ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เผยผู้เชี่ยวชาญยืนยันชัดเจนแล้วว่า นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ที่หาดทรายน้อย ถูกฉลามหัวบาตรที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทำร้ายจริง เตรียมติดตั้งทุนตาข่ายป้องกันฉลาม พร้อมประกาศปิดหาดทรายน้อย ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ 20 วัน

นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่วัดถ้ำเขาเต่า ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าอาวาสวัดเขาเต่า ถ่ายคลิปวีดีโอฉลามว่ายวนไปมาบริเวณชายฝั่ง และใกล้โขดหินเขาเต่า เพื่อตรวจดูสภาพพื้นที่ และตรวจดูสภาพหาดทรายน้อย ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ถูกสัตว์บางอย่างกัด จนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์

นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญออกมายืนยันชัดเจนแล้ว ว่า นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ถูกฉลามหัวบาตรที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทำร้าย ซึ่งจากการร่องรอยบาดแผล ลักษณะของแนวฟัน พบว่า เป็นลูกฉลาม อายุไม่เกิน 1 ปี ความยาวไม่เกิน 1 เมตร

เบื้องต้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างร่วมบูรณาการวางแนวทางป้องกัน พร้อมทั้งจัดเรือ และโดรน มาสำรวจสภาพพื้นที่ และพูดคุยเพื่อหาข้อมูล เพราะทะเลตรงนี้เป็นเขตอนุรักษ์ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งเตือนไปยังโรงแรมต่างๆ ให้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยว ระมัดระวังในการเล่นน้ำทะเล เช่น ไม่เล่นน้ำบริเวณที่มีน้ำขุ่น น้ำลึก และไม่แต่งกายด้วยสีฉูดฉาดลงเล่นน้ำทะเล

ด้านนายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า การพบเห็นฉลามบริเวณนี้ ถือเป็นแนวโน้มที่ดี ที่ชี้ให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ ที่มีสัตว์น้ำวัยอ่อนอยู่จำนวนมาก จากการตรวจสอบข้อมูลฉลามหัวบาตร จะออกหากินในช่วงที่อุณหภูมิเย็นลง หรือประมาณ 16.00 น.เป็นต้นไป

โดยยอมรับว่า บาดแผลของนักท่องเที่ยว เกิดจากฉลามกัดจริง แต่ลักษณะการเข้าจู่โจม ไม่ใช่การทำร้าย แต่อาจเป็นเพราะฉลามตกใจนักท่องเที่ยว หรือคิดว่า ขานักท่องเที่ยวเป็นอาหาร จึงเข้างับเพื่อทดสอบเหยื่อ

อีกทั้งลักษณะบาดแผล เป็นการกัดแล้วปล่อย ไม่ใช่กัดแล้วสะบัดเหยื่อ เพื่อล่าเป็นอาหาร ซึ่งประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่ต้องวิตกกังวล เพราะกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันวางแนวทางบริหารจัดการในการอยู่ร่วมกัน ให้นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้ และสัตว์ทะเลก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

นายโสภณ กล่าวว่า ขณะนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เตรียมวางทุ่นตาข่ายเนื้ออวนป้องกันฉลาม ปิดหน้าอ่าวหาดทรายน้อยระยะประมาณ 300 เมตร ซึ่งทุ่นตาข่ายนี้ มีใช้กันในต่างประเทศ ซึ่งจะใช้ที่หัวหินเป็นแห่งแรก โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่มีการติดตั้งทุ่นตาข่าย จะต้องปิดการท่องเที่ยวหาดทรายน้อยไปก่อน อย่างน้อย 20 วัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย

ส่วนประชาชน ในพื้นที่อำเภอหัวหินและใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวว่า มีฉลามหัวบาตรว่ายเข้ามาหากินในบริเวณท้องทะเล หน้าวัดถ้ำเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่างพาลูกหลาน ไปรอชมฉลามหัวบาตรกัน ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงช่วงค่ำ หลังจากมีการเผยแพร่คลิปฉลามที่ว่ายเข้ามาหากินบริเวณหน้าทะเลวัดถ้ำเขาเต่าในโลกโซเชียล

ซึ่งทุกคนก็ไม่ผิดหวัง และต่างตื่นเต้น เมื่อพบฉลามหัวบาตร ว่ายเข้ามาให้ได้เห็นกันในระยะใกล้ แม้จะเห็นไม่ค่อยชัดเจนก็ตาม เพราะน้ำทะเลค่อนข้างขุ่น ซึ่งการพบเห็นฉลาม บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลแถบนี้

ติดตั้งทุ่นตาข่ายป้องกันฉลาม  ประกาศปิดหาดทรายน้อยห้ามเล่นน้ำ 20 วัน