เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 23 เมษายน 2567 ที่สภ.กระนวน พ.ต.อ.ประศาสตร์ แน่นอุดร ผกก.สภ.กระนวน พ.ต.ท.วงศกร วันชัย รอง ผกก.สส.สภ.กระนวน พ.ต.ท.สุพรรณ สุขพิไลกุล รอง ผกก.(สอบสวน) เรียกสอบปากคำบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงจุดที่พบศพนางสาวศศิธร หรือหนุ่ย อายุ 30 ปี ถูกฆ่าตายทิ้งศพในไร่มันสำปะหลัง ด้านทิศใต้บ้านน้ำสามวัง หมู่ 3 ตำบลหัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น พบศพในช่วงเย็นวันที่ 19 มีนาคม 2567 นั้น

 

พ.ต.อ.ประศาสตร์ แน่นอุดร ผกก.สภ.กระนวน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ลงมือสังหารนางสาวหนุ่ยว่า ชุดสืบสวน สภ.กระนวน ทำการสืบสวน หาตัวคนร้ายมาตั้งแต่วันพบศพ แต่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องของมือสังหารหรือตัวคนร้าย แต่ตำรวจมีผู้ต้องสงสัยขณะนี้รวม 10 คน มีทั้งคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและค้าขายทั่วไป ซึ่งทุกคนล้วนแต่เคยมีสัมพันธ์กับคนตาย ส่วนสาเหตุการถูกฆ่านั้น ถ้าจากการสืบสวนพบว่านางสาวหนุ่ยมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและชายหลายคน จึงยังไม่แน่ชัดเรื่องสาเหตุและประเด็นที่ถูกฆ่า

 

ส่วนที่เกิดเหตุและจุดสังหารนั้นเชื่อว่าอยู่ที่ขนำในสวนยางพารา เพราะเสื้อที่ปูบนขนำหายไป ซึ่งได้สอบสวนเจ้าของสวนยาง และพยานแวดล้อมทั่วไปรวมถึงสามีเก่าทั้ง 2 คนของผู้ตายไปแล้วรวม 17 ปาก ซึ่งส่วนใหญ่มีสวนยาง มีไร่มันสำปะหลังใกล้กับจุดที่พบศพ และขนำจุดสังหารผู้ตาย

 

ผกก.สภ.กระนวน กล่าวอีกว่า ส่วนบาดแผลนั้น เนื่องจากทางการแพทย์ชันสูตรในเบื้องต้นพบว่า คนตายตายมาแล้วประมาณ 2 อาทิตย์ จึงไม่พบบาดแผลอื่น พบเพียงสายกระเป๋ารัดคอถูกขันชะเนาะจนหลอดลมแตก สภาพศพเน่าเปื่อยแล้ว ในทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนมีความคืบหน้าไปมาก ตั้งแนวทางสืบสวนสอบสวนให้แคบลง ในส่วนของผู้ต้องสงสัย 10 ราย อาจจะมีบางคนที่ร่วมลงมือในการสังหาร บางคนก็อาจจะไม่ใช่ผู้ที่ก่อเหตุ แต่อาจมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดอื่นๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยาน หลักฐาน เพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์และตัดทีละประเด็นจนสิ้นข้อสงสัย

 

ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง ทุกประเด็นยังมีความเป็นไปได้ทั้งหมด ทั้งเรื่องชู้สาว ชิงทรัพย์ เรื่องส่วนตัว รวมทั้งประเด็นขัดผลประโยชน์ หรือเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนจุดเกิดเหตุนั้น อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 1 กม. ซึ่งจากข้อมูลทางการสืบสวนทราบว่า ในจุดนี้จะมี พวกที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนัดกันไปเสพ เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยา เชื่อได้ว่าคนก่อเหตุกับนางสาวหนุ่ยมีการนัดหมายกัน ตกลงกันไม่ได้ จึงฆ่าทิ้ง

 

