ชาวหนองจาน เชื่อ "กัน จอมพลัง" ยุติเปิดรถแห่เพื่อลดแรงกดดัน จากทุกฝ่าย ทำให้กองทัพสามารถทำงานง่ายขึ้น มองเป็นเรื่องดีหลังมีปัญหาเยอะ

วันที่ 18 ต.ค. 2568 ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็น นางสาวนงรัตน์ จันทะมา ชาวบ้านบ้านหนองจาน พูดถึงกรณีที่ “กัน จอมพลัง” มีการนำรถเครื่องเสียงออกจากพื้นที่ ว่า ชาวบ้านในพื้นที่มองว่า คุณกันน่าจะทำเพราะลดแรงกดดันจากทุกฝ่าย ทำให้กองทัพสามารถทำงานง่ายขึ้น และกระแสโซเชียลเริ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ตนมองว่าการนำเครื่องเสียงออกมาก็เป็นเรื่องดี จะได้ทำให้ทุกฝ่ายสบายใจ เนื่องจากปัญหาเริ่มเยอะ เนื่องจากเป้าหมายของเราคือการนำอธิปไตยไทยของเรากลับคืนมา


ส่วนกรณีที่เมื่อวาน (17 ต.ค.) ในช่วงเย็น มีการนำรถเครื่องเสียงในส่วนของภาคประชาชนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ส่วนตัวมองว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ดูแลบริเวณนี้ ซึ่งทางกองทัพตัดสินใจมาแบบนี้ถือว่าเป็นการคิดคำนวณที่ถูกต้องแล้ว แต่ในมุมมองของชาวบ้านมองว่าอย่างน้อยก็ได้มีการเปิดเครื่องเสียง ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ก็ยังคงบรรลุเป้าหมายอยู่


ส่วนหลังจากนี้อยากจะให้พื้นที่บ้านหนองจานมีกิจกรรมอะไรอีก เพื่อเป็นการผลักดันกัมพูชาออกจากพื้นที่ ตนมองว่าที่ผ่านมาเรื่องการนำเครื่องเสียงเข้ามาในพื้นที่เป็นปัญหาที่ยุ่งยากมาก แต่ตนก็อยากให้เป็นการตัดสินใจของกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขณะนี้การทำงานของกองทัพอยู่ในระหว่างการเก็บกู้ทุนระเบิด ซึ่งเรื่องเครื่องเสียงก็อยากจะให้ชะลอเอาไว้ก่อน เพราะมีปัญหาเยอะ โดยการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ขณะนี้ทางกองทัพได้ขยับเข้ามาเก็บในพื้นที่บ้านหนองจานแล้ว ในพื้นที่ตรงนั้นต้องใช้สถานที่ กำลังคน หากเรายังเปิดเครื่องเสียงอยู่ อาจจะกระทบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่




เมื่อถามว่าหากไม่มี กัน จอมพลัง เข้ามาในพื้นที่อยากจะให้ใครเข้ามาช่วยเหลือแทน นางสาวนงรัตย์ เผยว่า ตนก็ยังคงอยากให้เป็น กัน จอมพลัง เข้ามาดูแลในที่ เพราะก็ช่วยมาตั้งแต่ต้น ชาวว่าทั้งรักและคิดถึง ส่วนเรื่องของการดูแลตอนนี้มีกองทัพดูแลอยู่อยากให้ทางกองทัพได้ทำงานอย่างเต็มที่ มีแนวหลังส่งกำลังใจให้กองทัพอย่างต่อเนื่อง


ที่ผ่านมา ชาวบ้านกับกองทัพได้มีการพูดคุยกันอย่างดี โดยทางกองทัพเองก็คอยมาบอกกับชาวบ้านว่าวันนี้ทำอะไรบ้าง มาบอกชาวบ้านในพื้นที่ว่าที่นาตรงไหนจะเก็บกู้ทุ่นระเบิดก่อน ทางกองทัพก็ประสานกับประชาชนมาเรื่อย ๆ


ส่วนเรื่องของการเก็บกู้ทุนระเบิดในการคืนที่ดินให้กับชาวบ้านหนองจานนั้น ความจริงแล้วที่ดินที่เหลือ ที่ยังไม่ได้เก็บกู้ทุ่นระเบิดมีมากกว่าที่กองทัพได้บอกกับชาวบ้าน ในวันนี้ตนจึงอยากจะไปพูดคุยเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน แต่เบื้องต้นทางกองทัพก็อธิบายให้ชาวบ้านฟังว่าทุกอย่างต้องทำไปตามขั้นตอน ถ้าถามว่าชาวบ้านในพื้นที่อยากได้ที่นากลับคืนแบบด่วนหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาตลอด 40 ปีก็รอได้ แต่หากให้รออีกนิดเดียวก็รอได้ แต่ไม่ใช่ต้องรออีกถึง 40 ปี ซึ่งชาวบ้านก็มีห้วงระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ในใจแล้ว ก็คือวันที่ 31 ตุลาคม จะมาถามกับทางกองทัพว่าการเก็บกู้ทุนระเบิดเป็นไปถึงไหนแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้กดดันว่าทุกพื้นที่จะต้องได้ภายในวันที่ 31 ตุลาคม เพียงแค่อยากได้คำตอบเพื่อให้ชาวบ้านได้รู้ว่าขณะนี้การทำงานของกองทัพไปถึงไหนแล้ว


ส่วนเรื่องของนายวีระ สมความคิด ก็กำหนดเดดไลน์วันที่ 31 ตุลาคม เหมือนกัน ว่าชาวกัมพูชาต้องออกจากพื้นที่ หากยังไม่ออกชาวบ้านจะเป็นคนผลักดันด้วยตนเอง เรื่องนี้ตนมองว่าเรื่องการเอาชาวบ้านไปดันคงเป็นเป็นการพูดคุยกันเฉย ๆ ความจริงตนคิดว่าก็คงไม่ทำขนาดนั้น แต่วันที่ 31 ตุลาคม เราต้องได้คำตอบว่าในพื้นที่เป็นถึงไหนแล้ว เพื่อความสบายใจของทุกส่วน


ส่วนเรื่องของการยกระดับในภาคประชาชนหากกัมพูชายังไม่อพยพออกจากพื้นที่ ตนมองว่าหากเรายกระดับมากเกินไปจะกลายเป็นความรุนแรง พี่น้องเราก็จะได้รับอันตรายด้วย ตนจึงรอทางกองทัพว่าในสิ้นเดือนนี้ทำกันถึงขั้นตอนไหนแล้ว


ทั้งนี้ ยอมรับว่าในช่วงแรกที่ชาวบ้านยังไม่ได้พูดคุยกับกองทัพ กับช่วงหลังที่เริ่มพูดคุยมีความแตกต่างกันมาก เพราะในตอนแรกเราไม่รู้ว่าเรากำลังรออะไร เพราะทางกองทัพไม่ได้มีการชี้แจง เหมือนไม่มีอนาคต แต่เมื่อมีแม่ทัพภาคที่หนึ่งเข้ามาคุย ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การคุยเล็กน้อยตนก็มองว่ามันมีความคืบหน้าเยอะ และชาวบ้านเรามีกำลังใจดีขึ้น