อีกเป็นที่ถูกพูดถึงในคดี "บอส" คือสารโคเคนที่พบในร่างกาย และมีการบอกว่า เป็นส่วนผสมในยาชาที่ใช้รักษาฟัน ทันตแพทยสภา จี้ตำรวจเปิดตัวหมอฟันที่อ้าง ระบุ อย่าอ้างลอยๆ ทำวงการแพทย์เสื่อมเสีย

พันตำรวจโทพจนารถ พุ่มประกอบศรี นายกทันตแพทยสภา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวช่อง 8 ประเด็นที่ผลการตรวจร่างกายของ "บอส" พบสารเสพติด "โคเคน" ทำปฏิกิริยาร่วมกับแอลกอฮอล์ จนเกิดสารอีกชนิดในเลือด

ประเด็นนี้กลับไม่อยู่ในสำนวนคดี โดยตำรวจอ้างว่า ทันตแพทย์ที่รักษานาย "บอส" ให้การว่าวันที่ 29 สิงหาคม ก่อนเกิดเหตุ 5 วัน ใช้เป็นยาชาเพื่อรักษาเหงือกอักเสบให้กับ "บอส" เท่านั้น

ประเด็นนี้ ทางอุปนายกทันตแพทยสภาอยากทวงถามว่า หมอฟันคนนั้นคือใคร มีตัวตนจริงหรือไม่ ถ้าเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ มันก็จะทำให้วงการแพทย์เสื่อมเสียไปด้วย

สอดคล้องกับ ทันตแพทย์หญิงนันท์มนัส แย้มบุตร ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ปัจจุบันเป็นหมอศัลยแพทย์ใบหน้าและช่องปากด้วย ซึ่งต้องใช้ยาชาเป็นประจำ และหลายชนิด

ให้ข้อมูลกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ยาชาที่หมอฟันใช้กันทั่วไปขึ้นบัญชียาหลักแห่งชาติ เป็นคนละตระกูลกันกับโคเคน และสารตั้งต้นก็คนละชนิดกัน ยอมรับว่า โคเคนเคยใช้เป็นยาชา เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันไม่มีหมอฟันคนใดในโลกใช้อีก เพราะพบอาการแพ้ยาได้มาก และมีฤทธิ์ทำให้เสพติด

ส่วนยาชาที่ใช้ในปัจจุบัน จะเป็นยาชาตระกูล Amides ( อมิเดส ) ซึ่งปลอดภัยกว่า แม้คนไข้ได้รับยาชาไป และไปดื่มแอลกอฮอล์ ก็มีฤทธิ์ต่อการกดประสาทน้อย

ทันตแพทย์หญิงนันท์มนัส ยังบอกว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจเวลาไปหาหมอฟัน ไม่ต้องกลัวว่าจะมีหมอฟันคนไหน ฉีดยาเสพติดให้

จี้เปิดตัว "หมอฟัน" อ้างโคเคนรักษาฟัน "บอส"