เกิดกระแสดราม่าเมื่อทนายเดชา รับเป็นทนายความให้โรงเรียนสารสาสน์ ฯ ได้พาครูจุ๋มเข้าแจ้งความผู้ปกครองที่ทำร้ายร่างกายเมื่อวานนี้ ล่าสุดทนายเดชาชี้แจงผ่านไลฟ์ว่าเป็นการทำตามวิชาชีพ

หลังทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ พา นางสาว อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ ครูจุ๋ม เข้าแจ้งความผู้ปกครองที่ทำร้ายครูจุ๋ม เนื่องจากดูคลิป ลูกถูกทำร้ายเสร็จแล้วทนไม่ได้ ลุกไปถีบและตบครูจุ๋ม ซึ่งการที่ทนายเดชา รับเป็นทนายคดีนี้ทำให้เกิดกระแสพูดถึงในทางที่ไม่เห็นด้วย

ล่าสุด ทนายเดชา ไลฟ์สดชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อเช้าว่า ตนเองรับเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ์ เพราะถูกชักชวนจากผู้บริหารโรงเรียน และทำตามวิชาชีพ ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ต้องมีทนายความ

ส่วนที่พาครูจุ๋มไปแจ้งความก็เพราะผู้ปกครองไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น ไม่มีใครมีสิทธิ์ทำร้ายใคร ส่วนใครจะไม่พอใจตนจะเลิกติดตามก็แล้วแต่ เพราะตนทำตามวิชาชีพ ไปฟังเสียงทนายบางช่วง

ขณะที่ทนายเดชากำลังไลฟ์ มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตำหนิเรื่องที่รับว่าความ เข้าใจว่าเป็นวิชาชาชีพ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรับทำคดีนี้ มีหลาย บอกว่าจะเลิกติดตาม เพราะรู้สึกรับไม่ได้ที่ทนายที่นับถือยืนอยู่ข้างเดียวกับคนชั่ว หมดศรัทธา 

ส่วนความคืบหน้าคดี ล่าสุด มีผู้ปกครอง 33 คนเข้าแจ้งความว่าลูกถูกทำร้าย มีครูและครูพี่เลี้ยงก่อเหตุรวมทั้งสิ้น 13 คน

วันนี้มีครูมารับทราบข้อหาเพิ่มอีก 2 คน คือ "ครูพี่เลี้ยงแพรว" และ "ครูพี่เลี้ยงส้ม" ที่ยืนดู "ครูพี่เลี้ยงอิง" เอาถุงดำคลุมหัว "น้องวิน" นักเรียนเตรียมอนุบาล และมีคลิปกระชากบังคับน้องวินให้นั่งและใช้ขากดร่างน้องวินนอนราบกับพื้น

ส่วน "ครูพี่เลี้ยงอิง" ที่เป็นคนเอาถุงดำครอบหัวน้องวิน เลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนวันนี้ รวมถึง "ครูแพร" ซึ่งตั้งท้อง มีคลิปลากตัวนักเรียนชายชั้นอนุบาลให้นั่งเก้าอี้ (มีคลิป) ก็ขอเลื่อนพบตำรวจเช่นกัน

ส่วน "ครูพี่เลี้ยงกิ๊ฟ" และ"ครูพี่เลี้ยงมิลล์" ในชั้นอนุบาล ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหา

นอกจากนี้ ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกผู้อำนวยการโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ มารับทราบข้อหาตามพรบ.สภาครู ที่ปล่อยให้บุคคลที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเข้าไปแสดงตัวให้เข้าใจผิดว่าเป็นครู เข้าไปเปิดการเรียนการสอน

ส่วนที่ทนายเดชา พาครูพี่เลี้ยงจุ๋มเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ปกครองของน้องเสือที่ทำร้ายตนเอง จะเรียกมาสอบปากคำต่อไป

นอกจากนี้ได้ตรวจสอบพบว่า มี ครูต่างชาติชาวฟิลิปปินส์ ของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศไทรน้อยพิทยาคาร จำนวน 7 ราย ที่สอนหนังสือ ยังไม่มีการขออนุญาตทำงานให้ถูกต้อง ทั้งหมดรับสารภาพว่า เข้ามาทำงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ได้รับค่าจ้างเป็นเงินสด เดือนละ 17,000 บาท จึงตั้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน