จากกรณีเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 25 ก.พ. 2567 พ.ต.ต.ณัฐพงษ์ อาจอ่ำ สารวัตรเวรสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันบนสะพานธนะรัชน์ ข้ามแม่น้ำแม่กลอง และมีรถตกลงไปในแม่น้ำมีคนติดอยู่ในรถด้วย 2 คน จึงประสานขอรถยก นักประดาน้ำ ให้เข้าไปช่วยเหลือในจุดเกิดเหตุก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลราชบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งสปอร์ต สีบรอนซ์ สภาพด้านหน้ารถและด้านข้างซ้าย พังยับ มีนายสิทธิศักดิ์ หรือ หมึก บอนไซ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงบอนไซ อายุ 70 ปี เป็นคนขับรถยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ

ขณะที่โลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ วินาทีรถยนต์สีขาวชนกับรถเก๋งสปอร์ตของ หมึก บอนไซ บนสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ก่อนที่รถยนต์สีขาวจะตกลงสะพานลงสู่แม่น้ำแม่กลอง โดยเหตุการณ์ในคลิป พบว่า รถยนต์สีขาวได้มีการชนเข้าที่ด้านข้างฝั่งทางซ้ายของรถเก๋งสปอร์ตของ หมึก บอนไซ ที่จอดอยู่บนสะพาน จากนั้นได้ถอยหลังและพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะชนครั้งที่ 3 และพุ่งชนกับราวสะพานและตกลงสู่แม่น้ำแม่กลอง และปรากฏว่าก่อนที่รถจะจมดิ่งสู่ก้นแม่น้ำ พบว่ามีผู้รอดชีวิตขึ้นมา 2 ราย และมีการรายงานว่ามีผู้สูญหาย 2 ราย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบว่า รถยนต์สีขาวที่ตกไปในแม่น้ำแม่กลองเป็นของนายสุพล วัย 69 ปี อดีตนายอำเภอมายอ จ.ปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามลงไปช่วยงมหาคนที่ติดอยู่ในรถ 2 คน ตามที่นายสุพลแจ้ง แต่เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวเพราะอยู่ใกล้กับตอม่อสะพาน จึงทำได้เพียงใช้เชือกผูกยึดรถไว้ไม่ให้ลอยออกไปไกล และรอรถเครนขนาดใหญ่มาช่วยยกรถขึ้นมาเหนือผิวน้ำ จึงสามารถนำร่างที่ติดอยู่ในรถขึ้นมาได้ แต่เสียชีวิตทั้งคู่



ทราบชื่อคือ นายพิณ อายุ 98 ปี พ่อของนายสุพล และ นางเครือวัลย์ อายุ 67 ปี ภรรยาของนายสุพล นอกจากนี้ยังมีผู้รอดชีวิต อีก 1 ราย คือ นางสาววราวรรณ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นคนที่ดูแลนายพิณ พ่อของนายสุพล เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการ ส่วนนายสุพลซึ่งเป็นคนขับรถคันที่ตกน้ำ ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะ และที่มือทั้ง 2 ข้าง เจ้าหน้าที่ช่วยกันประถมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมทั้งนั่งเฝ้าดูการเก็บกู้ซากรถขึ้นมาจากแม่น้ำด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากพ่อและภรรยาเสียชีวิตทั้งคู่

ผู้สื่อข่าวได้พยายามพูดคุยกับทางนายสุพล อดีตนายอำเภอมายอ จ.ปัตตานี เจ้าของรถคันที่ตกลงในแม่น้ำแม่กลอง เล่าว่า ตนได้เดินทางไปพร้อมกับคุณพ่อ โดยให้คุณพ่อนั่งที่ด้านซ้ายของคนขับเพราะอายุมากแล้ว และให้ภรรยานั่งทางด้านหลังที่นั่งคนขับ และให้ น.ส.วราวรรณ เป็นผู้ดูแลคุณพ่อนั่งอยู่ด้านหลังทางซ้าย เพื่อไปร่วมพิธีพระราชทานน้ำสังข์สมรสพระราชทานจากสมเด็จพระสังฆราชของลูกสาวที่กรุงเทพมหานคร และกำลังเดินทางกลับบ้านพักใน ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี



จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ตนได้เดินทางมาจนถึงช่วงคอสะพานธนรัชต์ข้ามแม่น้ำแม่กลองฝั่งค่ายภานุรังษี จะแซงรถเก๋งคู่กรณีเพื่อเข้าทางหลักขึ้นสะพานแต่จู่ ๆ เก๋งคู่กรณีเร่งเครื่องคล้ายไม่ให้ตนแซงจึงเกิดการเฉี่ยวชนกันที่ประตูรถเก๋งฝั่งทางซ้าย และทำให้ตนตกใจประกอบกับคุณพ่อและภรรยาเกิดความตกใจส่งเสียงร้อง ทำให้ตนเข้าเกียร์ถอยหลัง แต่ก็กลัวจะไปโดนรถคันหลังอีก จึงเข้าเกียร์เหยียบคันเร่งทำให้พุ่งชนเข้าไปที่รถคู่กรณีซ้ำอีกครั้ง ยิ่งทำให้ตนตกใจ ทุกคนที่อยู่ในรถเกิดขวัญเสีย ตนก็พยายามที่จะเข้าเกียร์ถอยหลังเพื่อถอยออกมาแต่แล้วรถก็พุ่งซ้ำเข้าไปอีกครั้ง ตนจึงหักรถหลบแต่พลาดไปชนกับราวสะพานจนล่วงลงตกสู่แม่น้ำแม่กลองดังกล่าว

ทั้งนี้ ไม่รู้คนในรถเก๋งที่อยู่ด้านบนมีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ตอนนั้นตนพยายามใช้มือและของแข็งทุบกระจกรถเพื่อหนีออกมา และเห็นญาติที่มาด้วยกันหนีขึ้นมาได้ แต่ไม่เห็นภรรยาและพ่อขึ้นมาจากนั้นตนก็ได้แต่ภาวนาให้ทั้ง 2 คนรอดปลอดภัย พยายามภาวนาถึงหลวงปู่ทวดตลอดขอให้ทุกคนปลอดภัย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำร่างขึ้นมาและทราบว่าทั้ง 2 คนเสียชีวิต ตนก็รู้สึกเสียใจและไม่คิดว่าวันนี้เป็นวันดีของครอบครัว แต่ต้องกลับมาสูญเสียบุคคลสำคัญของครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับ

นายสุพล เล่าต่ออีกว่า พ่อวัย 98 ปี ก่อนหน้าก็พูดกับตนเสมอเรื่องความตาย และเรื่องการเกิดอุบัติเหตุ เพราะพ่อก็อายุมากแล้วอีก 2 ปี ก็จะครบ 100 ปี แต่แล้วก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาพบกับนายสิทธิศักดิ์ หรือ ครูหมึก บอนไซ อายุ 70 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงต้นบอนไซ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยครูหมึก บอนไซ ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า เหตุการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา ตนขับรถสปอร์ตเพื่อมาซื้อลวดมาจัดทรงบอนไซ กับคนที่รู้จักในตัวเมืองราชบุรี โดยเมื่อไปถึงก็ใช้เวลาคุยกันถึง 3-4 ชั่วโมง ก็รู้สึกหิวข้าว จึงได้ขอตัวขับรถกลับบ้านเพื่อไปทานข้าวที่บ้าน แต่ในระหว่างทางที่ขับรถกำลังจะกลับบ้านนั้น ตนเองได้นึกถึงเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน จึงตั้งใจจะไปหา โดยเพื่อนคนดังกล่าวอยู่ที่ อ.โพธาราม จึงตั้งใจขับรถไปหาเพื่อนและจะไปกินข้าวพร้อมเพื่อนเลย

แต่เมื่อจอดรถเพื่อโทร. หาเพื่อน เพื่อนก็บอกตนว่าวันนี้ไม่สะดวกเพราะจะต้องออกไปตลาด วันหน้าค่อยมาคุยกัน จึงทำให้ตนตัดสินใจขับรถกลับบ้านที่ จ.เพชรบุรี เหมือนเดิม ซึ่งระหว่างทางการขับรถกลับบ้าน ตนเป็นคนขับรถไม่เร็ว ประกอบกับรถที่ขับมาคือรถสปอร์ตจึงอยากขับช้ ๆ เพื่ออวดสายตาชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมา จะได้ดูรถสวย ๆ ตนจึงขับมาใช้ความเร็วเพียง 40 กม./ ชม. เท่านั้น

ทว่า ขับมาเรื่อย ๆ ก็มานึกขึ้นได้ว่าหิวข้าว จึงตัดสินใจกลับรถมาในตัวเมืองราชบุรี เพื่อหาอะไรทาน จนเวลาประมาณ 17.30 น. ตนขับมาถึงบนสะพานธนรัชต์ ข้ามแม่น้ำแม่กลอง ตนก็รู้แล้วว่าสะพานเส้นนี้ เมื่อใกล้ถึงสะพานจะเป็นถนนคอขวด บีบให้เหลือเพียง 2 เลน จึงขับชิดซ้ายเข้ามาในเลนปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ในขณะที่ขับมาถึงคอสะพาน รถข้างหน้าเบรกกะทันหัน ทำให้ตนก็ต้องเบรกตาม จู่ ๆ ก็มีรถขับคันขาว ๆ ตนเห็นแวบเดียวมาพุ่งชนทางด้านซ้ายของรถทันที ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้ตั้งหลักอะไรเลย ทำให้รถหมุนเสียการทรงตัว ตอนนั้นรู้สึกตกใจมากเพราะเกิดมา 70 ปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน แต่ก็พยายามตั้งสติ ดึงเบรกมือและเหยียบเบรกเท้าเพื่อให้รถหยุดนิ่ง

