ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ ซบเซา พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา ส่วนคนไทยมีทั้งขอให้เปิด-ปิดด่าน พ่อค้าร้านเสื้อผ้ารายหนึ่ง บอกยิ่งขายยิ่งขาดทุน ตอนนี้รายได้ไม่คุ้มค่าเช่า แต่ยังอยากให้ปิดด่าน เคลียร์เรื่องดินแดนให้เสร็จก่อน

วันที่ 15 ก.ย. 2568 ทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 ลงพื้นที่บริเวณด่านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พบว่า ขณะนี้ด่านดังกล่าวยังคงปิดการข้ามพรมแดน ไร้ซึ่งรถและผู้คนในพื้นที่ มีเพียงแค่พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดูแลพื้นที่อยู่เท่านั้น เมื่อมองข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาหลังแนวรั้วสีเหลืองที่เป็นรั้วกั้นระหว่างประเทศ พบว่ามีประชาชนชาวกัมพูชาใช้ชีวิตอย่างปกติ มีรถแล่นไปมาบนท้องถนน

ต่อมา ทีมข่าวได้ขับรถเข้ามาดูตลาดโรงเกลือ พบว่ามีร้านค้าปิดไปจำนวนมาก พร้อมขึ้นป้ายให้เช่าหลายล็อก แต่ยังพอเห็นร้านค้าบางร้านขายของอยู่ ทีมข่าวจึงเข้าไปสอบถามทราบว่า พ่อค้ารายนี้เป็นชาวกัมพูชา มาค้าขายเปิดร้านขายปลีกกระเป๋าที่นี่มาแล้วกว่า 20 ปี พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะปิดด่านก็มีนักท่องเที่ยวไม่มาก แต่เมื่อปิดด่านตอนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย เมื่อถามว่าอยากให้กลับมาเปิดด่านหรือไม่ พ่อค้าชาวกัมพูชารายนี้เลี่ยงตอบคำถามกับทางผู้สื่อข่าว โดยบอกว่าไม่รู้

ด้านนางเพ็ญ อายุ 61 ปี บอกว่า ตอนนี้ตนอยากให้เปิดด่าน เพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียน เพราะตอนนี้เหมือนตายไป 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่มีปัญหาเรื่องพิพาทชายแดนนั้นก็ให้จุดนั้นแก้ปัญหาไป เนื่องจากว่าหากเปิดด่านจุดนี้ก็จะมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ส่วนจะเป็นการเปิดส่งเสบียงไปให้อีกฝั่งหรือไม่ นางเพ็ญบอกว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องสำหรับผู้ค้ารายใหญ่ แต่ผู้ค้ารายเล็กตอนนี้อยากให้เปิดด่านแม้จะเปิดเช้าปิดเย็นก็ได้ เมื่อถามว่า พ่อค้าที่นี่เป็นชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ใช่หรือไม่ นางเพ็ญเผยว่า ใช่ นี่ก็เป็นผลกระทบหนึ่งที่ผู้เปิดห้องให้เช่าก็ขาดรายได้เช่นกัน พร้อมยังฝากถึงนายกฯ อนุทิน ว่า อยากให้เปิดด่านคลองลึกไวๆ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยจะได้ทำมาหากินได้

ทว่า นายเอ (นามสมมติ) อายุ 77 ปี พ่อค้าร้านขายเสื้อผ้า บอกกับทางผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้มันจบแล้ว ตอนนี้ตนขายของได้เดือนหนึ่งสูงสุดประมาณ 5,000 บาทเท่านั้น โดยยิ่งขายยิ่งขาดทุน เพราะค่าเช่าที่นี่เดือนนึงก็ 7,000 บาทแล้ว แต่ตนมองว่าตอนนี้ยังคงต้องปิดด่านอยู่ เนื่องจากว่าต้องให้เคลียร์เรื่องของดินแดนให้เสร็จสิ้น และรักษาธิปไตยของประเทศชาติให้ได้ ส่วนตนนั้นตายแค่คนเดียวไม่เป็นไร แต่คนอื่นตายไม่ได้ เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับประชนชาวกัมพูชา นายเอบอกว่า ส่วนนั้นไม่มีปัญหา แต่มีไม่กี่คนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ทั้งคนในประเทศและคนของฝั่งกัมพูชา ส่วนเรื่องการสร้างกำแพงกั้นระหว่าง 2 ประเทศตนไม่เห็นด้วย แต่สร้างไปได้เลย จะใช้งบประมาณมากแค่ไหนก็ทำได้ ส่วนนายอนุทิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาชายแดน จะทำอย่างไรก็ได้ แต่อย่าขายชาติพอ ถ้าไม่จบจริงๆ ก็ขอให้ปักหลักอยู่จุดนั้นจนกว่าจะได้แผ่นดินคืนมา

ขณะที่ ทีมข่าวขับรถดูตลาดอยู่นั้น ก็พบกับนายสมพงษ์ อายุ 60 ปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี ก็มองเช่นเดียวกัน ตอนนี้อยากให้ปิดด่านไปก่อนจนกว่าจะสถานการณ์จะดีขึ้น พร้อมเผยอีกว่า ตนเคยมีลูกจ้างเป็นชาวกัมพูชาซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ตอนนี้ในฐานะประชาชนคนไทยขอเป็นอีก 1 เสียง ยืนยันว่า ขอให้ปิดด่านต่อไปก่อน