กรณีที่มีคลิปหลานคลั่งทำร้ายยาย เมื่อญาติไปแจ้งความตำรวจบอกว่าไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า และไม่ดำเนินคดี ล่าสุดตำรวจชี้แจงแล้ว ยืนยันไม่ได้นิ่งเฉย และแจ้งข้อหาทำร้ายบุพการีแล้ว

คลิปที่ญาติๆ ใช้แท่งพลาสติกฟาดใส่นายเจ๋งหลายครั้ง แล้วยังจับนายเจ๋ง ทุ่มลงพื้น เนื่องจากไม่พอใจที่นายเจ๋ง เอาโช้ครถจักรยานยนต์ไปตียายแท้ๆ วัย 73 ปี และเหยียบหน้ายายจนบาดเจ็บ ซึ่งโชคดีที่ญาติมาเจอเหตุการณ์พอดี จึงพากันจับตัว และให้ก้มกราบเท้ายาย แต่ก็ถูกญาติคนหนึ่งเตะเสยคางไปอีก 1 รอบ

ล่าสุด คุณดารินทร์ หอวัฒนกุล ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปบ้านหลังเกิดเหตุย่านพระราม 2 พบกับคุณยายที่ถูกหลานชายทำร้าย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งรีดผ้า จู่ๆ "นายเจ๋ง" หลานชายวัย 29 ปี เดินถือโช๊คอัพรถจักรยานยนต์ เข้ามาถามว่า ตัดชื่อออกจากทะเบียนบ้านทำไม จึงบอกว่าไม่ได้ตัดออก

แต่หลานไม่พอใจ ถือโช๊คเข้ามาจะฟาด จึงวิ่งหนีตายเข้าไปในบ้าน แต่เสียหลักล้ม หลานชายจึงวิ่งตามทันใช้เท้าเหยียบหัว จากนั้นคนในบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปจับตัว และโทรแจ้งตำรวจ

ยายยอมรับว่า หลานชายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่ถึงปี ยกบ้านเล็กให้อยู่แต่หลานทำลายข้าวของ อาละวาด มีอาการหลอนเป็นประจำ เอารถจักรยานยนต์มาชำแหละชิ้นส่วนเสียหายทั้งคัน และยังทำร้าย เคยใช้ปืนจ่อหัวตน

ทั้งนี้ กังวลหลังทราบว่า ตำรวจแจ้งแค่ข้อหาทำร้ายร่างกาย และไม่ได้ตรวจปัสสาวะ กลัวเรื่องความปลอดภัย เพราะในบ้านมีแต่คนแก่ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด

พันตำรวจเอก ปริญญา เหลืองอุทัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางมด ชี้แจงทีมข่าวช่อง 8 ว่า คดีนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการี ซึ่งมีโทษสูงกว่าข้อหาทำร้ายร่างกายทั่วไป และสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว

ส่วนการตรวจปัสสาวะ ยืนยันว่าตรวจ อยู่ระหว่างรอผลตรวจอยู่ หากพบว่ามีสารเสพติดจะแจ้งข้อหาเพิ่มทันที เข้าใจความรู้สึกของผู้เสียหายและจะเร่งให้ดำเนินคดีให้เร็วที่สุด