"อนุทิน" เผย "นายกฯ" เรียกประชุมด่วนปราบยาเสพติด "เศรษฐา" จี้ สาธารณสุขร่างข้อบังคับควบคุมยานรกให้ชัดเจนว่า 1 เม็ดก็ผิดถ้าพฤติกรรมชัด กันตีความเยอะ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ภายหลังนายรัฐมนตรีเรียกประชุมด่วน เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม ว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวง สาธารณสุขเขียนข้อบังคับการควบคุมยาเสพติดให้ชัดเจนว่า 1 เม็ดก็ผิดหากพฤติกรรมไปในทางผู้เสพ หรือผู้ค้าด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการตีความกันอีก พร้อมย้ำว่า เราจะดูพฤติกรรมเป็นหลักไม่ได้ดูเพียงแค่จำนวนเม็ด รวมถึง กำชับทุกหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเราปฏิบัติมาโดยตลอดอยู่แล้ว

 

เมื่อถามว่าดูเรื่องพฤติกรรมด้วยหรือไม่เพราะที่ผ่านมากำหนดว่า 5 เม็ดอาจเป็นผู้ป่วยและให้ดูพฤติกรรม นายอนุทิน ระบุว่า วันนี้ไปกำหนดว่าเกิน 5 เม็ดเป็นผู้ค้าแต่มีช่องเลี่ยงฉะนั้นต้องอยู่ที่การตีความและดูประวัติ เพราะหากเจอ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดก็ถือว่าผิดแล้ว

 

ส่วนการบำบัดนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ใช้รูปแบบการร่วมมือกัน เช่น การใช้ค่ายทหาร หรือฝ่ายปกครองตามพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ หากมีผู้ต้องเข้ารับการบำบัดเยอะจะต้องร่วมมือกับทางกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตนเองจากที่เคยอยู่กระทรวงสาธารณสุขมา 4 ปี มองว่าสามารถตั้งโรงพยาบาลสนามได้ ฉะนั้นอาจจะใช้รูปแบบนี้ แต่อาจไม่เข้มข้นเท่าสมัยโควิด-19 เพราะตอนนี้เป็นเรื่องการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติด

 

เมื่อถามย้ำว่าการดูพฤติกรรมผู้เสพกับผู้ค้าทางฝ่ายปกครองผู้ใหญ่บ้านต้องไปช่วยตำรวจหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า แน่นอน เพราะตอนนี้ต้องบูรณาการงานร่วมกัน ซึ่งตอนนี้ก็ทำงานกันเป็นทีม และดำเนินการมาโดยตลอด แต่อย่างที่ว่าตอนนี้เราดำเนินการจับกุมมากขึ้นทางฝ่ายผู้ลำเลียงก็มีการเพิ่มปริมาณเพราะหวังว่าจะรอด แต่ถึงอย่างไรหากปริมาณเยอะก็ไม่ค่อยรอด ฉะนั้นขอให้เชื่อถือความสามารถของฝ่ายปราบปราม และต้องเฉียบขาด ซึ่งขณะนี้ความสูญเสียส่วนใหญ่อยู่ที่ผู้ค้ายาเสพติด

 

ส่วนการปราบปรามยาเสพติดในยุคสมัยนี้จะประสบความสำเร็จเหมือนรัฐบาลไทยไทยรักษ์ไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูว่าเอาอะไรเป็นตัววัด ซึ่งหากประกาศเป็นศัตรูกับยาเสพติดตรงนี้ก็ชัดเจนไม่แตกต่างจากอดีต แต่การดำเนินการต้องยึดกฎหมายเป็นหลักจะทำตามใจชอบหรือมิตรรักแฟนเพลงมากไปไม่ได้ ทั้งที่อยากทำใจจะขาด เพราะมันมีกฎหมายอยู่ ดังนั้นเราทำตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการไล่จับมาโดยตลอดและติดตามถึงแหล่ง ไม่พ้นความสามารถเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปได้