ้านของคู่กรณีได้รับความเสียหายจากการบุกรุกก็สามารถร้องขอค่าชดเชยทางแพ่งได้

ด้านน.ส.ศรีพรรณ และผู้ต้องหาคนอื่นๆ ได้เดินทางขึ้นรถและเดินทางไปศาลต่อทันที พร้อมปฏิเสธไม่ตอบคำถามใดกับสื่อมวลชน

ต่อมา 10.00 น. น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ทนายความฝ่ายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้คู่กรณีรวมถึงทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับลูกความอย่างเป็นทางการ แม้ที่ผ่านมา ได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้ามาเจรจา แต่ในเมื่อคดีถึงชั้นศาลแล้วก็ให้มาพูดคุยกันที่ศาล ซึ่งวันนี้อัยการได้นัดส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีบุกรุก ซึ่งลูกความจะเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 3 แสนบาท และเรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปีตามที่มีหลักฐาน โดยให้จ่ายเป็นเดือน เดือนละ 20,000 บาท

ส่วนสำนวนคดีที่ 2 หรือคดีครอบครองปรปักษ์ พนักงานสอบสวนยังคงสอบสวนอยู่ แม้ น.ส.ศรีพรรณ ได้ยื่นถอนคำร้องการครอบครองแล้ว แต่ศาลยังไม่มีคำสั่งถอนคำร้อง จึงต้องรอนัดหมายอีกครั้งวันที่ 18 มี.ค.นี้

ทนายกุ้ง กล่าวอีกว่า ยังคงยืนยันว่าหากเปลี่ยนตัวทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายฝั่งคู่กรณี ตามข้อตกลงของอากู๋ เชื่อว่าการเจรจาน่าจะง่ายขึ้น แต่จนขณะนี้เจ้าตัวไม่เคยติดต่อเข้ามาพูดคุย