ผกก.สภ.กระนวน กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันก็ได้นิมนต์พระสงฆ์ที่พำนักอยู่มาสอบสวนด้วย และยังไม่พบพิรุธ และอยู่ในพื้นที่มาโดยตลอด ไม่มีพฤติกรรมน่าสงสัย โดยได้นิมนต์พระมาสอบปากคำไว้เป็นพยานอย่างละเอียดอีกครั้งว่าช่วงวันเกิดเหตุพบเห็นอะไรบ้าง รวมทั้งคนอื่นๆก็จะมีการเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด พร้อมทั้งจะมีการประชุมทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ซึ่งทางการสืบสวนสอบสวนนั้น ยังไม่ได้ชี้ชัดว่าคนร้ายเป็นใคร เพราะในมือผู้ต้องสงสัย 10 คนที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายในช่วงเวลานั้นที่ผู้ตายโทรศัพท์หา ซึ่งอาจจะมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลชี้เป้าต่างๆ ซึ่งจะเรียกมาสอบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในทุกมิติ หากใครไม่มีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็จะตัดออก โดยทำการสืบสวนสอบสวนไปพร้อมๆกันทั้ง 10 คน ตอนนี้เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าเหตุเกิดวันไหน บางคนยังให้การไม่ตรง และบางคนให้การวกวน ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนทั้งหมดก่อน และในส่วนพยานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆทางตำรวจเองก็ไม่ได้ตัดทิ้งแต่อย่างใด หากได้ข้อมูลเบาะแสมา ตำรวจก็จะต้องทำการพิสูจน์ทราบรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอน

 

สำหรับกรณีที่นำศพไปทิ้งที่ไร่มันสำปะหลัง ในทางการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่าน่าจะเป็นคนที่เคยเข้าไปในพื้นที่นั้น แต่จะใช่คนในพื้นที่หรือไม่ต้องตรวจสอบก่อน แต่เชื่อว่าเคยเข้าไป การนำศพไปทิ้งก็เป็นไปได้ทั้งการอุ้มไปและขับรถไป เพราะไม่ไกลจากขนำ แต่ความเป็นไปได้ที่จะอุ้มศพไปมากกว่าจะใช้ยานพาหนะ ส่วนการตรวจสอบซิมโทรศัพท์ของผู้ตายนั้น ถูกปิดสัญญาณวันที่ 10 มีนาคม 2567 ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่คนตายโทรศัพท์หาแม่เมื่อคืนวันที่ 8 ต่อเนื่อง 9 มีนาคม 67 จากนั้นแม่พยายามติดต่อลูกสาว แต่ติดต่อไม่ได้ เนื่องจากซิมถูกถอดและไม่มีโทรศัพท์แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดของทีมสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4

 

ในส่วนของรถจักรยานยนต์นั้น ใกล้จุดที่พบศพ ในรัศมี 300 เมตรมีบ่อน้ำอยู่ 5 บ่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ค้นหาแล้วแต่ก็ไม่พบ บ่อน้ำบางแห่ง แห้งแล้วก็ไม่พบรถจักรยานยนต์ จึงอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและประชาสัมพันธ์หารถจักรยานยนต์ดังกล่าวไปด้วย

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวช่อง8 ได้เดินทางมาพูดคุยกับนายแหลม อายุ44ปี (เพื่อนของผู้ตาย) ที่ไปส่งผู้ตายจำนำโทรศัพท์ โดยนายแหลม ระบุว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น ตนนั่งเล่นอยู่บ้านญาติ นางสาวศศิธร(ผู้ตาย) ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาหาตนที่บ้านญาติ และได้สอบถามว่า มีใครว่างไหม ไปส่งจำนำโทรศัพท์หน่อย ซึ่งตอนนั้นตนว่างอยู่พอดีจึงอาสาไปด้วย เมื่อไปถึงร้านโทรศัพท์มือถือ ผู้ตายก็ได้เดินขึ้นไปพูดคุยกับเจ้าของร้านและได้จำนำโทรศัพท์มือถือ เป็นจำนวนเงิน 700-800 บาท ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าได้เท่าไหร่

 

หลังจากที่จำนำโทรศัพท์เสร็จ นางสาวศศิธรผู้ตายก็ได้ให้ตนนั้นขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ย่านตัวเมืองกระนวน ซึ่งเมื่อไปถึงรีสอร์ตดังกล่าวตนได้นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่พักหนึ่ง และผู้ตายก็เดินเข้าห้องพักและเล่นโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องหนึ่ง เห็นผู้ตายเล่นสล็อตในมือถือ หลังจากนั้นผู้ตายก็ได้มาส่งตนที่บ้านญาติ และตนก็ไม่เจอผู้ตายอีกเลย ซึ่งผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ตำรวจได้เดินทางไปหาตนที่บ้าน และมาสอบถามหาผู้ตายซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า นางสาวศศิธรนั้นเสียชีวิต เมื่อทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รู้สึกตกใจและสงสารเขาที่ถูกฆ่าแบบนั้น

