ต่อมาทีมข่าวได้มาดูภาพวงจรปิดพร้อมกับเพื่อนของผู้สูญหาย จนกระทั่งเราได้พบหลักฐานสำคัญ ภาพวงจรปิดขณะ นายศิริชัย สามีของผู้สูญหาย ทำร้ายร่างกาย “นุ่น” ผู้สูญหาย หลังออกมาจากร้านอาหารดังกล่าว ที่นุ่นกับเพื่อนเพิ่งไปฉลองวันเกิดสามีของนุ่น

ภาพวงจรปิดตัวแรกจะเห็นหน้าทีที่รถบีเอ็มดับบลิวสีขาวของนายศิริชัยมาจอดที่บริเวณริมถนนย่านแจ้งวัฒนะ จากนั้นจะเห็นนุ่นลงมาจากรถด้วยสภาพอิดโรยและคล้ายจะต้องคลานออกมาจากรถที่บริเวณเบาะหลัง ลักษณะคล้ายนุ่นกำลังตะเกียกตะกายเพื่อที่จะหนีบางอย่าง ก่อนที่จะเห็นสามีของนุ่นก็ลงมาจากรถที่บริเวณเบาะหลัง และจะเห็นนายศรีชัยจิกของของนุ่นก่อนที่จะเตะเข้าที่ท้องของนุ่นริมถนน จนนุ่นล้มลงกองกับพื้น แล้วใช้เท้าเตะเข้าที่หน้านุ่นจนนอนกองกับพื้น นุ่นพยายามจับเท้าของฝ่ายชายเพื่อขอร้องให้หยุด แต่ฝ่ายชายก็ยังกระชากผมของนุ่นเพื่อให้นุ่นลุกขึ้นมานั่งก่อนที่จะนั่งเคลียร์ใจกัน

เคลียร์ใจกันได้เพียงแป๊บเดียวฝ่ายชายก็เตะเข้าใบหน้าของนุ่นแล้วก็กระทืบซ้ำหลายครั้ง จนกระทั่งนุ่นลุกขึ้นมาไม่ไหว แล้วฝ่ายชายก็นั่งยองๆแล้วก็จ้องมองฝ่ายหญิง ก่อนที่ฝ่ายชายจะจิกผมของนุ่นและบังคับให้ลุกขึ้นมาและลากกลับไปที่รถ

ต่อมากล้องวงจรปิดตัวที่สี่จะเห็นหน้าที่ที่ “นุ่น” พยายามวิ่งหนีสามีโดยวิ่งมากลางถนนก่อนสามี จะวิ่งไม่ทันและตะครุบ “นุ่น”จนล้มลงกลางถนน ซึ่งฝ่ายชายลากนุ่นมาบริเวณข้างทาง ก่อนฝ่ายชายลุกหยิบก้อนอิฐที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุแล้วเอาก้อนอิฐดังกล่าวมาทุบนุ่นที่นอนอยู่ริมถนน

ต่อมาฝ่ายชายก็เดินออกจากจุดที่ “นุ่น” นอนอยู่ข้างทาง แล้วกลับไปที่รถ เพื่ออุ้มลูกเล็กออกมาจากรถ หลังจากทิ้งลูกไว้ในรถนานเพียงลำพัง แล้วมานั่งที่ตัวเองทำร้ายภรรยา

ซึ่งความเหี้ยมโหดของฝ่ายชายก็ยังไม่จบเท่านี้ฝ่ายชายอุ้มลูกแล้วก็หยิบก้อนอิฐแล้วทุบภรรยาต่อ

สักพักคล้ายว่าตัวเด็กน่าจะร้องไห้ ฝ่ายชายก็เลยอุ้มลูกแล้วยืนปลอบริมถนน พอลูกสงบฝ่ายชายก็นั่งที่ริมถนนแล้วก็ใช้ก้อนอิฐทุบภรรยาต่อ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบบริเวณที่คาดว่าน้องนุ่นหายตัวไป และไปเจอกับก้อนอิฐแตก

ขณะเดียวกันเมื่อทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ก็ได้เจอก้อนอิฐ และรอยเลือดกระจายอยู่เป็นหย่อมๆ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