สืบเนื่องจากมีการเผยคลิปกล้องวงจรปิดเหตุชายวัยรุ่น 7 คน ขับรถกระบะดักวัยรุ่นชายกำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์ และทำการรุมกระทืบเน้นบริเวณส่วนหัว จนได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส จากการสอบถามพบว่าเกิดจากกรณีหึงหวงที่ผู้บาดเจ็บ ได้มีการข้องแวะกับสาวคนสนิทของกลุ่มผู้ต้องหา จนทำให้ทนไม่ไหวจนต้องเข้าทำร้าย




ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 29 พ.ย. 2566 ช่วงประมาณ 22.50 น. จากกล้องวงจรปิดพบว่า มีการขับรถกระบะเบียดรถมอเตอร์ไซต์ จนทำให้ตกไปข้างทาง พร้อมกับวัยรุ่นในรถกระบะได้วิ่งลงมาต่อยแบบไม่ยั้ง พร้อมกับมีการเตะบริเวณใบหน้าและหัว มีการเอาก้อนหินทุ่มใส่หัวผู้บาดเจ็บหลายครั้ง เมื่อมีการทำร้ายจนพอใจก็ขับรถกระบะหนีไป ทางด้านผู้บาดเจ็บได้มีการนั่งพักและลุกขึ้นเพื่อจะขี่รถกลับ แต่กลายเป็นว่ามีอาการโคลงเคลงขี่ไม่ไหว จนต้องทิ้งรถและเดินไปหาที่นั่งพัก


จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางครอบครัวผู้บาดเจ็บร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากคดีมีความล่าช้าเป็นอย่างมาก ยังจับคนร้ายไม่ได้ทั้งที่เหตุเกิดตั้งแต่ปีที่แล้ว (29 พ.ย. 2566) ซึ่งทางครอบครัวเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการพยายามฆ่า เบื้องต้น ผู้บาดเจ็บคือ นายณัฐวุฒิ อายุ 19 ปี อาการปลอดภัยแล้ว




ล่าสุดวันนี้ (26 ก.พ. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ติดตามความคืบหน้าของคดีโดยเดินทางมายัง สภ.เมืองนครปฐม ได้มีการให้ข้อมูลว่า การก่อเหตุครั้งนี้มีวัยรุ่นทั้งหมด จํานวน 7 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น” พร้อมของกลางในคดี ได้แก่ รถกระบะ เสื้อผ้า กางเกง ในวันก่อเหตุ ได้แก่


1. นายณัฐภัทร อายุ 31 ปี (จับกุมแล้ว)
2. นายพันธกานต์ อายุ 21 ปี (แจ้งข้อกล่าวหา)
3. นายศรชัย อายุ 20 ปี (แจ้งข้อกล่าวหา)
4. นายสหรัฐ อายุ 26 ปี (แจ้งข้อกล่าวหา)
5. นายธนพล อายุ 32 ปี (แจ้งข้อกล่าวหา)
6. นายอนุศิษฏ์ อายุ 25 ปี (เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีส่วนร่วม จึงสอบปากคําไว้เป็นพยาน)
7. นายรัฐพงศ์ อายุ 20 ปี (อยู่ระหว่างประสานเข้ามารับแจ้งข้อกล่าวหา)




วันนี้ทีมข่าวได้สอบถาม แม่ขวัญ อายุ 52 ปี แม่ผู้บาดเจ็บ เผยว่า ลูกชายตนรู้จักกับ นางสาวสุธิดา แฟนสาวของผู้ก่อเหตุมานานตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว และในวันเกิดเหตุนั้นทางฝั่งผู้หญิงโทร. มาหาลูกตน ให้ไปช่วยเพิ่มยอดขายน้ำ เพราะมีโปรโมชั่นอยู่ ลูกชายเลยขับรถออกไปหา และปกติก็มีการขี่รถกลับพร้อมกันโดยปกติ แต่อยู่ ๆ เมื่อลูกชายกำลังขี่รถกลับก็เป็นไปตามคลิปที่ออกมา


ซึ่งพอเห็นคลิปต้องบอกว่า ทำใจไม่ได้เหมือนเขาจะตั้งใจ จะเอาให้ลูกตนตายเลย และพอแจ้งความไปคดีก็ไม่ค่อยคืบ แต่แม่ก็รู้ว่าตำรวจก็พยายามทำงาน แต่ด้วยแม่กังวลหลายอย่างจึงทำการแจ้ง คุณกัน จอมพลัง ไป และเมื่อวานก็มีการจับกุมได้แล้ว แม่ดีใจมากเพราะลูกชายเจ็บหนักต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพราะต้องเช็กร่างกาย ด้วยตอนนี้ยังมีเลือดออกในสมองอยู่ 2 เซนติเมตร และยังมีรอยเย็บตรงเหนือหู ข้างขวา 2 นิ้ว ตอนนี้อาการดีขึ้นแต่ก็ยังไม่เต็มร้อย


ในส่วนของผู้กระทำความผิด ไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักก่อนหน้านี้ มีให้พวกผู้ใหญ่มาไกล่เกลี่ย เหมือนกันแต่ไม่เป็นผล เพราะคนทำตั้ง 7 คน แต่มาไกล่เกลี่ยคนเดียว และบอกแค่ว่าไม่มีเงิน แม่ยังบอกกับเขาเลยว่า เลี้ยงลูกแบบนี้ต้องมีเงินนะ




สุดท้ายจริง ๆ ถ้าเข้ามาพูดคุยกันก่อนหน้านี้ ก็คงพอจะคุยได้เพราะก็คนบ้านเดียวกัน แต่ตอนนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องตำรวจจัดการแล้วกัน ตอนนี้ก็ไม่ให้ติดต่อเพื่อนหญิงคนดังกล่าวแล้ว และก็ไม่กล้าไปไหนดึก ๆ อีกเพราะระแวง


ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถาม นายรัฐพงศ์ หรือเต๋า อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคนที่ 7 ได้เดินทางมาพร้อมครอบครัวเพื่อทำการมอบตัว โดยเปิดใจว่า ในวันเกิดเหตุตนไม่ได้รู้เรื่องอะไร แค่ไปกับรุ่นพี่และก็มีการเข้าไปเตะที่ท้องเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าเขาจะเจ็บหนัก และไม่มีความแค้นกับผู้บาดเจ็บมาก่อน ทราบแต่ว่าผู้บาดเจ็บไปยุ่งกับแฟนรุ่นพี่จึงได้มีการขับรถดักทำร้าย




ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ นายธัชพล อายุ 60 ปี ลุงผู้บาดเจ็บ ได้เผยว่า ตนทราบหลังจากเกิดเหตุ 10 นาที แม่ของหลานโทร. บอก ตนเลยเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุห่างจากบ้านตนประมาณ 200 เมตร และทำการหาคลิปการโดนทำร้ายของหลานคืนนั้นเลย จนมาตอนเช้าอีกวันจึงได้รู้ว่าผู้ก่อเหตุมีการ จอดรถมาดักรอที่ตลาดตั้งแต่ตอนเวลา 22.10 ก่อนที่เวลา 22.30 น. ได้ขับออกไปเพื่อไปรุมทำร้ายหลานตน และช่วงเกิดเหตุเวลา 22.50 น.


ดังนั้น ตนมั่นใจว่ามีการวางแผนมาอย่างดี และเมื่อตนได้คลิปจึงไปทำการแจ้งความ ซึ่งสาเหตุที่หลานเล่าคือ เขากับแฟนผู้ก่อเหตุเรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมและก็หายกันไป ก่อนจะมาเจอกันก็เลยมีการพูดคุยกันแต่ไม่นาน ยังไม่ถึงอาทิตย์และมีการขี่รถตามไปส่งปากซอยกัน เพราะผู้หญิงทำงานกะดึก แต่ความสัมพันธ์ไม่แน่ใจ




แต่เมื่อเกิดเรื่องแล้วเห็นคลิปรับไม่ได้ เขาทุ่มก้อนหินใส่ขนาดนั้นเหมือนเอาให้ตายเลย และตั้งแต่เกิดเรื่องทางด้านผู้หญิงหรือผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้เข้ามา จนเป็นข่าวก็มีการให้ผู้ใหญ่เข้ามาพูดคุยแต่ก็คุยกันไม่ได้ ตนสงสารหลานมาก เพราะการรักษามีทั้งผ่าตัดและฟื้นฟูไปโรงพยาบาลหลายรอบมาก ค่ารักษาก็จ่ายเงินหมด พ่อแม่เขามีลูกคนเดียว มาทำแบบนี้จิตใจทำด้วยอะไร และค่อนข้างกังวล เพราะหลานมีอาการหวาดระแวง เวลาไปไหนก็กลัว เรียนก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง นอนก็ปวดหัว ตื่นก็จะนอนไม่ได้อีก มันโหดร้ายเกินไปมาก อยากขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะทำขนาดนี้ 7 รุม 1 และก็ไม่ถามสักคำว่าอะไรยังไง กะมาตีเลยถ้าตายขึ้นมาทำไง เอาก้อนหินทุบแบบนั้น




ทางด้านนายสุริยา อายุ 48 ปี พ่อของนายเต๋า ผู้ต้องหาคนที่ 7 เผยว่า ทราบเรื่องเมื่อ 2 วันก่อน เพราะมีหมายไปที่บ้าน แต่ครอบครัวไปเที่ยวที่กาญจนบุรี ทำให้เมื่อวานที่มีตำรวจเข้าไปไม่เจอลูกตน ยืนยันไม่คิดหลบหนี เพราะลูกก็เรียนอยู่ที่นี่ บ้านอยู่ตรงนี้จะหนีไปไหน


โดยลูกก็มาเล่าว่า ไปกับพวกเพื่อน ๆ ในหมู่บ้าน แต่มีการเตะไปแค่ 1-2 ที ไม่ได้มีการเตะที่หัว ตนก็พูดไม่ออก เพราะตนเพิ่งทราบวันนี้ ตั้งใจพามามอบตัว พรุ่งนี้จะทำการขอประกันยังไม่รู้ได้ไหม ต้องใช้เงินเท่าไร ตอนนี้ยังหาคนค้ำไม่ได้ เครียดและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลูกไปตามเพื่อน ไม่มีนิสัยเกเร กลับมาก็ทำรถ เพื่อนมารับก็ไปกับเขา ไม่ได้มีอะไร หลังจากเกิดเรื่องยังไม่เจอผู้บาดเจ็บเลย แต่อยากขอไกล่เกลี่ย ถ้าไม่มีก็จะขอผ่อนเขาเอา สุดท้ายอยากขอโทษคนเจ็บและครอบครัว ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้

โจ๋หึงเพื่อนสนิทแฟนยกพวกรุมกระทืบ สุดโหดใช้หินทุบหัวปางตาย