จากนั้นตนก็เห็นว่ารถคันที่เบี่ยงมาชนรถตนถอยหลังตั้งหลัก เพื่อขับมาจอดคุยกับตน แต่ก็คิดผิดเพราะรถคันดังกล่าวถอยหลังจนล้อฟรีจนควันดำขึ้นโขมง แล้วเดินหน้ามาพุ่งชนหน้ารถของตนทันทีแบบเต็มแรง แต่รถตนก็ไม่ได้ขยับไปไหน เนื่องจากตนดึงเบรกมือและเหยียบเบรกเท้าเอาไว้แล้ว โดยรอบบนี้ตนเองได้สวดอาราธนานึกถึงหลวงปู่ทวด รวมไปถึงขอพรจากพระเครื่องที่อยู่ท้ายรถตนกว่า 30-40 องค์ ขอให้ช่วยชีวิตตนด้วย และต่อมาเมื่อรถคันดังกล่าวพุ่งมาชนรถตนแล้ว ก็ยังไม่พอใจอีก ยังจะขับถอยหลังไปอีกประมาณ 4 เมตร แล้วพุ่งมาชนหน้ารถตนอีกรอบ แต่รอบนี้รถคันดังกล่าวขณะที่ชนรถตนก็เสียหลักแฉลบลงข้างสะพาน ตกลงไปในน้ำ

หลังจากนั้นตนก็ได้มาทราบว่า คนที่ขับรถมาชนรถของตนคืออดีตนายอำเภอ ยิ่งทำให้ตนโกรธเข้าไปใหญ่ เพราะคนระดับนี้ยังไม่มีวุฒิภาวะในการยับยั้งชั่งใจหรือควบคุมอารมณ์ อีกทั้งหากรถของอดีตนายอำเภอไม่ตกลงไปจากสะพานลงน้ำเสียก่อน ก็เชื่อว่าคงจะต้องถอยรถกลับมาชนรถตนอีกไม่รู้จบจนกว่าจะพอใจ และคนที่สูญเสียก็คงจะต้องเป็นตนอย่างแน่นอน และถึงแม้ฝั่งอดีตนายอำเภอจะมีการสูญเสียบุคคลที่รักไปถึง 2 คนก็ตาม ตนก็มองว่าเป็นเรื่องของเวรกรรมที่ทำกับตนไว้ จึงทำให้เกิดความสูญเสียเช่นนี้

สุดท้ายตนมองว่าอดีตนายอำเภอท่านนี้จงใจที่จะพยายามจะฆ่าตน และพยายามทำลายทรัพย์สินของตนด้วย ไม่ใช่การประมาทและตกใจจึงก่อเหตุขับรถพุ่งชนตนแบบนี้ ทำให้หลังจากนี้ก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าตำรวจดำเนินดคีให้ถึงที่สุด และก็ขอให้ประชาชนทั่วไปที่ใช้รถใช้ถนนกันทุกวัน ถ้ามีสติและขับรถอย่างใจเย็น ก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุ หรือมีเรื่องมีราวกันบนท้องถนนอย่างแน่นอน

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ พบกับนายชัชวาล พดุงกิจ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงราชบุรี นายมานิต นพอมรบดี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเป็นที่ปรึกษาของ สส.กุลวลี โดยทั้งคู่เผยว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ทางแขวงทางหลวงก็ได้นำแบริเออร์น้ำ มาตั้งกั้นจุดที่เกิดอุบัติเหตุรถตกลงไปก่อน และในวันนี้พรุ่งนี้ก็จะมีการซ่อมแซมในทันที

โดยจะมีการซ่อมแซมราวสะพานในจุดที่เสียหายก่อน แล้วจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ ที่จะมีการเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างสะพานต่อไป อีกทั้งจะมีการเพิ่มป้ายสัญญาณไฟเตือน ถนนบีบจาก 4 เลน เป็น 2 เลน เพื่อให้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้ทราบว่าถนนข้างต้องควรระวังแล้ว

ถัดมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางกุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมคณะ โดยนางกุลวลี ได้เผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนได้ทราบข่าวเรื่องของอุบัติเหตุรถตกจากสะพานตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการสูญเสีย

