นายกรัฐมนตรี สั่งห้ามรถติดตามรัฐมนตรี ติดเครื่องยนต์-เปิดแอร์รอนาย หวังป้องกันฝุ่น และมลพิษ ตามมาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหาฝุ่น ขณะก่อนประชุมครม. นายกฯได้เยี่ยมชมโบราณวัตถุที่กลับคืนสู่มาตุภูมิ
นายกฯเยี่ยมชมโบราณวัตถุไทยจากสหรัฐอเมริกากลับคืนสู่มาตุภูมิ
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะผู้บริหารเข้าพบพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์นิทรรศการ ”การเยี่ยมชมโบราณวัตถุของไทยจากสหรัฐอเมริกากลับคืนสู่มาตุภูมิ” ซึ่งมีทั้งหมด 46 รายการ
ส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ 2,000-3,000 ปี และบางรายการอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยต้นอายุ 3000-4300 ปีมาแล้ว
นายกรัฐมนตรีได้สอบถามว่าเจ้าของเต็มใจส่งมอบคืนให้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ทุกคนเต็มใจให้เป็นสมบัติของชาติ และมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี มีการจดบันทึกและขึ้นทะเบียนไว้ทุกชิ้น
นายกฯชมภาชนะผลิตจากกาบกล้วย-ใบตอง ของดีอ.เชียงคาน
จากนั้นนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นำกลุ่มผลิตภาชนะจากกาบหมากและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ บ้านท่าดีหมี อ.เชียงคาน จ.เลย ประชาสัมพันธ์นวัตกรรมการผลิตภาชนะจากวัสดุธรรมชาติทดแทนการใช้โฟม
โดยนายกฯ เยี่ยมชมภาชนะจาน ชาม ที่ทำจาก กาบกล้วย กาบหมาก ใบตองแห้ง ใบสัก พร้อมแนะนำว่าอยากให้เพิ่มความแข็งแรงของภาชนะต่างๆ เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ได้หลายๆครั้ง และให้ทำภาชนะเป็นหลายรูปแบบ ประกอบเป็นชุด เพื่อเวลานำไปใช้จริง จะสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกชิ้น และ แนะนำให้มีการวาดลวยลายให้เกิดความสวย เพื่อนำไปจำหน่าย แข่งขันกับวัสดุที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ
รถติดตามรัฐมนตรี จอดติดเครื่อง-เปิดแอร์รอ ขัดมาตรการแก้ปัญหาฝุ่น
แต่เรื่องหนึ่งที่เป็นประเด็นเมื่อวานนี้ ก่อนประชุมครม. คือ ผู้สื่อข่าวไปสังเกตเห็นรถยนต์ของผู้ติดตาม และรถติดตามขบวนของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ที่นำมาจอดบริเวณโรงจอดรถข้างตึกบัญชาการ 1 กลับสตาร์ทรถยนต์รอไว้ และมักสตาร์ทรถทิ้งไว้เป็นประจำทุกวันอังคาร ที่มีการประชุมครม. ตั้งแต่เริ่มประชุมจนเลิก
ทั้งที่ ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเพิ่งออก 9 มาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละออง ซึ่งในข้อ 8 ระบุว่า “รณรงค์ไม่ให้ติดเครื่องยนต์ขณะจอดในสถานที่ราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน และพื้นที่ ที่มีมลพิษสูง”
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปยังนายกรัฐมนตรีและ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทำให้ตำรวจในทำเนียบรัฐบาลต้องเดินไปเคาะกระจกรถหลายคันเพื่อให้ดับเครื่องยนต์ไม่ให้สตาร์ทเครื่องรอแทน
นายกฯสั่งรถติดตามรัฐมนตรี ห้ามติดเครื่องยนต์-เปิดแอร์รอนาย
หลังการประชุมครม. พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่รถติดตามรัฐมนตรีติดเครื่องรถยนต์รอนายว่า ตนเองได้สั่งย้ำในที่ประชุมแล้ว ไม่ให้ติดเครื่อง และเปิดแอร์รอ เพราะเหม็นและสิ้นเปลืองน้ำมัน ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน รวมถึงรถเมล์ รถแท็กซี่ด้วย แต่จะให้หยุดทั้งหมดอาจส่งผลกระทบ จึงต้องมีมาตรการที่เหมาะสม แต่ได้กำชับหมดแล้ว ซึ่งตนทำเป็นตัวอย่างไปแล้วและทุกคนต้องช่วยกันด้วย
นายกฯยังขอตัดสินใจอนาคตการเมือง เผยเลือกพรรคไม่ล้มล้างผลงานคสช.
พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงบทบาทอนาคตทางการเมืองของตนเอง ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการตัดสินใจควรจะอยู่ทำงานต่อหรือไม่ หากอยู่ต่อจะอยู่ได้ด้วยอะไร และถ้าต้องอยู่ จะทำอย่างไร
พร้อมย้ำว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อ จากพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคใด ส่วนจะตอบรับพรรคใดหรือไม่ ต้องคิดดูก่อน แต่ถ้าต้องอยู่ต่อ เพื่อทำงานต่อ คงต้องอยู่พรรคใดพรรคหนึ่ง ที่มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่ใช่การล้มล้างสิ่งที่มีอยู่แล้วทั้งหมด
ทั้งนี้ ในการประชุมครม.วานนี้ มีการพิจารณาแจกจ่ายรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลปีที่ 4 ซึ่งเป็นการรวบรวมผลงานรัฐบาลระหว่าง 12 กันยายน 2560-12 กันยายน 2561 จัดทำเป็นรูปเล่ม จำนวน 421 หน้า ก่อนเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตามกฎหมาย
จากนั้นจะจัดทำเป็นฉบับย่อแจกจ่ายให้ประชาชนต่อไป เนื้อหาแบ่งเป็นผลการดำเนินงาน 6 ด้าน ทั้งเรื่องการสร้างความปรองดอง ความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ การต่างประเทศ และด้านกฎหมาย