เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสที่มาของซากเสือโคร่ง พบข้อมูลผู้ต้องหาไปดูสินค้าในป่าที่จังหวัดตาก เร่งแกะรอยจากพรานป่าในพื้นที่เป้าหมาย

วันที่ 12 ต.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 พิษณุโลก ตรวจยึดซากเสือโคร่งที่มีการชำแหละอวัยวะอย่างดีได้ที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารพิษณุโลก และจับกุมผู้ต้องหาชาวเวียดนามได้ 2 คน โดยผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ซื้อซากเสือมาในราคา 3 หมื่นบาทจากเพื่อนชาวเวียดนามและเตรียมขนกลับประเทศแต่ถูกจับกุมเสียก่อน

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลหาแหล่งที่มาของซากเสือว่าลักลอบล่าในพื้นที่ป่าเมืองไทยหรือนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยทีมข่าวลงพื้นที่และพบกับพยานซึ่งเป็นพนักงานขายตั๋วรถโดยสารของบริษัทรถแห่งหนึ่ง ซึ่งให้ข้อมูลว่าวันเกิดเหตุพบชายทั้ง 2 คน มานั่งรอรถภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตาก จากนั้นมีรถกระบะ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบทะเบียน ขับมาจอดบริเวณชานชาลาที่ 7 ก่อนที่จะวางสิ่งของไว้บนพื้น กระทั่งรถโดยสารสายแม่สอด - มุกดาหาร ที่ชายทั้ง 2 คน ซื้อตั๋วไว้มาจอด ทั้ง 2 คน ก็ขึ้นรถไปมารู้ข่าวอีกทีว่าถูกจับพร้อมซากเสือ

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการติดต่อซื้อซากเสือมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยผู้ต้องหาเดินทางมาที่ จ.ตากและเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง วันต่อมามีเพื่อนมารับและซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปที่จุดนัดพบในป่าที่อยู่ห่างจากที่พักประมาณ 30 นาที เพื่อดูซากเสือและตกลงซื้อขายกัน จากนั้น 2 วัน ก็มีการนัดส่งของที่สถานีขนส่งผู้โดยสารตาก

ซึ่งมีข้อมูลเข้ามาจากหลายทางด้วยว่าเสือโคร่งตัวนี้ เป็นเสือที่อยู่ในพื้นที่ผืนป่าขุนพะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก หรืออาจเป็นทายาทของ “ไอ้เป๋” เสือโคร่งในตำนาน ของป่าดอยหลวง ซึ่งเป็นป่าใหญ่รอยต่อ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองตาก, อ.บ้านตาก, อ.แม่สอด และ อ.แม่ระมาด

จากนี้ตำรวจจะได้แกะรอยหาที่มาของซากเสือโดยพุ่งเป้าไปที่พรานป่า ต.หนองบัวเหนือ อ.เมืองตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าและมีระยะเวลาการเดินทางประมาณ 30 นาที จากตัวเมืองตาก ตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา

ตร.พบเบาะแสซื้อขายซากเสือโคร่งในป่าที่จังหวัดตาก