จากกรณี 8 ตำรวจ สภ.สามควายเผือก มีการไปเรียกรับเงินจากเจ้าของโรงงานไก่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐม และมีการอุ้มแรงงานต่างด้าว 5 คน มาที่โรงพัก อ้างว่าเข้าทำงานอย่างไม่ถูกต้อง พร้อมกับเรียกเงินค่าปล่อยตัวรายละ 40,000 ทั้งหมด 5 ราย เป็นเงิน 200,000 บาท ก่อนจะเจรจาลดเหลือคนละ 15,000 บาท ผู้เสียหายจึงยอมจ่ายเงินให้ไปเพื่อให้เรื่องจบ ต่อมามีตำรวจน้ำดีนำภาพหลักฐานวงจรปิดในโรงพัก แฉแก๊งตำรวจแก๊งนี้ช่วงที่นำเงินของผู้เสียหาย แจกจ่ายกันก่อนจะมานั่งล้อมวงกินส้มตำ จนกลายเป็นข่าวฉาววงการราชการและสุดท้ายถูกให้ออกจากราชการทั้ง 8 ราย นั้น

ล่าสุดวันนี้ (23 เม.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงไปติดตามกรณีดังกล่าว โดยบรรยากาศที่ สภ.สามควายเผือก จังหวัดนครปฐม เงียบเหงา ซึ่งจะมีตำรวจบางส่วนยืนอยู่ข้าง ๆโรงพัก ส่วนบรรยากาศที่บ้านพักตำรวจด้านหลังโรงพัก พบว่ามีบางห้องถอดป้ายชื่อหน้าห้องออก

ทีมข่าวได้เดินไปพูดคุยกับ ดาบนิด (นามสมมติ) ซึ่งดาบนิด ตอบคำถามสั้น ๆ กับทีมข่าวว่า ห้องพักตำรวจหลังโรงพัก ไม่ใช่ห้องพักของตำรวจทั้ง 8 นาย ที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังมีคำสั่งออกมาก็ยังไม่มีใครเห็นตำรวจทั้ง 8 นาย กลับเข้ามาที่โรงพัก จากนั้นดาบนิดก็ตีเนียนแกล้งรับโทรศัพท์และเดินหนีนักข่าวไป

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ ส.ต.ต.นันทวัฒน์ ซึ่งเป็นตำรวจรายชื่อที่ 8 ที่มีรายชื่อตามคำสั่งให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อน เปิดเผยกับช่อง 8 ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ส่วนตัวยอมรับว่าเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะตนเองเป็นตำรวจจบใหม่ ที่เพิ่งเริ่มทำงาน แต่ก็ต้องสู้เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว

ส่วนประเด็นเรื่องเงินที่ผู้บังคับบัญชาแบ่งมาให้ ยอมรับว่า ตอนที่ผู้กองคุยกับผู้เสียหาย ตนเองก็อยู่ในห้อง แต่ไม่ได้ยินว่าเขาคุยอะไรกันบ้าง เนื่องจากตอนที่ผู้กองนั่งคุยกับผู้เสียหาย ตนเองเดินออกไปจากห้องสืบ จากนั้นเมื่อเดินกลับมา ทางผู้กองก็ยื่นเงินพันกว่าบาทให้ ซึ่งตนเองก็รู้ว่าเป็นเงินอะไร แต่ไม่กล้าปฏิเสธเพราะผู้กองเป็นผู้บังคับบัญชา และเงินที่ได้มาแบบนี้ก็ไม่ได้มีบ่อย เพราะโรงพักที่ตนเองทำงานอยู่มันเป็นโรงพักที่อยู่นอกเมือง

ส่วนประเด็นเรื่องกินส้มตำ ตามภาพวงจรปิดที่ช่อง 8 นำเสนอข่าวไปนั้น ตนเองยืนยันว่า เงินที่ซื้อส้มตำมากิน ไม่ใช่เงินของผู้กอง แต่เป็นส้มตำที่ตนเองกับพี่ ๆ ที่ทำงานตั้งใจจะซื้อมากินกันอยู่แล้ว และการกินอาหารที่โต๊ะอาหารดังกล่าว เป็นโต๊ะอาหารที่นั่งกินข้าวเที่ยงกันเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนเรื่องคดียอมรับเพื่อน ๆ กับพี่ ๆ ทุกคนที่ถูกดำเนินคดีก็เครียดกันหมด ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่าได้คุยกับผู้กองบางแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าทิศทางการสู้คดีจะออกไปในทิศทางไหน