จากคดีมือปืนดักจ่อยิงกกหู น.ส.ปิ่นมณี หรือเด็ก สมศักดิ์ อายุ 37 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 ต.เขาพนม เสียชีวิตภายในสวนยางพารา หมู่ 10 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ เมื่อคืนวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะผู้ตายเข้าไปทำสวนทุเรียน ซึ่งอยู่ติดกับสวนยางเกิดเหตุ ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ จับกุม นายวิทยุต หรือโก แซ่ส้อ อายุ 45 ปี มือปืนคนลั่นไก

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ จับกุมตัว นางสุภัทตรา อายุ 46 ปี พร้อมด้วยนายสุรชัย อายุ 39 ปี 2 สามีภรรยา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้ขัดขืน ยอมให้จับกุมแต่โดยดี แต่ในเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ ตำรวจจึงคุมตัวทั้ง 2 คน ไปยัง สภ.เขาพนม ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีนั้น

วันนี้ 12 กรกฎาคม 2566 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง สภ.เขาพนม โดยช่วงค่ำวันนี้ นางสุภัทตรา และนายสุรชัย ได้ทำการสอบปากคำอยู่ในห้องสอบสวน ระหว่างที่ผู้ต้องหาสอบสวนอยู่นั้น ได้มีนางกฤตยาณี อายุ 49 ปี ผู้เสียหายอีก 1 ราย ได้เดินทางมายัง สภ.เขาพนม เพราะอยากเจอหน้านางสุภัทตราเนื่องจากสุภัทรตรา หลอกให้ตัวเองออกรถยนต์ให้แล้วไม่ไปจ่ายค่างวดรถหลายเดือน

โดยนางกฤตยาณี เปิดเผยว่า ตัวเองรู้จักกับนางสุภัทตรามา 10 กว่าปี ตอนแรกที่รู้จักกันเพราะหลานสาวตัวเองป่วย จึงพาไปให้นางสุภัทตรารักษาอาการให้เนื่องจากนางสุภัทตราเขาเป็นร่างทรงแม่กวนอิม และก็ทรงอีกหลายเจ้าแม่

จากนั้นตัวเองและครอบครัวก็เคยใช้บริการกับร่างทรงรายนี้มาเป็นประจำเกินกว่า 10 กว่าครั้ง โดย จะมีการคิดค่าครูประมาณครั้งละ 8,000 -15,000 บาท ซึ่งตัวเองก็ใช้บริการมาแล้วหลายครั้ง ค่าครูที่เสียให้กับร่างทรงรายนี้รวมกว่า 100,000 บาท

หากถามว่าเหตุใดถึงตัดสินใจจ่ายเงินให้กับนางสุภัทตรานั้น เนื่องจากว่าครอบครัวตัวเองก็เคยป่วยไม่สบายและเค้าเองก็เคยทำพิธีต่างๆและทำให้อาการเจ็บป่วยนั้นดีขึ้นจึงเป็นความรู้สึกที่ศรัทธาจึงสนิทสนมกันเรื่อยมา

จากนั้นเวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนางสุภัทตรา ผู้บงการก่อเหตุ ออกมาจากห้องสอบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ถึงแรงจูงใจ และการก่อเหตุครั้งนี้ ว่าเกี่ยวข้องกับเจ้าตัวหรือไม่ แต่สุภัทตราก็ไม่ตอบผู้สื่อข่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวสุภัทตรา เข้าห้องสอบสวนโดยเจ้าตัวก็ไม่ยอมตอบทีมข่าวแต่อย่างใด ที้งยังเอาใบหน้า ซุกซ่อนแผ่นหลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ จังหวะนั้นได้มีนางกฤตยาณี ผู้เสียหายที่เคยถูกนางสุภัทตรา หลอกให้ออกรถยนต์ให้ ได้มายืนรอสอบถามนางสุภัทตรา ที่หน้าห้องสอบสวน ว่าจะจัดการเรื่องรถยนต์อย่างไร นางสุภัทรตรา ก็ตอบนางกฤตยาณีว่า “เดี๋ยวค่อยคุยกันทีหลัง” ก่อนที่ผู้ต้องหา จะเดินเข้าห้องสอบสวนไป

นางกฤตยาณี กล่าวต่อว่า โดยเมื่อประมาณปี 2561 นางสุภัทตรา มาร้องขอให้ตัวเองออกรถให้ เพราะชื่อของเขาติดแบล็คลิศ จากนั้นตัวเองก็เป็นผู้จัดการในการซื้อรถยนต์กระบะคันหนึ่งมูลค่าประมาณ 618,691 บาท โดยทางด้านนางสุภัทตรา แล้วนางสุภัทรตราจะเป็นผู้จ่ายเงินทั้งหมดเอง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น นางสุภัทรตรา ก็จ่ายเงินค่างวดรถอยู่ตลอดไม่เคยบิดเบี้ยวจนกระทั่งไม่นานมานี้เค้าเองก็ได้ขอวอนให้ตนเองจ่ายค่างวดรถให้จำนวนกว่า 9,000 บาท ไป 1 งวด และยืมเงินสดตนเองไปอีกจำนวน 10,000 บาท

และตั้งแต่นั้นที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่าสามปีตัวเองก็ไม่เคยเห็นรถยนต์คันนี้อีกเลยไม่ทราบว่ารถยนต์คันนี้หายไปไหน เพราะตอนนี้ทราบว่าเค้าเองถูกจับกุมตัวแล้ว กลัวว่างวดรถที่เหลือตัวเองจะกลายเป็นผู้ที่รับผิดชอบ

ส่วนเรื่องของการเสียชีวิตของนางสาวปิ่นมณี ที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้น ตัวเองยังมองว่าตัวนางสุภัทรตรา และสามีน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากว่าเมื่อประมาณช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานั้น ลูกบุญธรรมของนางสุภัทรตราก็ได้เสียชีวิตปริศนาแบบไม่ทราบสาเหตุ เหมือนมีเงื่อนงำ ตัวเองก็ไม่รู้ว่า เพราะอะไรมาทราบว่าไฟช็อตไฟดูด ทั้งๆที่คนในสำนักทรงของเขามีเยอะมาก ตนเองก็ไม่มั่นใจว่าจะเกี่ยวกับเรื่องของ การฆ่าเพื่อหวังเอาเงินประกันหรือไม่