หนุ่มไทใหญ่หึงโหดใช้มีดฟันและใช้สากกะเบือทุบกิ๊กหนุ่มของแฟนสาวจนเสียชีวิต หลังเห็นภาพบาดตาแฟนสาวนอนกกกิ๊กหนุ่มในห้องเช่า  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ( 6 มีนาคม) ในห้องเช่าไม่มีชื่อ หมู่ 3 ตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

โดยผู้เสียชีวิต คือ นายสุรชัย อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด สภาพศพถูกมีดฟันที่ท้ายทอยจนเหวอะหวะ และมีร่องรอยถูกฟันทั่วร่างหาย หน้าผากถูกสากทุบจนยุบ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตในสภาพท่อนล่างเปลือย ห่างจากหน้าห้องเช่าเพียง 5 เมตร ส่วนนางสาวชิวา อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน แฟนสาวของผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกสากทุบจนกรามหัก นอนจมกองเลือดในสภาพเปลือยกายใกล้กับศพนายสุรชัย กู้ภัยเข้าช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาล

หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ สอบปากคำพยานแวดล้อม  และเก็บหลักฐาน จากนั้นกู้ภัยมูลนิธิสว่างสำเร็จได้นำศพนายสุรชัย ส่งแผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต

ด้าน พ.ต.อ.ธงชัย กรรณิกา ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด  เปิดเผยว่า จากการสอบถามพยานแวดล้อมเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายกับหญิงคนเจ็บเป็นกิ๊กกัน โดยฝ่ายชายมาหากิ๊กสาวที่ห้องเช่าในช่วงกลางคืนที่แฟนหนุ่มของเธอไปทำงาน  ต่อมาแฟนหนุ่มกลับจากที่ทำงานมาถึงห้องเช่าเห็นภาพบาดตาแฟนสาวอยู่กับชายอื่น จนบันดานโทสะลงมือทำร้ายร่างกายทั้งกิ๊กหนุ่มและแฟนสาวของตนเองจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะลากทั้งสองคนออกมาทิ้งหน้าห้องเช่า และนำชุดชั้นในของแฟนสาวโยนทิ้งบนหลังคาห้องเช่า ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป  ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

จากนั้นทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่หาภาพวงจรปิด  จึงได้ภาพวงจรปิดซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 80 เมตร โดยจากภาพจะเห็นว่าช่วงเวลาประมาณ 22.58 น. นายคืนผู้ก่อเหตุ ได้ลากตัว นายสุรชัย ผู้เสียชีวิต ออกมาบริเวณกลางถนน จากนั้นจึงได้มีการทำร้ายนายสุรชัยซึ่งคาดว่าเป็นการใช้อาวุธมีดแทง ซึ่งจากภาพวงจรปิดจะมีเสียง ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงที่นายสุรชัยถูกนายคืนใช้อาวุธมีด

จากนั้นจะเป็นภาพกล้องวงจรปิดตัวที่สองซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ซึ่งจากภาพเวลาจากกล้องจะไม่ตรงกับเวลาจริง โดยจะช้ากว่าเวลาจริงประมาณ 1 ชั่วโมง โดยจากภาพเวลาจริงคือ 23.11 น. จะเห็นรถจักรยานยนต์ของนายคืน (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งขี่ไปกับ น้องชาย และมุ่งหน้าหลบหนีไปที่อำเภอสันกำแพง

วันนี้ทีมข่าวจึงได้พบกับ น.ส.กาญจนา อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

“ในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 21.00 น. น.ส.ชิวา ซึ่งพักอาศัยอาศัยอยู่ในห้องแถวเดียวกับตน ได้เดินมาหาตนกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งตนก็ไม่ทราบชื่อ แต่ก็เห็นว่ามาหา น.ส.ชิวา อยู่บ่อยครั้ง โดยทั้งสองคนได้เดินมาหาตนที่ห้องของตนและได้ถือสุรามาหนึ่งขวด จากนั้นก็มานั่งดื่มสุรากัน ซึ่งช่วงแรกตนก็ร่วมดื่มสุราอยู่ในวงด้วย แต่หลังจากนั้นตนจึงหยุดดื่มเพราะเริ่มง่วงนอน จึงได้บอกให้ น.ส.ชิวา จับชายที่มาด้วยกันให้กลับไปที่ห้องหรือกลับบ้าน เนื่องจากตนจะนอนแล้ว แต่ทั้งสองคนก็ไม่กลับยังนั่งดื่มสุรากันต่อ หลังจากนั้น ทั้งสองคน จึงได้มานอนบนที่นอนของตน โดยที่ตนก็นอนอยู่ในห้องด้วย

