ไขปริศนาใครให้คีย์การ์ด ไอ้กิต อุ้มผัว น้องพร


ก่อนเกิดเหตุการณ์อุ้มฆ่านายใหม่ กล้องวงจรปิดของหมู่บ้านฯ จับภาพตอนเวลา 16.09 น. ของวันที่ 27 ม.ค. 2567 พบน้องพร ขับรถเข้าหมู่บ้าน โดยการเปิดกระจกรถและยื่นบัตรประชาชนให้ รปภ. ดู โดยไม่มีคีย์การ์ด


ต่อมาช่วงค่ำวันเดียวกันเวลา 22.05 น. ไอ้กิตขับรถเก๋งสีแดงเข้ามาในหมู่บ้านโดยไม่เปิดกระจกรถเนื่องจากใช้คีย์การ์ดเข้ามา




ภายหลังที่กิตได้ลงมืออุ้มใหม่ไปแล้วนั้น ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพหลักฐานวงจรปิด เวลา 04.56 น. วันที่ 28 ม.ค. 2567 จะเห็นพรขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านเพื่อตามหาสามีของเธอ หลังใหม่ทักมาบอกพรว่าทำผู้หญิงคนอื่นท้อง และไล่ให้พรไปหาสามีใหม่และทิ้งท้ายว่าอย่าตามหาใหม่อีก โดยพรขี่รถจักรยานยนต์ออกไปตามมหาสามีที่หายไปที่นอกหมู่บ้าน

จากนั้นเวลา 05.08 น. คืนเดียวกัน หลังจากที่พรตามหาสามีเพียงแค่ 10 นาที เธอก็เปลี่ยนใจแล้วขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่หมู่บ้านแล้วขี่กลับบ้านพัก ก่อนจอดรถจักรยานยนต์และเปิดประตูบ้านกลับเข้าไปในบ้าน




ทว่าคืนวันที่ 28 ม.ค. เวลา 23.06 น. พบว่า กิตขับรถเข้ามาหมู่บ้านเพื่อมาหาน้องพร แต่ไม่ได้ใช้คีย์การ์เหมือนกับวันเกิดเหตุที่ขับเก๋งสีแดง แต่เป็นการเปิดกระจกรถและใช้บัตรประชาชนเข้าหมู่บ้านแทน

จากนั้น วันที่ 29 ม.ค. 2567 เวลา 00.17 น. กิตและน้องพรออกมาจากบ้านพัก และเปลี่ยนเป็นขับรถกระบะของน้องพรออกมา โดยระหว่างที่จะออกจากหมู่บ้าน กิตใช้คีย์การ์ดสแกนออกจากหมู่บ้าน

 

เรวัช ชี้พิรุธนาทีอุ้ม ปืนอาจไม่ได้มีแค่ 1 กระบอก

พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยผ่านไลฟ์ในยูทูบ "โจ เรวัช กลิ่นเกษร" เกี่ยวกับคดีฆ่ามัดมือ มัดเท้า นายธนาสันต์ หรือใหม่ โดยบอกว่าในฐานะที่ตนเองเป็นตำรวจที่ทำคดีฆาตกรรมมาเยอะ มองว่าสาเหตุที่ทำให้ชาวบ้านให้ความสนใจคดีค่อนข้างเยอะ ก็เพราะพฤติกรรมของพร ภรรยาของผู้เสียชีวิต ทำให้ชาวบ้านมีงานคือเป็นนักสืบรวมถึงสื่อหลาย ๆ ช่อง โดยเฉพาะรายการโหนกระแสของคุณหนุ่ม และช่อง 8 ก็มีการช่วยตำรวจหาพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด ซึ่งตนจะสรุปว่าใครรอดหรือใครจะร่วง โดยตอนนี้ตำรวจได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมมาแล้ว ยืนยันว่าคดีนี้ยังไม่จบยังไม่ได้ปิดคดีนี้ คดีนี้ตำรวจเองก็สงสัยเหมือนกับที่ชาวบ้านสงสัย คดีที่เหมือนจะง่าย ตำรวจได้วงจรปิดตอนกลุ่มคนร้ายขับเบียดและนำตัวนายใหม่ขึ้นไปบนรถ โดยมีคนร้ายบนรถทั้งหมด 5 คน

