วีระ สมความคิด ยันพามวลชนเข้าพื้นที่บ้านหนองจานตามนัด ประกาศขีดเส้นตายเจ้าหน้าที่ผลักดันเขมรออกก่อนเวลา 13.00 น. พรุ่งนี้ (31 ต.ค.) ย้ำหากทำไม่ได้ ไม่ยอมแน่นอน
วันที่ 30 ต.ค. นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ลงพื้นที่ด่านจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ก่อนวันนัดหมาย 31 ตุลาคม 2568 เพื่อรวมมวลชนทวงคืนบ้านหนองจาน พร้อมกล่าวว่า ตนเองลงพื้นที่มาเพื่อดูสถานที่บ้านหนองจาน พร้อมเชิญประชาชน ร่วมทวงคืนอธิปไตยไทยในวันพรุ่งนี้ โดยยืนยันว่าสถานการณ์จะปลอดภัย

สำหรับในวันพรุ่งนี้ ตนยืนยันว่าจะมาทวงคืนแผ่นดินไทยคืน เนื่องจากแผ่นดินแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของคนไทยทั้งประเทศ ตราบใดที่ที่ดินบริเวณดังกล่าวยังไม่มีการออกโฉนดก็ถือเป็นที่ดินของรัฐบาลทั้งสิ้น แต่พื้นที่บ้านหนองจาน คนไทยเคยเข้าไปทำมาหากิน แม้จะยังไม่มีโฉนดตั้งแต่ก่อนปี 2518 กระทั่งหลังจากนั้นทาง UN ขอใช้พื้นที่เป็นศูนย์อพยพ ต่อมาหลังจากปิดศูนย์อพยพปรากฏว่าทางฝั่งเขมรไม่ยอมกลับ จนกระทั่งทุกวันนี้ผ่านมา 40 กว่าปี
สำหรับพื้นที่จำนวน 64 ไร่ ที่บ้านหนองจาน ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเส้นเขตแดน แต่เป็นการรุกล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทย ไม่เกี่ยวกับ MOU ปี 2543 แต่เป็นที่ดินที่รัฐบาลไทยปล่อยให้เขมรรุกล้ำเข้ามาอยู่ และเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฎิบัติหน้าที่มาโดยตลอด
นายวีระ ยืนยันอีกว่า สิ่งที่ประชาชนจะทำในวันพรุ่งนี้ไม่ได้ทำผิดกฏหมาย คนที่ผิดกฎหมายคือเขมรที่มาแย่งแผ่นดินไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่ไทยทุกหน่วยงานที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาโดยตลอด

เมื่อถามว่า ทางเจ้าหน้าที่อยากให้ประชาชนรอการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ก่อน นายวีระ ตั้งคำถามกลับ ให้รออะไร ล่าสุดในวันที่ 8 ตุลาคม 2568 เรียกชาวบ้านไปกินข้าว สุดท้ายไปโกหกเขาทำไม ให้รออีกหน่อย จบแน่ภายในเดือนตุลาคม รัฐบาลเซ็นสัญญาสันติภาพ ทุกอย่างจบทั้งหมด รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ กลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศไปแล้ว แผ่นดินไทยบ้านหนองจานเขมรยึดไปแล้ว และในวันที่มีการประชุม JBC ที่ผ่านมา ระบุไว้ 2 เรื่อง ที่ประเทศไทยเตรียมแจ้งให้เขมรทราบ คือเรื่องการทำรั้ว และขอให้เขมรอพยพคนกลับไป ซึ่งขณะนั้นรัฐบาลยื่นคำขาดให้เขมรออกจากพื้นที่ก่อนวันที่ 10 ตุลาคม โดยยื่นคำขาดว่าเขมรต้องส่งแผนอพยพก่อนวันที่ 7 ตุลาคม แต่ปรากฏว่าเขมรก็ไม่ส่งแผน เขมรยังมีการย้ำว่าไม่อพยพออกจากบ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว แต่ให้เป็นการคุยเรื่องการปรับเปลี่ยนการถือครองที่ดิน ซึ่งตนเองก็อยากตั้งคำถามเช่นเดียวกัน ว่าไปให้เขมรถือครองที่ดินตั้งแต่เมื่อไหร่ กระทั่งวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีก็ไปเซ็นสัญญาข้อตกลงเสรีภาพ ทำให้ตอนนี้ทหารก็ไล่เขมรไม่ได้เพราะอยู่ภายใต้ข้อตกลงเสรีภาพ และต้องย้อนกลับเรื่องการปักปันเขตแดนใหม่ แล้วประชาชนต้องรอไปถึงเมื่อไหร่
ตนมองว่าฝั่งไทยเราเสียเปรียบ แผ่นดินไทยบ้านหนองจานจำนวน 64 ไร่ แต่กลับกลายเป็นว่าคนไทยเข้าไปไม่ได้ ตั้งแต่ตนเองได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านก็ยังไม่เคยได้เข้าพื้นที่ไป แต่ในวันพรุ่งนี้ตนยืนยันว่าจะเข้าพื้นที่ และหากทหาร ตำรวจ ทำร้ายร่างกายตนเองนั้น ก็คอยดู ตนไม่มีอาวุธ หากจะทำอะไรตนเองนั้นก็ขอให้อพยพเขมรออกไปให้หมดก่อน และหากอพยพเขมรออกจากพื้นที่จำนวน 64 ไร่หมด ตนก็จะไม่เข้าพื้นที่ไป แต่หากทำไม่ได้ ก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามตนเอง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลทำผิดกฏหมายมาโดยตลอด ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็นองเลือด ตนไม่ยอม ต่อให้ถูกเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้เข้าพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ ตนก็จะเข้า เพราะคือแผ่นดินไทย คนไทยสามารถไปได้ทั้งหมด แต่เหตุใดจึงปล่อยให้เขมรอยู่บนแผ่นดินไทยมาได้หลาย 10 ปี
นายวีระ ย้ำอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ 31 ตุลาคม ก่อน 13.00 น. ถ้ารัฐบาลไทยสามารถนำเขมรออกจากพื้นที่บ้านหนองจานได้ทั้งหมด 64 ไร่ และพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วอีก 25 ไร่ ตนเองจะเดินทางกลับทันที ตนเองไม่ได้ปลุกปั่นมวลชน เพราะมีการนัดหมายกันมาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมาแล้ว ว่าในวันที่ 31 ตุลาคมจะลงพื้นที่ รัฐบาลมีเวลาทำไมจึงไม่จัดการ

และเมื่อถามว่า ประเมินท่าทีของนายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยลงพื้นที่บ้านหนองจาน นายวีระ ระบุ คงไม่กล้ามา เพราะหากลงพื้นที่มาก็คงเจอคำถามจากนักข่าวว่าเหตุใดจึงปล่อยเรื่องดังกล่าวผ่านมาหลาย 10 ปี
พร้อมตั้งคำถามไปยัง นายกรัฐมนตรี พูดออกมาได้อย่างไรว่าไทยเราก็ไปรุกล้ำแผ่นดินเขมร พูดออกมาอย่างไร เป็นคนไทยรึเปล่า ตนมองว่าคนที่เป็นตัวปัญหาคือ นายอนุทิน ไม่ใช่ตนเอง

















