"กิต" คลั่งรัก "น้องพร" "ใหม่" ไม่เลิกเลยต้องฆ่า


ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายต่อ (นามสมมติ) ลูกพี่ลูกน้องช่างกิต บอกว่า ตนทราบเรื่องวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ก่อนพี่กิตถูกจับ เห็นรถเก๋งสีแดงคล้ายคันของพี่กิต อยู่ในภาพวงจรปิดตามที่ช่อง 8 นำเสนอ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่ากิตเป็นคนฆ่า เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพฤติกรรมรุนแรงที่แสดงออกของพี่ชายมาก่อน ยืนยันว่าเคยเห็นกิตขับรถเก๋งคันสีแดง แต่ไม่ทราบว่ารถเก๋งคันนั้นเป็นของกิตหรือไม่


ในส่วนวันที่เกิดเหตุ 27 มกราคม ตนเองกลับมาถึงบ้านพักประมาณ 17.00 น. ซึ่งบ้านพักของตนอยู่ด้านหลังบ้านพักของกิต เห็นกิตนั่งอยู่หน้าบ้านกับพวกที่มาทำรถด้วยกัน ตนก็ยังพูดกับกิตว่า “เสร็จหรือยัง ถ้าเสร็จแล้วจะเอารถตัวเองมาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง” จากนั้นก็หลีกทางให้แล้ว ตนก็ขับรถออกไปจากอู่ พอเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเสร็จตนก็กลับขึ้นบ้านพัก แล้วก็ไม่มั่นใจเช่นกันว่ากิตขับรถแดงออกจากบ้านพักตอนไหน


ทีมข่าวยังได้สอบถามเพิ่มเติมอีกว่า เคยเห็น แท็ป นิว และกานต์ มาที่บ้านพักของตนหรือไม่ ยอมรับว่าเคยเห็นและมาที่บ้านพี่กิตบ่อย เพราะส่วนใหญ่จะมานั่งเล่น และเล่นสนุกเกอร์ด้วยกันที่บ้าน ส่วนพรไม่อยากตอบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว พอถามว่าพรเป็นสเป็กของกิตหรือไม่ “ตนยืนยันว่าไม่รู้ ตนไม่รู้สเป็กกิตยังไง และถ้าถามว่ากิตคลั่งรักสุดไหม ตนก็ไม่รู้แรงจูงใจที่กิตทำ”





ส่วนความรักของกิต เป็นคนที่รักใครรักจริงและรักเดียวและคลั่งรักมาก ก่อนหน้านี้กิตเคยมีแฟนหลายคนแต่อยู่ในลักษณะคบทีละคน ซึ่งตนเองก็เคยเห็นกิตอาการเฮิร์ตหลังจากที่เลิกกับแฟน แต่ตอนที่กิตมาคบกับพร กิตแทบไม่ได้อยู่บ้านไปขลุกกับพรที่บ้านของพร เชื่อว่าอยู่ในอาการอินเลิฟและคลั่งรักหนัก ส่วนเปย์หรือไม่ตนไม่รู้


ส่วนตัวทราบแล้วว่าพรจะขายบ้านแล้ว ยืนยันว่า “ไม่ต้องโทร. มาเพราะไม่ได้มีอะไรข้องเกี่ยวกันแล้ว ไม่จำเป็น ถึงมีอะไรก็ไม่ต้องโทร.” ทีมข่าวก็ถามต่อว่า “ถ้าพรอยากมาเยี่ยมกิตจะได้หรือไม่ ตนก็ขอยืนยันว่า “แล้วแต่กิต”


หากจะถามตนว่าสาเหตุที่กิตลงมือจะหาว่าตนเข้าข้างพี่ชายตนก็ได้เพราะไม่แปลกเพราะตนก็มองว่าอีกฝ่ายอาจจะพูดจากวนพี่ตน ทำให้พี่ตนโมโหแล้วก่อเหตุดังกล่าว “ในความคิดผมเขาเป็นคนกวนตีนคนหนึ่ง แล้วในคำให้การของพี่กิต ที่ให้การกับตำรวจเมื่อวาน ผมเลยคิดว่าอาจมีส่วน แต่ผมไม่รู้ว่าจริงไหม แต่ผมคิดแบบนั้น”


"พร" ฟีเว่อร์ โซเชียล Cover "เลิกมีผัว"


จากกรณีกระแสข่าวเรื่องของน้องพร ที่ร้อนแรงมาตั้งแต่มีตัวละครที่เป็นคนสนิทกับน้องพร โผล่ขึ้นมาทีละคน กระทั่งทางน้ายอด ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสมุทรปราการ มีการเข้าไปสัมภาษณ์เปิดใจน้องพร หลายประเด็น จนต่อมามีผู้ใช้ TikTok ได้มีการนำเสียงของน้องพร ที่เคยให้สัมภาษณ์กับน้ายอดไป Cover ซึ่งในคลิปเจ้าของมีการเลียนแบบเสียงและท่าทางที่น้องพร ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในประเด็นเรื่องของช่างกิต และความซื่อสัตย์ต่อคนรัก ยืนยันไม่เอาแล้วผัว และปรากฏว่าคลิปดังกล่าวเป็นไวรัลล้านวิว นั้น





