ตำรวจจับ "แอนนา" หัวหน้าขบวนการอุ้มนักธุรกิจสาวชาวจีน ไปกักขังทำร้ายเรียกค่าไถ่เงินกว่า 10 ล้านบาท เจ้าตัวให้การปฏิเสธ อ้างถูกเหยื่อกลั่นแกล้ง พร้อมได้ร้องขอความเป็นธรรม ระบุว่า ถูกเหยื่อข่มขู่ฆ่ายกครัวก่อน จึงอุ้มไปพูดคุยเรื่องหนี้สิน

จับ"แอนนา"หัวหน้าขบวนการอุ้มนักธุรกิจชาวจีนรเรียกค่าไถ่10ล้านปฏิเสธอ้างเป็นเหยื่อถูกข่มขู่ฆ่ายกครัวก่อน

นางสาววรรษิการ เติมธนาภัทร หรือ แอนนา ถูกตำรวจคุมตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 หลังถูกจับขณะพยายามขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีตำรวจ ย่านถนนรามคำแหง โดย แอนนา ถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับพวกชาวจีนกลุ่มคนไทยอุ้มรวม 12 คน อุ้มตัว นางสาวจิน ไซ่ เชน นักธุรกิจสาวชาวจีน อย่างอุกอาจภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นพาไปกักขังทำร้ายร่างกาย เรียกค่าไถ่เงินกว่า 10 ล้านบาท โดยมี ดาบตำรวจ นิพนธ์ พุทธรักษา สังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 คอยอำนวยความสะดวก ตามประกบพาเหยื่อขึ้นตู้ ออกทางประตู 9 ซึ่ง "แอนนา" ถูกผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ให้การซัดทอดว่า เป็นหัวหน้าขบวนการ เป็นคนสังการให้พาเหยื่อไปกักขัง เป็นคนลงมือทำร้ายร่างกาย และโทรศัพท์ไปขู่สามีของเหยื่อ

ทั้งนี้ บรรยากาศระหว่าง "แอนนา" ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน เกิดความวุ่นวายเล็กน้อย เนื่องจาก "แอนนา" ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดคดีกับสื่อมวลชน จนตำรวจ ต้องเข้ามาพูดคุยเจรจา ชี้แจง จากนั้น "แอนนา" ได้เปิดเผยว่า ตนเองถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มของนางสาวจิน ไซ่ เชน (ผู้เสียหาย) พร้อมปฎิเสธไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้จับเหยื่อไปกักขัง และ ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หรือว่าจ้างการ์ดมาคอยเฝ้าผู้เสียหายแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังได้ขอความเป็นธรรม ระบุว่า ต้องการนำตัวนางสาวจิน ไซ่ เชน (ผู้เสียหาย) มาตกลงเรื่องหนี้สินทางธุรกิจ เพราะตนเองถูก สามีนางสาวจิน ไซ่ เชน (ผู้เสียหาย) ข่มขู่จะฆ่ายกครัว ส่วนที่หลบหนีเนื่องจากรอเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจร่วมกับชาวจีน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนโดยขอปฎิเสธข้อหาตามหมายจับ

วงจรปิดเผยภาพแก๊งอุ้มนักธุรกิจชาวจีนในสนามบินขึ้นรถตู้ไปกักขัง-ขู่เรียกค่าไถ่

ขณะที่ พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เดินทางมาเข้าร่วมสอบสวน เปิดเผยว่า การปฏิเสธก็ถือเป็นสิทธิ ส่วนคดีที่เกิดขึ้นยืนยันทำไปตามหลักฐาน สืบเนื่องจากหลังตำรวจได้รับแจ้งความจาก สามีของนางสาวจินไช่ ซึ่งเป็นชาวเกาหลี ว่าภรรยาถูกอุ้มตัว เรียกค่าไถ่ โอนเงินให้ไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท

ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพขณะกลุ่มคนร้าย เข้าประกบตัว นางสาวจินไช่ เชน (ผู้เสียหาย) บริเวณทางเลื่อนอัตโนมัติ โดยมีตำรวจ ช่วยจี้บังคับ ไปที่จุดรอสัมภาระผู้โดยสาร จากนั้นก็พาขึ้นรถตู้ ไปกักขังที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และห้องเช่าแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมให้การว่า ตลอดเวลา" แอนนา" ได้ทำร้ายทุบตีและจับศีรษะ นางสาวจินไช่ เชน (ผู้เสียหาย) กดน้ำรวมถึงใช้ปืนจ่อหัว 

จากนั้นบังคับให้สามีของนางสาวจินไช่ ชาวเกาหลี โอนเงินสดมาให้ แลกกับยอมปล่อยตัว เมื่อได้เงิน 10 ล้านก็ไม่ยอมปล่อยตัว แถมยังเรียกเงินค่าไถ่เพิ่มอีก 5 ล้านบาท และเมื่อถูกตำรวจกดดันตามจับกุม กลุ่มคนร้ายได้นำตัว นางสาวจินไช่ เชน (ผู้เสียหาย) ไปทิ้งไว้ริมถนน สายบางนา – ตราด เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมาในสภาพอิดโรย จากการสอบสวนยังพบอีกว่า "แอนนา" เป็นผู้จ้าง ส่งรถตู้ ไปรับตัวเหยื่อ และน่าจะมีรถใช้ 3 คัน สวมป้ายทะเบียนทั้งหมดเพื่อคอยหลบหลีกตำรวจ

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ เชื่อว่าทำพฤติกรรมอุ้มรีดมาหลายครั้ง ส่วนที่เลือกเหยื่อรายนี้ เนื่องจากเคยทำธุรกิจร่วมกัน โดย"แอนนา" เป็นคนสั่งการและเลือกเหยื่อเอง เนื่องจากรู้จักกับนักธุรกิจชาวจีนหลายคน

ออกหมายจับเพิ่มอีก6ขบวนการอุ้มนักธุรกิจจีนจับแล้ว4ยังหนี2

ขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับ นายสำรวย ทิมแก้ว และ นายนิพนธ์ วีระศร ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีมาสอบสวน โดยทั้ง 2 คน ทำหน้าที่เฝ้าเหยื่อ ให้การซัดทอดว่า แอนนา เป็นผู้สั่งการ รับงานงานมาจากชาวจีน

พร้อมกันนี้ ตำรวจได้นำหลักฐานยื่นศาลจังหวัด สมุทรปราการ ออกหมายจับผู้ต้องหา 6 คน ประกอบด้วย นางสาวอุทัย อินทร์ตรี ทำหน้าที่จัดหาที่พักให้กับผู้ต้องหาและสถานที่กักขังเหยื่อ นายประสิทธิ์ ดิษฐจินดา คนขับรถให้กับ "แอนนา" นายสมบัติ คาเพ็ชร คนขับรถตู้ทำหน้าที่ซื้อข้าวและน้ำส่งให้ผู้ต้องหา  นายณัฐพล แก้วไซ รวมทั้ง นายสำรวย และ นายนิพนธ์ ที่ถูกจับกุม ในข้อหา ร่วมกัน หน่วงเหนี่ยวกักขัง ให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ และ ในช่วงเย็นได้จับกุม นายสมบัติ นายประสิทธิ์ เบื้องต้นขณะนี้ยังเหลืออีก 2 คน ที่ยังหลบหนี