ฝ่ายสืบสวนตำรวจนครบาล 5 ตามจับคนร้ายอ้างตัวเป็นเสี่ยเจ้าของอพาร์ตเมนต์ หลอกยกเค้าสาว​พริตตี้-พีอาร์ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 15 ล้านบาท

พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.กก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.บุรินทร์ กะปิตถา สว.กก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.วิสูตร เต็งเฉี้ยง สว.กก.สส.บก.น.5 และร.ต.อ.สุทธิพงษ์ แป้นจันทร์ รอง สว.กก.สส.บก.น.5 ร่วมกันจับดุมตัว นายปิยะศักดิ์ เรืองฤทธิ์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาหลอกคบหาเหยื่อสาวก่อนลักทรัพย์

พร้อมของกลาง กระเป๋าสะพายข้างสีดำ ยี่ห้อ Bogie.1 TACTICALST จำนวน 1 ใบ ซองปืนพกด้านใน จำนวน 1 ซอง ปืนลูกโม่ ยี่ห้อ TAURUS ขนาด 0.38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 0.38 จำนวน 6 นัด กล่องบรรจุกระสุนปืน ยี่ห้อ THAI ARMS จำนวน 1 กล่อง เครื่องกระสุนปืน ขนาด 0.38 จำนวน 35 นัด และเครื่องกระสุนปืน (ลูกซ้อม) ขนาด 0.38 จำนวน 13 นัด โดยสามารถจับกุมได้ภายในห้องพัก ของหอพักแห่งหนึ่ง ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 เมษายน เวลาประมาณ 13.30 น.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย เป็นหญิงสาว ตลอดจนสาววัยกลางคน จำนวนหลายราย เข้าร้องเรียนกับทางตำรวจ ว่าถูกผู้ต้องหารายนี้ เข้ามาตีสนิทพูดจาดี​หว่านล้อม​ ให้ตายใจ แต่งตัวดี ใส่ทองของมีค่า มีรถยนต์ลักษณะ SUV ขับ​ โดยมักจะอ้างตัวเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ บางรายหลอกสาว​พริตตี้ พีอาร์ คบหา อยู่กินกันซื้อของมีค่าให้ จนเหยื่อตายใจ​ ก่อนจะยกเค้า​ขโมยทรัพย์สินไปจนหมด หนำซ้ำสาววันกลางคน ถูกผู้ต้องหารายนี้ติดต่อผ่านทาง แอปพลิเคชันหาคู่ จนหลงเชื่อมอบทรัพย์สินให้เช่นกัน ซึ่งมูลค่าความเสียหายรวมแล้วกว่า 15 ล้านบาท

จากนั้นทางตำรวจจึงทำการสืบสวนจน ทราบว่า นายปิยะศักดิ์ เป็นผู้ก่อเหตุในคดีนี้ กระทั่งพบเบาะแสว่า ได้หลบหนีไปกบดานอยู่กับนางสาว เอ (นามสมมุติ) ในห้องพักแห่งนี้ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบ นางสาว เอ ที่บริเวณหน้าห้องหักดังกล่าว จึงแสดงตัวและเข้าไปทำการจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลาง สอบสวนที่ กก.สส.บก.น.5

จากการสอบสวน นายปิยะศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การภาคเสธ ว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ไม่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์เหยื่อสาวแต่อย่างใด เพราะทรัพย์ที่นำมาเป็นทรัพย์ที่เจ้าตัวซื้อให้หญิงสาวเหล่านั้นเอง ส่วนปัจจุบันไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ซึ่งขณะจับกุมผู้ต้องหาไม่มีทรัพย์สินของมีค่าแต่อย่างใด เนื่องจากนำทรัพย์สินไปขาย เพื่อนำเงินไปกินเที่ยว และเล่นการพนันจนหมด

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ เนื่องจากเมื่อทำการตรวจสอบประวัติ พบว่าผู้ต้องหารายนี้มี หมายจับจำนวน 5 หมายจับประกอบด้วย ศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.81/2564 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 (สน.บางนา) ,ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.108/2564 ลงวันที่ 17/3/2564 (สภ.บางใหญ่) ,ศาลอาญา ที่ 1786/2563 ลงวันที่ 24/11/2563 (สน.พหลโยธิน) ,ศาลแขวงชลบุรี ที่ 41/2563 ลงวันที่ 16/3/2563 (สภ.ดอนหัวฬ่อ จว.ชลบุรี) และศาลจังหวัดหัวหิน ที่ 121/2560 ลงวันที่ 22/6/2560 (สภ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ ) จึงต้องทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลอีกครั้ง

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป