กรมประมงประกาศกฎหมายใหม่ “ปิดอ่าวไทย ปี 2561” ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ จังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และ สุราษฎร์ธานี ชาวประมง พร้อมรับนโยบาย เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำอ่าวไทย

ที่ท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลาปากน้ำชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร นาย นิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูปลาที่มีไข่วางไข่ และ เลี้ยงตัวในวัยอ่อน ฝั่งทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2561 ในเขตพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 ถึง วันที่15 พฤษภาคม 2561 นี้

โดยมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่ กำหนดพื้นที่ ห้วงเวลา และ เครื่องมือชัดเจน มีการกำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ที่อาจส่งผลต่อการแพร่พันธุ์ของพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ และ สัตว์น้ำวัยอ่อน ในท้องทะเลอ่าวไทย เพื่อรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความยั่งยืนโดยเฉพาะ “ปลาทู” สัตว์ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ

ซึ่งมี นาย ถาวร จิระโสภณรักษ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการประมง นาย เลิศพรไชย ไชยฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และ ประชาชนชาวจังหวัดชุมพร ร่วมเป็นสักขีพยาน และ ปล่อยพันธุ์กุ้งแชบ๊วย 3 ล้านตัว

ขณะที่ กรมประมง ได้ขอให้พี่น้องชาวประมง ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และ ระมัดระวังการทำประมง โดยให้ทำประมงเฉพาะเครื่องมือที่ประกาศให้เท่านั้น เครื่องมืออื่นๆ ห้ามทำโดยเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะเป็นความผิดตามมาตรา 70 แห่งประราชกำหนดการประมง หรือ ปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 30 ล้าน บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือประมง หรือ ทั้งจำนวนของมูลค่าสัตว์น้ำ ที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใด จะสูงกว่าและต้องได้รับโทษทางปกครองอีกด้วย

ทั้งนี้ ยังได้ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พร้อมปล่อยขบวนเรือ เจ้าหน้าที่ เพื่อออกปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด ในช่วงการประกาศใช้มาตรการดังกล่าว