พระ-เณรผวา กองทัพหนอนบุ้งบุกวัด หัวหน้าเกษตรจังหวัดสตูลเข้าตรวจสอบ ใช้น้ำจากยาเส้นราดไม่ได้ผล

วันที่ 21 ธ.ค. 2565 ชาวบ้านในละแวกวัดสตูลสันตยาราม (วัดป่าช้าไทย) ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล แจ้งว่ามีหนอนจำนวนมากบุกเข้ามาอยู่ที่กุฏิพระ ภายในวัดสตูลสันตยาราม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดพบมีตัวหนอนลักษณะมีขนรอบตัว ยาวประมาณ 1 นิ้ว ไต่ยั้วเยี้ยบริเวณภายในกุฏิของหลวงตาวัน ถาวโร อายุ 90 ปี ซึ่งชาวบ้านกำลังช่วยกันกวาดตัวหนอนออกจากห้องหลวงตา

สำหรับกุฏิหลวงตาวัน ตั้งอยู่บริเวณต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีหนอนชักใยลงมาห้อยต่องแต่งก่อนที่จะร่วงลงไปในกุฏิดังกล่าว และในบริเวณเดียวกันยังพบตัวหนอนอีกจำนวนมาก บริเวณม้าหินอ่อนภายในวัดและภายในอาคารสวดมนต์หลังใหญ่

นายชาญณรงค์ วิรุณสาร หัวหน้าเกษตรจังหวัดสตูล เข้าตรวจสอบ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นหนอนบุ้ง ดักแด้ที่กำลังจะกลายเป็นผีเสื้อต่อไป ซึ่งบางคนที่แพ้ก็อาจจะทำให้เกิดผื่นคันได้ โดยจะหาวิธีที่เหมาะสมในการกำจัดที่ดูว่าปลอดภัย แต่สุดท้ายถ้าจำเป็นก็อาจจะต้องใช้สารเคมี คาดว่าผีเสื้อมาไข่ไว้ กินยอดไม้ตามวัฏจักร จากหนอนก็จะกลายเป็นดักแด้ และกลายเป็นผีเสื้อต่อไปอีกไม่กี่วัน แต่เนื่องจากมีปริมาณเยอะ และเกิดขึ้นในที่ที่มีคนอยู่อาศัยและภายในกุฏิวัด ก็เลยมีความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาอย่างเร็วที่สุด โดยวิธีแรก คือ กวาดทั้งหมดมากองรวมกันแล้วเผา ส่วนที่เหลือคาดว่าจำเป็นต้องใช้สารเคมีร่วมด้วย

นอกจากนี้ หัวหน้าเกษตรจังหวัดสตูลยังได้ลองใช้น้ำยาเส้นราดที่ตัวหนอนเพื่อหาวิธีกำจัด แต่ไม่ได้ผล จึงต้องหาแนวทางอื่นต่อไป

พระปลัดสุริญา ติสาโร เจ้าอาวาสวัดสตูลสันตยาราม กล่าวว่า เป็นเจ้าอาวาสมา 7 ปี ไม่เคยมีปัญหา ส่วนมากจะเป็นลิง นก หมา และสัตว์อย่างอื่น สำหรับหนอนนี้เจอเป็นปีแรก โดยหนอนมากินใบกากะทิง สำหรับหนอนนี้เมื่อโดนผิวจะคันมาก เมื่อวานมีพระเดินผ่านหนอนตกใส่ศีรษะ ถึงกับต้องใช้น้ำยาล้างจานมาล้าง 3 รอบ และต้องโกนผมใหม่ ส่วนอาตมาโดนแล้วถึงกับไม่ได้นอนเพราะแพ้ง่ายมีอาการคัน โดยหนอนตัวนี้บุกมาเยอะมากหลายล้านตัว ด้วยความที่อาตมาเป็นพระและเป็นเจ้าอาวาสไม่สามารถสั่งฆ่าสัตว์เด็ดขาด แต่โยมที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องให้มาจัดการดูแลทำตามหน้าที่ของโยมตามความรับผิดชอบ