 

โดยปกติแล้วนิสัยส่วนตัวของผู้ตายจะเป็นคนพูดเสียงดังและมีนิสัยห้าวเหมือนผู้ชาย ซึ่งตนกับผู้ตายรู้จักกันมาประมาณ 3-4 เดือน และนางสาวศศิธรยังเคยไปเที่ยวหาตนที่บ้าน ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้นตนไม่ทราบว่าผู้ตายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่ง ที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยเล่าปัญหาชีวิตให้กับตนฟังอยู่

 

ต่อมาทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในตัวอำเภอกระนวน ทั้งนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสิงห์ (นามสมมติ) ผู้จัดการรีสอร์ต เผยว่า เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น ผู้ตายจะเข้ามาเช่ารีสอร์ทอยู่เป็นประจำ และจะเช่าอยู่ 2 – 3 วัน โดยผู้ตายจะขี่รถจักรยานยนต์มาเปิดห้องเพียงคนเดียว หลังจากนั้นก็จะมีเพื่อนผู้ชายเวียนเข้ามาหาอยู่เป็นประจำ ผู้ตายจะชอบเช่าห้องในสุด และไม่ชอบจอดรถบริเวณหน้าห้องจะเอาไปแอบอยู่ข้างๆ รีสอร์ต ซึ่งตนก็แปลกใจว่าทำไมถึงไม่เอารถมาจอดบริเวณหน้าห้อง

 

พฤติกรรมส่วนใหญ่จะชอบมีผู้ชายเข้ามาหาเวลากลางคืนเวียนกันเข้ามาอยู่หลายคนซึ่งไม่ทราบว่าเข้ามาทำอะไร ตนยังเคยเข้าไปเตือนถึงเรื่องการขับรถเข้าออกในช่วงเวลากลางคืน นอกจากนั้นผู้ตายยังเคยมาขอยืมเงินตนเพื่อเติมน้ำมันรถอีกด้วยแต่ตนก็ให้ไปโดยไม่คิดอะไรเพราะเป็นเงินเพียงแค่ 30 บาทซึ่งหลังตำรวจมาบอกว่าเสียชีวิตตนก็ตกใจ และเสียใจเหมือนกัน

 

ขณะที่พระตั๊ก อายุ 47 ปี ซึ่งมีชื่อเสียงด้านไสยศาสตร์ในพื้นที่ ชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายที่พระอาจารย์ตั๊ก เป็นผู้ปราบปอบ จับปอบได้ทั้งหมด 98 ตัว ในพื้นที่บ้านหนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น จับไปทำพิธีจนหมู่บ้านสงบสุขถึงขณะนี้ เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจ สภ.กระนวน

 

พร้อมทั้งเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังเกิดเหตุ ได้นั่งทางในหลวงปู่โดยในนิมิตเห็นถูกชายสวมไอ้โม่งประมาณสองถึงสามคน ฆ่าหญิงคนนี้จากบ้านห้วยโจด อำเภอกระนวน ลักษณะเป็นเถียงนา มีป่าไผ่ แล้วนำมาทิ้งในจุดนี้ที่ไร่มันสำปะหลัง ซึ่งในนิมิตหลวงปู่บอกเพียงเท่านั้น และก็ไม่ได้ถามอีกเนื่องจากไม่ใช่เรื่องของเรา โดยการดูนิมิตนั้น เป็นการนั่งทางในมีดอกไม้ธูปเทียน บูชาพระพุทธชินราช และดูนิมิต หรือชาวบ้านในพื้นที่เรียกการดูมอ ซึ่งมักจะมาให้ช่วยดูเวลามีบุคคลสูญหาย ในนิมิตที่เห็นคนนั้นสวมไอ้โม่งดำไม่เปิดหน้าประมาณ 2-3 คน เป็นนิมิตเวลา 3 ทุ่ม แต่ปู่ก็ให้ส่องเพียงเท่านี้ และในส่วนที่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้เนื่องจากที่สำนักสงฆ์อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่ดินบรรพบุรุษของพระอาจารย์ จึงได้มาให้ข้อมูลกับตำรวจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และวันเกิดเหตุก็ไม่ได้ทราบหรือรู้เห็นอะไร

ล่าก๊วนเพื่อนหาฆาตกร ฆ่ารัดคอสาวใหญ่หมกไร่มัน วุ่น! พระนิมิตเห็น 3 โม่งรุมฆ่ารัดคอ