สำหรับสะพานธนะรัชต์ ทางตนได้มีการเสนอแผนการปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2562 และในปี 2565 แผนการปรับปรุงสะพานธนะรัชต์ ก็ได้ผ่านมามติ ครม. และเริ่มมีการออกแบบและวางแผนการปรับปรุงสะพานดังกล่าวเรื่อย ๆ ซึ่งปัจจุบันทางกรมทางหลวงได้มีการออกแบบแผนการปรับปรุงสะพานแห่งนี้เสร็จสิ้นแล้ว โดยการออกแบบนั้นจะไม่มีการขยายสะพานจาก 2 เป็น 4 เลน เนื่องจากไม่มีพื้นที่ให้ขยายแล้ว อีกทั้งใต้สะพานธนะรัชต์นั้น ยังมีระเบิดตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ใต้แม่น้ำแม่กลอง เบื้องต้นค้นพบแต่ยังไม่ได้กู้ออกไปมีจำนวนกว่า 7 ลูกด้วยกัน นี่จึงทำให้สะพานแห่งนี้ไม่สามารถต่อเติมหรือสร้างอะไรที่มีแรงสั่นสะเทือนมาก ๆ ได้

แต่ถึงอย่างนั้นทางกรมทางหลวง ก็ได้มีการออกแบบเพิ่มความแข็งแรงของตัวสะพาน ซ่อมบำรุงผิวถนน เพิ่มไฟส่องสว่าง สีตีเส้น และที่สำคัญคือกั้นราวสะพานที่ต้องเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้มีมาตรฐานและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ให้เกิดความสูญเสียรายแรงเช่นนี้

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังงานรดน้ำศพของนายพิณ และนางเครือวัลย์ พ่อและภรรยาของอดีตนายอำเภอ ที่วัดใหม่ราษฎร์บำรุงเจริญธรรม ต.เกาะศาลพระ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี โดยร่างของทั้งคู่นั้นได้ตั้งไว้คู่กัน ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีทั้งญาติสนิทและบรรดาชาวบ้าน เริ่มทยอยมาร่วมงาน โดยทางนายสุพล อดีตนายอำเภอมายอ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นคนขับรถคันที่ตกน้ำ ยังอยู่ในอาการตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่

ทีมข่าวได้พูดคุยนายหมาก (นามสมมติ) พี่ชายของนางสาววราวรรณ ผู้ดูแลพ่อของนายสุพล ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว ได้เล่าให้กับทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า เมื่อวานตนนั้นได้พูดคุยกับทั้งน้องสาวและอดีตนายอำเภอที่รอดชีวิตมา โดยทางนายอำเภอเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองนั้นขับรถมาจากไปร่วมพิธีพระราชทานน้ำสังข์หลวงของลูกสาว จากสมเด็จพระสังฆราช ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กทม.

และก่อนเกิดเหตุก็กำลังจะขับรถกลับบ้าน ซึ่งภายในรถมี 4 คน ประกอบด้วยคนขับ คือ นายสุพล อดีตนายอำเภอ ข้างคนขับคือนายพิณ พ่อของอดีตนายอำเภอ เบาะหลังฝั่งคนขับคือนางเครือวัลย์ ภรรยาอดีตนายอำเภอ และเบาะหลังฝั่งข้างคนขับคือนางสาววราวรรณ น้องสาวของตน

โดยระหว่างเกิดเหตุอดีตอำเภอ เห็นว่ารถบนสะพานนั้นเบรกกะทันหัน จึงทำให้ตัวเองที่ขับรถตามหลังมาเบรกไม่ทัน เสียหลักไปพุ่งชนรถคันข้างหน้าทันที และเมื่อพุ่งชนแล้วก็ตกใจเป็นอย่างมาก จึงเข้าเกียร์ถอยหลังถอยรถออก แต่ก็กลัวจะไปโดนรถคันหลังอีก จึงเข้าเกียร์เหยียบคันเร่งแต่ก็พลาดไปพุ่งชนรถคันเดิมอีก และเมื่อชนซ้ำก็ตั้งสติไม่ได้แล้ว เข้าเกียร์ผิด ๆ ถูก ๆ จึงพลาดรถตกลงไปในแม่น้ำ สำหรับเรื่องที่รอดชีวิตออกมาจากภายในรถหลังรถตกน้ำไปแล้วนั้น ตนไม่ได้ถามว่ารอดชีวิตกันมายังไง เพราะทั้งคู่อยู่ในระหว่างที่ตกใจและร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปถึง 2 คนในคราวเดียว

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่เชื่อว่าอดีตนายอำเภอจะตั้งใจถอยหลังและพุ่งชนรถของคู่กรณีอย่างแน่นอน เพราะอดีตอำเภอเป็นคนใจเย็นธรรมะธัมโม อีกทั้งตนก็รู้จักกับอดีตนายอำเภอมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยอดีตนายอำเภอนั้นเป็นคนดีและเรียนเก่ง จึงทำให้เติบโตในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว