จากกรณี พระครูรัตนสราภิบาล อายุ 86 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองหงษ์ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ถึงกับเขียนป้ายขึ้นกระดานดำไว้ข้างศาลาการเปรียญภายในวัดด้วยข้อความว่า "มารสังคมมีทั้งผู้หญิง มีทั้งผู้ชาย มาหลอกลวง ต้มตุ๋นพระตามวัดมีมาก ต่อไปต้องพึ่งโทรหาตำรวจทันที โทร 191 สภ.หนองหงส์ มณเฑียร นัด 18 ส.ค.66 ส่งคืนแน่จริงไหม"

พระครูรัตนสราภิบาล เผยรู้สึกท้อใจถูกหลอก 1.7 ล้านบาท

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปพบกับ พระครูรัตนสราภิบาล เล่าว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2566 ได้มีตำรวจยศ ร.ต.อ. อายุ 63 ปี อดีตตำรวจประจำการที่ สภ.หนองหงส์ ที่เกษียณอายุราชการแล้ว มาขอช่วยขับรถรับ-ส่ง ให้ตอนนั้นรู้สึกดีเพราะยังมีตำรวจดีๆ แบบนี้อยู่ในสังคม

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เม.ย 66 ผู้กองคนดังกล่าวได้มาขอความช่วยเหลือ บอกว่า ลูกสาวถูกบริษัทประกันโกง ไม่จ่ายเงินที่ส่งเบี้ยจนครบสัญญาแล้ว โดยไม่ยอมจ่ายเงินจำนวน 7,000,000 บาทให้ จำเป็นต้องจ้างทนายไปเป็นผู้เดินเรื่อง โดยวันที่ 9 พ.ค.66 จึงจะได้เงินประกัน "จะพาหลวงพ่อไปรับด้วยกัน"

ตนเองด้วยสงสารหลงเชื่อใจ จึงให้ยืมเงินไปจำนวน 300,000 บาท ต่อมาวันที่ 3 พ.ค 66 มาขอเบิกอีก จำนวน 500,000 บาท ก็ไปเบิกธนาคารให้ ยังไม่พอวันที่ 5 พ.ค.66 มาบอกอีกว่า ยังขาดค่าทนายอีกจำนวน 500,000 บาท ตนเองก็ให้ไปอีก เพราะเห็นว่าพูดจาน่าเชื่อถือ ไม่หนำใจ วันที่ 6 พ.ค.66 มาขอยืมอีก 400,000 บาท ก็ให้ไปอีก เพราะนายตำรวจบอกว่าจะจ่ายดอกเบี้ยให้ 70,000 บาทรวมเป็นเงินที่เอาไปทั้งหมด 1,700,000 บาท แต่เมื่อให้เงินไปแล้ว อดีตผู้กองดังกล่าวได้หายตัวไปทันที

พระครูรัตนสราภิบาล กล่าวด้วยว่า เงินดังกล่าวที่ให้ตำรวจนายนี้ยืม เป็นเงินขายที่ดินมรดกของแม่ของตัวเอง จำนวนเงิน 2,000,000 บาท เอามาเก็บไว้ในบัญชีส่วนตัว ตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากแม่และน้องชายเสียชีวิตไปทั้งหมด ซึ่งเงินดังกล่าว ถือเป็นทรัพย์สินที่ตนเองเตรียมเก็บไว้ให้หลานชาย

หลังรู้ว่าตนเองถูกหลอก ตอนนี้รู้สึกท้อใจกับสังคมปัจจุบัน จึงเข้าไปแจ้งความต่อตำรวจ สภ.หนองหงส์ อ.หนองหงส์ ก่อนตำรวจจะมีหมายเรียกให้มาเจรจากัน โดยนัดจะจ่ายงวดแรกจำนวนเงิน 250,000 บาท ในวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็เงียบหายอีก ยอมรับว่า เหนื่อยใจจึงเขียนระบายความในใจในกระดานดำไว้เตือนตัวเอง

เจ้าอาวาสวัดหนองหงส์ ยังบอกอีกด้วยว่า จากที่สอบถามคนทั่วไปทราบว่า นายตำรวจนายนี้ ใช้วิธีเดียวกันกับตนเอง ไปหลอกเอาเงินชาวบ้านในเขต อ.หนองหงส์ รวมอีกกว่า 1 ล้านบาท เท่ากับหลอกเงินคนทั่วไปรวมถึงพระไปรวมกว่า 3 ล้านบาท สาเหตุทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตำรวจมนเฑียร "ติดผู้หญิงงอมแงม" สงสัยว่า เงินที่หลอกไปทั้งหมด อาจจะเอาไปเปย์หญิงหมดแล้วหรือไม่

เพื่อนข้างบ้านเผยอดีตผู้กองเคยมาเสนอขายกระบะให้ 1.6 แสน อ้างต้องการใช้เงินด่วน โชคดีไม่ตังค์ซื้อ จึงไม่ถูกหลอก

จากนั้นทีมข่าวจึงได้สอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน โดยลุงกล้า (นามสมมติ) เพื่อนบ้านให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าอดีตผู้กองมณเฑียรก่อนหน้านี้เคยเป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.หนองหงษ์ จากนั้นได้เกษียณมทได้ 2 ปีแล้ว และเริ่มสร้างอยู่อาศัยติดกับบ้านของตนเอง โดยผู้กองมณเฑียร พักอาศัยอยู่บ้านเพียงคนเดียวเนื่องจากได้แยกทางกันกับภรรยาไปนานแล้ว

โดยก่อนที่ผู้กองมณเฑียรจะหายตัวไปติดต่อไม่ได้ ผู้กองเคยเดินทางมาหาตนเองที่บ้านพร้อมกับยื่นข้อเสนอขายรถยนต์กระบะของเจ้าตัวให้ ในราคา 160,000 บาท แต่ตนเองนั้นตนเองโชคดีมากที่ไม่ได้ซื้อไป เพราะไม่มีตังค์ ตนเองจึงแนะนำให้ลองไปขายกับลูกเขยตนเอง แต่ลูกเขยตนเองก็โชคดีที่ไม่ได้ซื้อไป เพราะลูกเขย ยื่นข้อเสนอแบ่งจ่ายเงิน 2 งวด จ่ายปีนี้และปีหน้า ถึงจะซื้อ

ทำให้ตอนนั้นผู้กองมณเฑียร จึงไม่ได้ขายรถให้กับลูกเขยอีก โดยเจ้าตัวอ้างว่า ต้องการใช้เงินด่วน รอไม่ได้ จากนั้นตนเองก็ไม่เห็นผู้กองอีกเลย ซึ่งตอนนี้ผู้กองก็หายไปเกือบ 2 เดือนกว่าแล้ว

ผู้กองทำหลวงพ่อระทม ยืม 1.7 ล้านไม่ใช้คืน ต้องเขียนบ้านประจานเพิ่งรู้ติดหญิง