เปิดที่มามหาเสน่ห์ "น้องพร" ขวัญใจชาย

วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายสุทธิวิทย์ หรืออาจารย์วิท ชยุตม์วรกานต์ อาจารย์สักยันต์ท่านหนึ่ง ที่อยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ นั่งอยู่ในตำหนัก ผู้สื่อข่าวได้เปิดภาพรอยสักที่แขน และสันมือทั้งสองข้างของ นางสาวพร ให้กับทางอาจารย์ดู พบว่าเป็นยันต์หัวใจพระสีวลี ส่งเสริมด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม เสน่หา และยันต์ถุงเงินถุงทอง เกี่ยวกับโภคทรัพย์ พร้อมเปิดยันต์จิ้งจกสามหาง ก่อนจะพาไปดูเข็มที่ใช้สัก พร้อมเขียนยันต์หัวใจพระสีวลี ลงบนกระดานพร้อมพูดถึงอักขระแต่ละตัวให้ผู้สื่อข่าวได้ฟัง

อาจารย์วิท ได้ให้สัมภาษณ์ว่า รอยสักที่มือของพร คือรอยสักที่มีชื่อเรียกว่า หัวใจพระสีวลี นะชาลีติ เด่นในเรื่องของโชคลาภ เมตตา ส่วนใหญ่จะใช้ในเรื่องของการค้าขาย เป็นเมตตามหานิยม ส่วนที่แขนของพร ที่เห็นคือเป็นรูปถุงเงินถุงทอง ซึ่งรอยสักนี้จะเน้นในเรื่องของโภคทรัพย์ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของเสน่ห์หา ถ้าช่วยในเรื่องเสน่ห์หาจะเป็นพวกรอยสักจิ้งจกสองหาง จิ้กจกคู่ แต่รอยสักแต่ละรอยสักก็จะขึ้นอยู่กับคนที่สักให้ด้วย ว่าบรรจุพลังอะไรลงไปบ้าง อย่างเช่น หัวใจพระสีวลี ก็สามารถบรรจุเมตตาหรือเสน่ห์หาก็ได้เช่นกัน

โดยกล่าวอีกว่า สำนักสักยันต์แต่ละที่จะมีข้อห้าม ซึ่งครูบาอาจารย์ได้รับสืบทอดต่อกันมา อย่างเช่น การสักยันต์ ห้ามกินมะเฟือง เพราะว่าคนที่สักในเรื่องของคงกระพันชาตรีจะไม่กินเด็ดขาด เพราะมะเฟืองจะไปทำลายในเรื่องของความขลัง ทำให้ความขลังในรอยสักหายไป ข้อต่อมาคือห้ามด่าบุพการี ครูบาอาจารย์ และไม่ผิดลูกผิดเมีย เพราะจะทำให้ของย้อนกลับเข้าตัว ส่วนในกรณีของพรไม่ได้ถือว่าขาดศีล เพราะเจ้าตัวไม่ได้ถือศีล แต่ก็ละเมิดข้อห้ามของการสัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีกับตัวพร ผลที่ได้รับกลับมาจึงไม่ดีตามไปด้วย

เปิดพุทธคุณรอยสัก "จิ้งจกสามหาง" เสริมเมตตามหานิยม

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักสักยันต์ชื่อดัง ตำหนักพ่อแก่ชลบุรี หมู่ 4 ต.เกาะลอย อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้พบกับนายยุทธนา หรืออาจารย์นิก ซึ่งกำลังทำพิธีสักยันต์ให้กับลูกศิษย์และเป็นความบังเอิญที่ลูกศิษย์ทั้งสองคน ได้มาสักจิ้งจกสามหางที่แขนและข้อมือ โดยอาจารย์นิกได้บริกรรมคาถาก่อนจะมีการลงเข็ม และหลังจากลงเข็มเสร็จจากการสักจิ้งจกสามหางทั้งสองคนก็มีการบริกรรมคาถากำกับรายยันต์ดังกล่าว ทำให้หนึ่งคนมีอาการคล้ายของขึ้นด้วยท่าทียกมือทั้งสองข้าง หายใจรุนแรง จนอาจารย์นิกร่ายคาถาเสร็จ อาการก็กลับมาเป็นปกติ นอกจากนี้ยังมีการโชว์ปาฏิหาริย์ให้กับทางผู้สื่อข่าวดูถึงความเหนียวของรอยสักต่าง ๆ ที่อยู่บนเรือนร่าง (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ที่ลูกศิษย์ได้นำมีดทำครัวมาเฉือนกระดาษให้ดูถึงความคมของมีด แต่พออาจารย์นิกบริกรรมคาถาใส่หัวเป่าทั้งตัว จากนั้นลูกศิษย์ได้เอามีดมาเฉือนที่ใบหน้าจำนวนหลายครั้ง แต่คมมีดไม่สามารถทำอะไรผิวใบหน้าให้เป็นริ้วรอยได้ และไม่ระคายผิวเลย

จากการสอบถามอาจารย์นิกถึงเรื่องรอยสัก จากกรณีรอยสักที่น้องพรได้สักจิ้งจกในเรือนร่างอาจารย์นิก ได้เปิดเผยว่า รอยสักจิ้งจกสามหางนั้น จากเดิมที่มีเทวดาอยู่บนสวรรค์และเป็นคนเจ้าชู้มีเสน่ห์ จีบนางฟ้าจำนวนหลายคน เมื่อถูกจับได้ทางเทวดาองค์ใหญ่จึงได้ลงโทษสาปให้มาเป็นจิ้งจกสามหาง ซึ่งใครที่ได้สักจิ้งจกตั้งแต่สองหางขึ้นไปจนถึงเก้าหาง หางจะทำให้ มีเสน่ห์เมตตามหามหานิยมขั้นรุนแรง และยิ่งหางเยอะ พุทธคุณยิ่งเยอะ ตามจำนวนหางอีกด้วย

ส่วนรอยสักที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง เป็นคาถาอักขระณชาลีติ เป็นยันพุทธคุณด้านเมตตา หากใครได้สักแล้วจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ทำมาค้าขายก็ดี ทำให้คนนิยมสักเป็นจำนวนมาก

ส่วนที่เป็นรูปคล้ายถุง เป็นยันต์ถุงเงินถุงทอง สำหรับใครที่ทำการทำงานและมีรอยสักนี้จะทำให้เจริญก้าวหน้าการงาน และมีเงินเก็บไม่ขาดกระเป๋า ซึ่งรอยสักแต่ละรูปที่สักลงบนเรือนร่างล้วนแต่มีความหมายและพุทธคุณต่างกัน อยู่ที่ว่าใครจะสักแบบอยู่ยงคงกระพัน สายเหนียวบางคนก็สักเมตตาค้าขาย ส่วนคนโสดจะชอบสักรอยสักที่มีพุทธคุณ ด้านเมตตามหานิยม ทำให้ใครเห็นต่างรักใคร่ลุ่มหลง ตามที่มีการสักมานานหลายปี เพราะรอยสักเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยมาตั้งแต่ช้านานมาแล้ว