ท่านเชื่อหรือว่า การที่นายใหม่โดนขับรถเบียดจนล้มหงายท้องลงข้างทาง จะมีคนในรถลงไปแล้วบอกว่าเชิญขึ้นรถครับ สำหรับตนนั้นไม่เชื่อ ไม่มีทางที่จะเป็นการเชิญขึ้นรถ และเชื่อว่าศาลก็คงไม่เชื่อ คนที่ลงไปที่อ้างว่าช่างกิตหลอกมา ตนเชื่อว่าต้องมีอาวุธปืนอีกกระบอกไปเอาปืนจี้บังคับนายใหม่ให้ขึ้นรถ อาจจะถือปืนไว้ในระดับเอวก็ได้ เพราะในความเป็นจริง ถ้าเราโดนกระแทกรถล้มข้างทาง ถ้าวิ่งหนีได้ก็ต้องวิ่งหนีแล้ว ที่ใหม่ไม่วิ่งหนีก็เป็นไปได้ว่าโดนปืนจี้บังคับ




ผู้ต้องหาทุกคนให้การแก้ตัวหมดว่าโดนช่างกิตหลอก แต่ตำรวจก็สงสัยเหมือนที่สื่อมวลชนสงสัยว่า 1. คุณนัดหมายแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อวางแผนปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่น ตำรวจต้องตั้งข้อหาแบบนี้ ส่วนคุณจะให้การหรือไม่ให้การ รวมถึงน้องผู้หญิงที่อยู่ในรถก็เป็นอีกเรื่อง ตอนมองว่าตำรวจไม่เชื่อคำให้การของบรรดาผู้ต้องหา ถ้าให้การแบบนี้ "มึงไม่ให้การซะดีกว่าไอ้หนู" เพราะที่นั่งในรถคันนั้นมีคุกเป็นทุนอยู่แล้ว ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้ผู้อื่นเสียอิสรภาพ ตนเชื่อว่าศาลน่าจะเชื่อพยานหลักฐานของตำรวจ รวมถึงกล้องวงจรปิดที่ตำรวจแนบในสำนวนสอบสวน

แล้วท่านเชื่อหรือว่า ไอ้กิตมันจะสามารถมัดมือมัดเท้าน้องใหม่ได้ด้วยตัวเองคนเดียว ท่านเชื่อไหม แต่ผมไม่เชื่อ ถ้าเป็นกุญแจมือ โยนไปแล้วใช้ปืนจี้บังคับก็ว่าไปอย่าง เชื่อว่าพวกนี้รู้กันอยู่แล้วว่ากิตกับใหม่มีเรื่องกันมาก่อน เมื่อกิตชวนจึงพากันไปด้วย แต่หลังจากที่เอาตัวใหม่มาที่อู่ มัดมือมัดเท้าแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าพวกนี้อาจจะกลับก่อน แค่นี้น้อง ๆ ทั้ง 5 คนก็มีความผิดในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ เพราะร่วมกัน 5 คน เข้าข่ายปล้นทรัพย์ โทษหนัก จำคุกเป็น 10-20 ปี แล้ว

กรณีนี้ก็ใช้อาวุธด้วย ทรัพย์ก็คือ รถจักรยานยนต์ โทรศัพท์ กระเป๋าเงิน แล้วร่วมกันมัดมือ มัดเท้า เอาเขาไปกักขัง ทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ ศาลอาจจะยกในข้อหาร่วมกันฆ่า แต่ร่วมกันปล้นทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้สูญเสียอิสรภาพ ท่านน่าจะรอดลำบาก


เรวัช จับพิรุธ น้องพร หุบปาก แนะบวชชี เจอแชตถูกลบ

พล.ต.ท.เรวัช ยังบอกอีกว่า คดีนี้ตำรวจยังไม่ได้จบคดีสรุปสำนวนสั่งฟ้องส่งไปที่อัยการ ยังหาพยานหลักฐานและตอนนี้ก็พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว ตำรวจเสนอขอหมายจับนางพรไป ศาลท่านยังไม่อนุมัติหมายจับ เพราะว่าเพียงพฤติการณ์ของนางพรมันไปคบชู้สู่ชายแล้วก็เป็นสาเหตุนางพรไปโกหกกิตว่าท้องจะทำอย่างไร ใหม่ก็ยังคาอกกันอยู่แถมมีทะเบียนสมรสด้วย พี่ไปจัดการให้เรียบร้อยก็แล้วกัน มันก็อาจจะบีบให้ช่างกิตไปดำเนินการตามที่มันเข้าใจว่าจะมีลูก มันจะเป็นพ่อคน ช่างกิตมันเป็นจิ้งหรีดมันปั่นง่าย

เดิมที่ตนเองคิดว่า (คิดเองไม่ได้เห็นสำนวน) กิตอาจจะไปอุ้มตัวใหม่มามัดมือ มัดเท้า เอาอาวุธขู่เพื่อที่จะบังคับให้ไปหย่ากับเมียเพราะกิตเป็นคนวู่วาม แต่ใหม่อาจจะรักพรมาก อาจจะบอกว่าไม่หย่าและมีทะเบียนสมรสทำให้ช่างกิตโมโหและยิงใหม่ แล้วหุ่นของกิตที่ค่อนข้างจะขี้ยา ท่านเชื่อหรือว่าจะแบกใหม่ไปคนเดียวได้ ในทางนิติวิทยาศาสตร์ก็ต้องไปตรวจที่เกิดเหตุว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำคนเดียว แต่ส่วนตัวเชื่อว่ามีคนช่วยในการซ่อนเร้นทำลายศพ ซึ่งตนเชื่อว่าตำรวจน่าจะมีหมายจับเพิ่มเติม

