กรณีเมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 15 ก.พ. ร.ต.อาจ.ปรีรัชร์ เพชรรัตน์ รอง สว.สอบสวน สภ.พุนพิน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตบ้านพักรถไฟร้าง หน้าโรงเรียนธีราศม ชุมชนธีราศรม ซอย 1 ต้นโพธิ์ ต.ท่าข้าม​ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านร้างของการรถไฟ พบศพหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นางสุจินดา อายุ 53 ปี สภาพเปลือยกายทั้งหมด มีบาดแผลที่ท้ายทอยเลือดนองพื้น และพบเศษผ้าคาดว่าใช้รัดคอ และท่อนไม้ ยาวประมาณ 70 ซม. กว้างประมาณ 20 ซม. ปลายแหลมเจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐานนอกจากนี้พบกระเป๋าของผู้เสียชีวิตอยู่ห่างจากศพประมาณ 2 เมตร ตกอยู่





ส่วนผู้ต้องสงสัยชื่อนายบรรจง อายุ 50 ปี ซึ่งหลังจากเกิดเหตุเจ้าตัวได้นั่งรถไฟกลับไปยังบ้านเกิดก่อนที่จะถูกเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ นั้น


ทีมข่าวช่อง 8 ได้กล้องวงจรปิดก่อนและหลังเกิดเหตุมาหลายมุม โดยกล้องตัวที่ 1 ก่อนเกิดเหตุ เวลา 20.47.13 น. วันที่ 14 ก.พ. จับภาพนายบรรจง (ผู้ก่อเหตุ) ไปเดินกลางถนนเพื่อให้รถชน แต่โชคดีที่ชาวบ้านมาดึงตัวนายบรรจง ออกไปจากกลางถนนก่อน


กล้องตัวที่ 2 เวลา 21.01.04 น. นายบรรจง นั่งอยู่ที่สถานีรถไฟ ขณะที่นางสาวสุจินดา ผู้เสียชีวิต เดินอยู่คนละฝั่งกับผู้ก่อเหตุ จากนั้นเวลา 21.01.38 น. นายบรรจงผู้ก่อเหตุได้เดินเข้าไปจูงมือผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะพาผู้เสียชีวิตเดินออกจากสถานีรถไฟไป


กล้องตัวที่ 3 หลังจากนั้น จะเห็นภาพนายบรรจงเดินจูงแขนผู้เสียชีวิตข้ามฝั่งถนนไป เพื่อไปยังจุดเกิดเหตุ และกล้องตัวที่ 4 เวลา 21.35.31 น. จับภาพนายบรรจงเดินจูงแขนผู้เสียชีวิตขึ้นบันไดเพื่อไปยังศาลาจุดเกิดเหตุ โดยหากสังเกตตอนที่ทั้งขึ้นไปบนบันไดนั้น จะเห็นว่าขึ้นไปสองคน


กล้องตัวที่ 5 หลังก่อเหตุ เวลา 22.05.37 น. จะเห็นนายบรรจง ผู้ก่อเหตุ เดินลงมาจาจุดเกิดเหตุคนเดียว พร้อมกับมีสภาพถอดเสื้อผ้า ก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามสวมใส่เสื้อผ้าคืนมา ส่วนกล้องตัวที่ 6 เวลา 22.31.50 น. จับภาพนายบรรจงเดินออกจากจุดเกิดเหตุมาสถานีรถไฟ เพื่อซื้อตั๋ว ก่อนที่กล้องตัวที่ 7 นายบรรจงเดินข้ามมายังสถานีรถไฟ และกล้องตัวที่ 8 เวลา 22.41.36 น. จับภาพนายบรรจงเดินไปรอรถไฟเพื่อหลบหนีกลับบ้าน





นอกจากนี้ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้กล้องวงจรปิดมาเพิ่มเติม เป็นช่วงก่อนจะเกิดเหตุ ซึ่งกล้องทั้งสามมุมนี้จับใบหน้าของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุได้ชัดเจน โดยกล้องตัวที่ 9 เวลาประมาณ 21.29 น. จับภาพผู้เสียชีวิตเดินตามหลังผู้ก่อเหตุ เพื่อมุ่งหน้าไปศาลาจุดเกิดเหตุ ต่อมาเวลา 21.30.33 น. ผู้เสียชีวิตได้เจอกับเด็กน้อยคนหนึ่ง และมีการนำเงินให้กับเด็กน้อย กระทั่งเด็กน้อยคนนั้นได้ยกมือไหว้ขอบคุณผู้เสียชีวิต ส่วนกล้องตัวที่ 10 และ 11 จากภาพผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุเดินไปด้วยกันที่จุดเกิดเหตุ


