ผอ.แจงศิษย์แทงกันไม่แจ้งความห่วงอนาคตเด็ก ผู้ใหญ่เคลียร์กันได้คิดว่าจบ

จากกรณีป้าของเด็กนักเรียนรายหนึ่ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กขอความเป็นธรรมให้กับหลานชาย หลังเด็กชายภู หลานชายอายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองนครศรีธรรมราช ถูกเด็กชายกล้า ป.5 อายุ 11 ปี โรงเรียนเดียวกัน ใช้มีดยาวแทงบริเวณหน้าห้องเรียนของหลานชายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยถูกแทงเข้าที่บริเวณหน้าอก ขาหนีบ หน้าท้อง ก้น และแขนขวา รวม 6 แผล

หลังจากเกิดเหตุ คุณครูได้นำส่งหลานชายส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเอง แต่โรงเรียนกลับไม่ยอมแจ้งตำรวจเพื่อแจ้งเหตุ จนทางผู้ปกครองต้องเดินทางไปแจ้งความด้วยตัวเองที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และต่อมา ผู้ปกครองได้สอบถามไปยัง ผอ.โรงเรียน ถึงเหตุผลที่ไม่ยอมแจ้งตำรวจ กลับได้รับชี้แจงจาก ผอ.โรงเรียนว่า อยากให้พ่อแม่ของเด็กเคลียร์กันก่อน ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามและขอความเป็นธรรมให้กับหลานชาย และมองว่า ทางโรงเรียนตั้งใจจะปิดข่าวใช่หรือไม่ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วง 4 โมงเย็นของวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายเกรียงไกร วุฒิมานพ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง ได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุ เป็นวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาหลังโรงเรียนเลิก ขณะนั้นเด็กชายกล้า ป.5 ที่ก่อเหตุ ได้เดินมากับเพื่อนอีกหนึ่งคน และเกิดการเขม่นกับรุ่นพี่ ป.6 ซึ่งรุ่นพี่ ป.6 เป็นกลุ่มเพื่อนของเด็กชายภู ได้ให้ชูนิ้วให้กล้วยกับกลุ่มเด็กชายกล้า

ด้วยความไม่พอใจ เด็กชายกล้าและเพื่อนจึงเดินขึ้นบันไดไปบนชั้นเรียนหน้าห้องเด็กชายภู โดยเด็กชายกล้า คิดว่า เด็กชายภูคือพวกเดียวกับรุ่นพี่ ป.6 ที่ยกนิ้วให้กล้วยตัวเองและเพื่อน จึงได้ใช้มีดปอกผลไม้ที่เพื่อนอีกคนได้ยื่นให้ก่อนหน้านี้ กระหน่ำแทงเด็กชายภู พี่ ป.6 จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเดินกลับไปยังห้อง

ซึ่งต่อมา มีนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์จำนวนมากได้วิ่งมาบอกคุณครู คุณครูจึงรีบอุ้มตัวน้องภูที่ถูกแทงบนชั้นเรียนนำส่งโรงพยาบาลทันที ซึ่งก่อนส่งก็ได้โทรศัพท์แจ้ง 1669 แล้วแต่ช้า จึงพาเด็กไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก่อน

ส่วนเด็กชายกล้าและเพื่อนที่ไปก่อเหตุด้วย หลังเกิดเหตุเย็นวันนั้น ตนเองซึ่งอยู่ในโรงเรียนอยู่แล้ว ได้นำตัวเด็กทั้งสองคนมากักตัวไว้ทันที และสอบถามเหตุที่เกิดขึ้น โดยจากการสอบถามเด็กชายกล้า อ้างว่า ตัวเองถูกเพื่อนยุทำให้เกิดอารมณ์ขึ้นและคึกคะนอง จึงลงมือแทงรุ่นพี่ ป.6 ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนมีเรื่องกับพี่ ป.6 หนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเพื่อนได้ยื่นมีดให้ไว้เด็กชายกล้าเพื่อป้องกันตัว ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้น เด็กที่ยื่นมีดให้ อ้างว่า ได้นำมีดปอกผลไม้มาจากโรงอาหารของโรงเรียนที่แม่ค้าลืมทิ้งไวั เอามาให้เด็กชายกล้าเก็บไว้

ส่วนเหตุผลที่ทางโรงเรียนไม่ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจทันทีที่เกิดเหตุ ผอ.โรงเรียน ให้เหตุผลว่า “เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ตนเองคิดเพียงอย่างเดียว คือ ต้องการให้เด็กปลอดภัยที่สุดก่อน และได้ทำตามแผนเผชิญเหตุของโรงเรียนแล้ว คือ นำเด็กส่งโรงพยาบาล และโทรศัพท์แจ้งผู้ปกครองของเด็กแล้ว รวมถึงตามตัวเด็กที่ก่อเหตุมาได้หมดแล้ว

ซึ่งเด็กทั้งสองฝ่ายคือลูกของเรา เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านของเรา การแจ้งเหตุแจ้งความนั้น คิดว่าน่าจะแจ้งภายหลังก็ได้ และการแจ้งความโดยหลักการแล้วต้องเป็นเรื่องของผู้ที่ถูกกระทำที่จะต้องแจ้งความเอง

ส่วนตนเองเป็นเจ้าของสถานที่ที่เกิดเหตุ คิดเพียงว่า หลักจากเด็กปลอดภัยแล้ว น่าจะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยกันมากกว่า ยืนยันไม่มีเจตนาจะปิดข่าวแต่อย่างใด แต่ตนเองอาจจะไม่ทันคิดถึงหลักข้อกฎหมาย ซึ่งตนเองขอน้อมรับผิด”

ส่วนอาวุธมีดที่เด็กใช้ก่อเหตุ ทราบว่า เด็กชายกล้าได้ซุกซ่อนเอาแอบไว้ภายในหนังสือเรียน และซุกไว้ในกระเป๋านักเรียนด้านในสุด ซึ่งวันก่อนจะเกิดเหตุช่วงเช้า คุณครูได้ตรวจการบ้านของเด็กชายกล้าและค้นกระเป๋านักเรียนแล้ว แต่ตอนนั้นไม่พบมีด เพราะเด็กชายกล้าซ่อนมีดไว้ในหนังสือซึ่งอยู่ลึกสุดในกระเป๋า

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ตนเองก็ขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและจะเข้มงวดมากขึ้นในการเฝ้าระวัง ถึงแม้จะทำมาอย่างดีโดยตลอดก็ตาม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด และล่าสุด ทางโรงเรียนได้ให้เด็กชายกล้า ป.5 ที่ก่อเหตุ ให้ออกจากโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากก่อเหตุใช้ความรุนแรงเกินไปมากในโรงเรียน ส่วนเพื่อนของเด็กชายกล้า 2 คน ที่เดินทางไปก่อเหตุด้วย กับคนยื่นมีดให้ ได้สั่งพักการเรียนไว้ก่อน รอสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เนื่องจากหวั่นจะเกิดการล้างแค้นกันเกิดขึ้นอีกระหว่างน้อง ป.5 กับ พี่ ป.6 ซึ่งตนเองสัญญาว่า จะดูแลและใส่ใจเด็กให้มากกว่านี้

ส่วนทางคดีที่ผู้ปกครองไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังจากนี้ตนเองจะรับหน้าที่ประสานทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยเจรจาเรื่องคดีตามกฎหมายต่อไป

ไม่คิดเป็นเรื่องใหญ่