แม้พรจะเป็นคนฉลาดปฏิภาณไหวพริบดี กล้าพูด แต่ถ้าไปเจอตำรวจสืบที่เซียน ๆ แล้วก็ไม่สามารถจะปกปิดพฤติกรรมที่แท้จริงได้ แม้แต่ในรายการโหนกระแส ตอนที่หนุ่ม กรรชัย ถามว่ามีผู้ชายคนอื่นไหม แล้วพรตอบว่าไม่มี ตอนนั้นตนก็จ้องหน้าและรู้ว่าพรโกหก เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่สืบจะจับพิรุธพรได้ ถ้าดูรอยสักในตัวพร ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นรูปจิ้งจก 3 หาง (ตอนแรกคิดว่าเป็นรูปเหี้ย) คิดว่าไม่น่าจะเป็นผู้หญิงธรรมดา น่าจะเล่นคุณไสยมนต์ดำ หรือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวก็ไม่รู้




อย่างไรก็ตาม ตนชื่นชมผู้การฯ ฉะเชิงเทราที่ตามคดีอย่างรวดเร็ว คดีแบบนี้ต้องจบที่ระดับผู้การฯ ไม่ต้องให้ระดับผู้บัญชาการ หรือรอง ผบ.ตร. ลงไปดูเอง ซึ่งตนก็เชื่อว่าทั้ง 5 คนไม่น่ารอด อย่างน้อยที่สุดก็คือ โดนข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว

ส่วนตัวแล้วคิดว่า นางพรยังนอนหลับสบายไม่ได้ ลองไปย้อนฟังคำให้สัมภาษณ์นางพร ถ้ายังให้สัมภาษณ์เยอะแบบนี้ไม่ดี ขอแนะนำให้ไปบวชชี อย่างน้อยก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ใหม่ อย่าไปให้สัมภาษณ์มาก มีหน้าที่แค่ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ไปถือศีลปิดวาจาจะดีกว่า ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องจองเวรจองกรรมกันอีก

ตำรวจพยายามกู้ข้อมูลที่ พร-กิต ติดต่อกันแล้วลบไป ก็แนะนำทางตำรวจภูธรภาค 2 ท่านผู้การฯ ลองประสาน บช.ปส. ใช้เครื่องมือเข้าไปเก็บข้อมูล ตนคิดว่าจะมีประโยชน์มากกว่าจะไปสอบเค้นผู้ต้องหาที่ให้การจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ส่ง บช.ปส. ไปไม่เกินวันน่าจะออกหมายจับเพิ่มได้ ซึ่งตนก็น่าจะโทรไปแนะนำน้องตั้งแต่วันเกิดเหตุใหม่ ๆ แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้ต้องสู้กันด้วยเทคโนโลยี ขอให้ท่านประสานมาเพราะถือว่าเป็นผลงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้สังคมอยากจะรู้ถ้านางพรผิดก็ออกหมายจับเพิ่ม แต่ถ้าไม่ผิดก็ว่ากันไป เพราะตอนนี้ชาวบ้านไม่เชื่อว่าพรไม่เกี่ยว เนื่องจากดันไปโกหกว่าท้อง เหมือนไปปั่นจิ้งหรีดให้กัดกัน

คดีนี้ตนเชื่อว่าจะมีการสั่งฟ้องนายกิตกับพวกรวม 5 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ส่วนนายกิตอาจจะเพิ่มข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันสมควร แต่โทษหนักของนายกิตก็คือฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนอีก 4 คน ถ้ารอดข้อหาร่วมกันฆ่าก็น่าจะโดนจำคุกในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว

ส่วนพรนั้น ถ้ามีพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วศาลอนุมัติออกหมายจับ ตำรวจอาจจะแจ้งข้อหา ใช้จ้างวานฆ่า หรือร่วมกันฆ่าผู้อื่น หรือร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ ผมไม่รู้ว่าตำรวจจะได้อะไรเพิ่มเติม ตำรวจเชื่อว่าคุณมีส่วนรู้เห็น แต่ต้องทำให้ศาลท่านเชื่อด้วย

พุทธ จับพิรุธ! คีย์การ์ดน้องพรเปลี่ยนมือจริง "เรวัช" ชี้เป้ามีปืนเพิ่ม ไล่บวชชีห่วงจุดจบ