ล่าสุด เวลา 14.00 น. ตำรวจได้ไปควบคุมตัวนายบรรจง ผู้ต้องหา ได้ที่บ้านพักในพื้นที่อำเภอเวียงสระจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเจ้าตัวก็รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมผู้เสียชีวิตจริง หลังจากถูกควบคุมตัว นายบรรจงก็ได้ขอตำรวจทานข้าวที่ร้านข้าวแกงแห่งหนึ่ง เนื่องจากตั้งแต่ก่อเหตุเจ้าตัวบอกว่ายังไม่ได้ทานข้าวเลย ตำรวจจึงพาผู้ต้องหาไปกินข้าวแกง ซึ่งเจ้าตัวก็มีสีหน้าเอร็ดอร่อย


ต่อมาเวลา 15.00 น. ตำรวจได้คุมตัว นายบรรจง มาถึง สภ.พุนพิน พื้นที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงโรงพักผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ต้องหาถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ และรายละเอียดเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุ แต่ผู้ต้องหาก็มีท่าทีเงียบ ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กระทั่งตอนที่จะเดินเข้าห้องสืบสวน นายบรรจงผู้ต้องหาได้พูดสั้น ๆ ว่า เมื่อคืนนี้ตัวเองเมาเหล้าจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้เลย





ต่อมา นายบรรจง ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองก็อยากจะขอโทษผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่กระทำลงไปเพราะอารมย์ชั่ววูบ นายบรรจงเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตัวเองและผู้ตาย ได้เดินไปที่ศาลาจุดเกิดเหตุตามปกติ กระทั่งได้มีเพศสัมพันธ์กัน


หลังมีเพศสัมพันธ์ตนเองก็สำเร็จความใคร่แล้ว แต่ผู้ตายเขาไม่เสร็จ เขาเลยเอาเล็บมือมาข่วนใบหน้าตัวเอง และใช้ปากมากัดคอตน ตนจึงรู้สึกโมโห ใช้มือต่อยใบหน้าผู้เสียชีวิต และใช้ไม้ตีที่ท้ายทอยผู้ตาย ส่วนที่ผู้ตายเสียชีวิตในสภาพเปลือยกายนั้น ก็ยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กัน และเขาก็ยินยอม ตนเองไม่ได้ข่มขืนเขา ส่วนเชือกที่เจอในที่เกิดเหตุตนเองก็ไม่ได้เอามัดมือ หรือรัดคอผู้เสียชีวิต


ซึ่งขณะสัมภาษณ์นายบรรจงก็ได้ชี้บริเวณลำคอ และแก้มด้านซ้ายให้ทีมข่าวดู เพื่อจะยืนยันว่าตนเองถูกผู้เสียชีวิตข่วนหน้าจริง หลังเกิดเหตุตนก็นั่งรถไฟกลับบ้านตามปกติ ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด


ทั้งนี้ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนเองเคยมีคดีอนาจารผู้หญิงมาก่อน ในพื้นที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งตอนนี้ก็ผลโทษออกมาแล้ว ส่วนที่มีข้อมูลว่าตนทนไม่ได้เวลาเห็นผู้หญิงก็จะเกิดอารมณ์นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง





ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังบ้านของผู้ก่อเหตุ ได้พูดคุยกับนายตุ่น (นามสมมติ) พ่อของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังก่อเหตุเสร็จลูกชายได้นั่งรถไฟมาลงที่สถานีบ้านซ้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนที่ลูกชายจะกลับมาบ้าน ด้วยท่าทีปกติ ไม่ได้มีพิรุธอะไร และลูกชายก็ไม่ได้บอกว่าเขาไปก่อเหตุฆ่าคนเสียชีวิตมาอีกด้วย


ซึ่งตัวเองมาทราบข่าวตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านช่วงบ่ายของวันนี้ โดยลูกชายตัวเองป่วยสติไม่ดีมาหลาย 10 ปีแล้ว แล้วเขาก็เป็นคนมีพฤติกรรมชอบมองผู้หญิงใส่กางเกงขาสั้น และชอบมองขาขาว ๆ ของผู้หญิง ส่วนเรื่องที่ลูกชายไปก่อเหตุนั้นตัวเองก็ไม่รู้รายละเอียด ปล่อยเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แล้วตัวเองก็อยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

ฟิวส์ขาด! สาวคู่นอนชวนระเริงรักยก 2 แถมเล็บข่วนหน้า สุดทนบีบคอ-ทุบหัว ทิ้งศพเปลือยบ้านร้าง