วันนี้ทีมข่าวได้มีโอกาสไปพบกับ นายพงษ์ศักดิ์ สุกสิ ก็คือ น้ายอดสมุทรปราการ ที่เป็นคนเริ่มไปติดตามชีวิตน้องพร ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เกิดคดีนี้ขึ้นมา และน้ายอดก็เป็นคนเดียวที่น้องพรมักจะให้สัมภาษณ์เปิดใจเป็นคนแรก โดยน้ายอด เปิดใจกับทีมข่าวว่า อย่างแรกก็ต้องยินดีกับคนที่เอาเสียงสัมภาษณ์ไป Cover จนมีคนสนใจเป็นล้านและมีคนติดตามเพิ่มเติม ส่วนประเด็นว่าทำไมตอนแรก ๆ น้องพรถึงยอมคุยกับตนคนเดียว ก็เป็นเพราะว่าตอนที่เริ่มเข้าไปคุยกับน้องพร ตนมีการบอกกับน้องพรว่า เรื่องคดีจะเป็นยังไงไม่มีใครรู้ แต่ถ้าน้องพรมั่นใจว่าไม่ได้เป็นคนทำผิด หรือมีส่วนรู้เห็นก็ควรออกมาตอบสังคม และต้องออกมาพูดความจริง ทำให้น้องพรเชื่อใจตนเอง ซึ่งคำถามบางคำ ก็ยอมรับว่าพอมีประเด็นเรื่องของชายคนสนิทเข้ามา ตนเองก็ถามกับน้องพรแรงไปบ้างบางคำถาม เนื่องจากตนเป็นคนตรง





จนกระทั่งต่อมา หลังจากเสร็จงานศพของนายใหม่ และน้องพรมีการย้ายบ้าน ยอมรับว่าตนก็มีการโทรศัพท์ไปหาน้องพร แต่น้องพรไม่รับสาย ทำให้ตนต้องโทรศัพท์ไปถามช่างนนท์ ซึ่งเป็นหัวหน้าน้องพร ว่าพรเป็นอะไรถึงไม่รับสายน้ายอดเลย แต่ปรากฏว่าช่างนนท์ได้เปิดเสียงที่บันทึกเอาไว้ในวันที่น้องพรโทร. มาหาช่างนนท์ครั้งสุดท้ายให้ฟัง ซึ่งตนเองได้ยินกับหูว่า น้องพรมีการสั่งช่างนนท์ว่า "พี่นนท์ เดี๋ยวไปให้การกับตำรวจด้วยนะ แต่ไม่ต้องให้สัมภาษณ์อะไรกับนักข่าวแล้วนะ โดยเฉพาะไอ้เหี้ยยอด" ซึ่งตนเองยอมรับว่าตกใจมากที่ถูกน้องพรเรียกว่าไอ้เหี้ยยอด เพราะก่อนหน้านี้ น้องพรเวลาโทรศัพท์มาปรึกษาอะไร ก็เรียกตนว่าพี่ยอดค่ะอยู่เลย แต่ก็ไม่ได้โกรธน้องพรนะ


วันนี้ไหน ๆ ช่อง 8 ก็มาสัมภาษณ์แล้ว ก็อยากฝากไปถึงน้องพรว่า ขอให้พร เข้าใจไว้นะว่าพี่ยอดเป็นนักข่าว และที่พี่ยอดไปสัมภาษณ์น้อง พี่ไม่เคยไปใส่ร้ายน้องเลย และไม่เคยไปเสริมหรือแต่งเติมในคำพูดของน้องเลย ซึ่งยืนยันว่า สิ่งที่นำเสนอไปคือความจริงจากปากน้องพร และพอน้องพร ยอมรับความจริง ก็มีชายคนสนิทโผล่ขึ้นมา จริง ๆ สุดท้ายอยากจะบอกน้องพรว่า อย่ามาโกรธนักข่าวเลยนะ เพราะนักข่าวต้องทำหน้าที่นำเสนอความจริง โดยยืนยันว่าไม่มีจุดประสงค์คิดจะทำลายน้องพรแต่อย่างใด ซึ่งถ้าน้องพรพูดความจริงตั้งแต่แรก คงไม่มีนักข่าวช่องไหนเข้าไปเจาะค้นหาความจริงกันเอง

 

เพื่อนแฉความลับกิต "ผัวพรมันกวนเท้า" จึงตาย อึ้งสาวแห่คัฟเวอร์ "น้องพรไร้ผัว"