โดยหลังจากนั้นเวลาประมาณ 22.50 น. นายคืน ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.ชิวา ก็ได้กลับมากับน้องชายของเขาซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้ไปทำงาน โดยได้มาเรียกที่บริเวณหน้าต่างห้องของตน ตนจึงได้ตอบกลับไปว่าประตูห้องไม่ได้ล็อก ให้เปิดเข้ามาได้เลย โดยหลังที่นายคืนเปิดประตูห้องเข้ามาที่ห้องของตน ก็ได้เห็นว่า น.ส.ชิวา ได้นอนอยู่ กับชายคนหนึ่งที่มาดื่มเหล้ากับเขา นายคืนจึงได้ลงมือทำร้าย ชายคนดังกล่าว ด้วยการชกต่อยและกระทืบ รวมถึงทำร้าย น.ส.ชิวา ด้วยการทุบตีและกระทืบเช่นกัน โดยหลังจากนั้นนายคืน จึงได้ลากชายคนดังกล่าวออกมาจากห้องของตนและนำนอนไว้บริเวณกลางถนน จากนั้นจึงได้ลาก น.ส.ชิวา ตามออกมา และนำไปไว้บริเวณกลางถนนเช่นกัน และหลังจากนั้นนายคืน จึงใช้อาวุธมีด แทงชายคนดังกล่าวจำนวนหลายครั้งซึ่งตนก็ไม่ทราบว่านายคืนแทงไปกี่ครั้ง

ซึ่งช่วงที่จะแทงตนเห็นว่าน้อง ชายของนายคืน ได้พยายามห้ามนายคืนแล้ว แต่ในคืนก็ไม่ฟังและลงมือแทงด้วยความหึงหวง และได้ย้อนไปทำร้าย น.ส. ชิวา ซึ่งนอนอยู่ใกล้กันบริเวณกลางถนน จนกระทั่งบาดเจ็บสาหัส

โดยหลังจากก่อเหตุเสร็จ นายคืน ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์หนีไปกับน้องชายของเค้า ซึ่งเหตุการณ์ภายนอกตนเห็นไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่เนื่องจากตนพิการไม่สามารถเดินได้

หลังจากนั้นทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับ นายสุภชัย อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้าน  ม.3 บ้านสันต้นแหน โดยได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

“ในช่วงเมื่อคืนหลังจากเกิดเหตุตนก็ได้รับแจ้งจึงรีบมาดูที่เกิดเหตุ แต่ในช่วงมาถึงที่เกิดเหตุนั้นผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นผู้หญิงก็ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งตนได้พบศพชายหนึ่งรายก็คือนายสุรชัยซึ่งนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยจากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าให้กับตนฟังว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ชิวา และ นายคืน มีเรื่องหึงหวงกันอยู่แล้ว และก่อนที่จะเกิดเหตุในคืนได้กลับมาเห็น น.ส.ชิวา  อยู่กับนายสุรชัย จึงได้ทำร้ายนายสุรชัย และลากตัวออกมาบริเวณกลางถนน แล้วใช้อาวุธมีดแทงนายสุรชัยจนแน่นิ่ง จากนั้นจึงได้จับนายสุรชัยถอดกางเกง ส่วน น.ส.ชิวา นั้น นายคืน ก็ได้ทำร้ายด้วยการทุบตีและกระทืบจนกรามหัก จากนั้นจึงได้ลากตัวออกมาบริเวณกลางถนนเช่นกัน และจับถอดกางเกง และกางเกงใน จนเปลือยเปล่า และนำกางเกงและกางเกงในของ น.ส. ชิวา โยนขึ้นบริเวณหลังคาของห้องแถว

ซึ่งลักษณะการกระทำดังกล่าวตนมองแล้วเป็นการกระทำเพื่อการประจานและความสะใจ  โดยหลังจากก่อเหตุนายคืนก็ได้หลบหนีไปกับน้องชาย ซึ่งในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัว ซึ่งในวันนี้ตนก็ได้มาดูบริเวณห้องที่เกิดเหตุ เพื่อดูว่ามีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมหรือไม่”