หนุ่มเก็บของเก่า เดินสายทุบเอาเหล็กเส้นจากเสาโครงสร้างตึกร้าง ถูกกำแพงล้มลงมาทับดับอนาถคาที่ หลังหายหน้าขาดการติดต่อจากญาติไปนานข้ามวัน สุดท้ายพากันออกมาตามหาพบกลายเป็นศพติดอยู่ใต้แผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมมอบศพให้ญาตินำกลับบำเพ็ญกุศลตามประเพณีหลังไม่มีใครติดใจต่อสาเหตุการเสียชีวิต

 

วันที่ 5 ก.ย.65 เวลา 09.50 น. ร.ต.ท.ธนวีร์ ยะรังศี รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุกำแพงของอาคารตึกร้างล้มลงมาทับคนเสียชีวิต ที่บริเวณย่านปากซอยทางเข้าวัดแพรกวังตะเคียน ห่างจากริมถนนสุวินทวงศ์ด้านฝั่งขาเข้า กทม. เข้าไปยังภายในซอยประมาณ 50 เมตร พื้นที่ ม.5 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลังรับแจ้งมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใต้ซากแผ่นคอนกรีต 1 ราย

 

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารตึกร้างแบบชั้นเดียว มีกำแพงผนังสูงประมาณ 4 เมตร ไม่มีหลังคา ซึ่งเดิมเป็นสถานที่ให้เช่าเป็นร้านค้ารับซื้อของเก่าเมื่อหลายปีก่อน บนแปลงที่ดินประมาณ 4 ไร่ โดยมีเจ้าของเป็นร้านค้าอะไหล่ยนต์ชื่อดังย่านสี่แยกกองพลทหารราบที่ 11 โดยพบร่างของผู้เสียชีวิตถูกแผงคอนกรีตซึ่งเป็นผนังของตัวอาคารล้มลงมาทับคิดอยู่ที่พื้นดิน โดยมีอุปกรณ์ในการทุบสกัดคอนกรีตตกอยู่ใกล้กับร่างของผู้เสียชีวิต

 

ทั้งบันได ค้อนปอนด์ เหล็กสกัดคอนกรีตและเศษเหล็กเส้น รวมถึงกระติกน้ำเย็น และกระสอบใส่เศษเหล็กอีก 1 ใบ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา จึงช่วยกันนำเครื่องมือถ่างยกแผ่นคอนกรีตออก จากนั้นได้นำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากใต้แผ่นคอนกรีต โดยพบว่ามีบาดแผลที่บริเวณหน้าผากเหนือคิ้วขวา รวมถึงกามยุบตัวลงทั้ง 2 ข้าง กระดูกคอแตก

 

จากการสอบถาม นางศศิชา (หน่า) ธัญญา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/2 ม.8 (ย่าน ซ.วัดต้นตาล) ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายสุรชาติ ทรัพย์สมบูรณ์ อายุ 46 ปี โดยระบุว่าผู้ตายได้เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยร่วมกันในบ้านกับตนมานานถึงกว่า 20 ปีแล้ว แต่ไม่ใช่ญาติกันเพราะเขาไม่มี พ่อ-แม่ โดยมาพร้อมกับบุตรเลี้ยงด้วย 1 คน คือ น.ส.ออม ทรัพย์สมบูรณ์ อายุ 25 ปี โดยเขามีอาชีพเก็บหาของเก่าขายมาตลอดกว่า 20 ปีแล้ว

 

ซึ่งล่าสุดนั้นผู้ตายได้บอกว่ากำลังเข้ามาทุบตึกร้างเพื่อนำเอาเหล็กเส้นไปขายในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยได้เดินทางมาทุบตึกแล้วเมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งเมื่อวานนี้หลังจากเขาได้กลับไปกินข้าวกลางวันที่บ้าน ในเวลา 13.00 น. ก่อนที่จะออกมาทุบตึกต่อ และหลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อเขาได้ โทรศัพท์มาก็ไม่รับสาย เมื่อรุ่งเช้าที่ผ่านมาเวลา 06.00 น. จึงได้ว่าจ้างคนในหมู่บ้านขับรถจักรยานยนต์ให้ตามหามาดูยังในที่เกิดเหตุ และพบว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้ตายจอดอยู่

 

หลังจากนั้นจึงได้พากันเดินเข้าไปดูพร้อมๆ กันทั้ง 3 คน โดยมีตนกับหลานชายและคนขับรถ จยย.ที่ว่าจ้างให้ตามมาดูก่อนหน้า จนมาพบศพของนายสุรชาติ ถูกกำแพงคอนกรีตล้มลงมาทับจนเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นตนได้เคยบอกเขาแล้วว่าให้เลิกทุบตึก เพราะมันอันตรายโดยให้ไปหาทำงานอย่างอื่นแทน แต่เขาไม่ฟังและยังได้บอกเขาอีกว่าให้หาคนมาเป็นเพื่อนสักคน จนมาเกิดแหตุกำแพงล้มทับเสียชีวิตในที่สุด นางศศิชา กล่าว

 

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยแพทย์เวรจาก รพ.พุทธโสธร ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาชันสูตรพลิกศพแล้ว ทางบุตรเลี้ยงพร้อมคนในครอบครัวไม่ได้ติดใจต่อสาเหตุของการเสียชีวิต จึงได้เตรียมนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลยังที่วัดนครเนื่องเขต (วัดต้นตาล) ต่อไป ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าภายในที่เกิดเหตุนั้น มีร่องรอยของการทุบตึกที่เสาของตัวอาคารจนเป็นรูโหว่แนวตั้งหายไปหลายแห่ง จึงทำให้แนวกำแพงไม่มีโครงสร้างที่แข็งแรงยึดพยุงตัวกำแพงไว้ จึงทำให้ผนังคอนกรีตล้มลงมาทั้งแผงและทับคนเสียชีวิตดังกล่าว