ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ ยังคงทยอยเดินทางมารอแถวเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กันอย่างเนื่องแน่นตลอด 24 ชั่วโมง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายตลอดทั้งวัน ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

บรรยากาศตลอดทั้งวันวานนี้ (3 ต.ค. ) ที่บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง มีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ ยังคงทยอยเดินทางมารอแถวเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง กันอย่างเนื่องแน่น ซึ่งนับเป็นวันที่ 335 ของการเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพได้ตลอด 24 ชั่วโมง จนถึงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 5 ตุลาคม จึงทำให้มีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายตลอดทั้งวัน แต่ประชาชนก็ยังคงเฝ้ารอเพื่อให้มีโอกาสเข้ากราบลาสักครั้งในชีวิต ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

โดยมี ตำรวจ ทหาร เทศกิจ และ อาสาสมัคร คอยอำนวยความสะดวก ทั้งแจกอาหาร น้ำดื่ม ผ้าเย็น และร่มกันฝน ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยดูแลความเรียบร้อยของแถวด้วย เพื่อเร่งระบายปล่อยแถวให้สั้นที่สุด พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ เพื่อให้สะดวกรวดเร็ว และไม่มีคนตกค้าง เนื่องจากเกรงว่าช่วงเวลาที่เหลืออีกเพียง 2 วันสุดท้าย จะมีประชาชนเดินทางมาจำนวนมากขึ้น

ซึ่งจุดคัดกรองที่เปิดให้ประชาชนต่อแถวเพื่อกราบถวายบังคมพระบรมศพมีอยู่ 2 จุด คือ บริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ และ วงเวียนรักษาดินแดน โดยทั้งแถวจะมาบรรจบกันที่หน้าศาลหลักเมือง ก่อนเข้าสู่พระบรมมหาราชวังที่ประตูวิเศษไชยศรี

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จนถึงวันที่ 5 ตุลาคมนี้ พร้อมขอความร่วมมือแต่งกายชุดสีดำสุภาพเรียบร้อย

 

ยอดกราบพระบรมศพ 2 ต.ค.60 รวม 78,948 คน

ขณะที่ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ เมื่อเวลา 00.01- 24.00 น. ของวันที่ 2 ตุลาคม 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 78,948 คน รวม 334 วัน มีจำนวน 12,443,890 คน

และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล จำนวน 5,465,677.50 บาท รวม 334 วัน เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 870,377,871.51 บาท

 

รัฐบาลเข้มรปภ.24ชั่วโมงดูแลปชช.ช่วงงานพระราชพิธีฯ

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเตรียมการรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า รัฐบาลพร้อมจัดคนเข้าไปดูแลทั้งหมด รวมถึงการซ้อมในพระราชพิธี เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย และดูแลสถานที่เพื่อให้มีความพร้อม

ซึ่งพระราชพิธีนี้ ถือว่า มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคนไทยและคนทั่วโลก ดังนั้นประชาชนต้องร่วมมือกันสร้างความปลอดภัย โดยผู้ที่จะเข้ามาในบริเวณพื้นที่ท้องสนามหลวงจะต้องมีบัตร ส่วนผู้ที่ไม่มีบัตรจะมีสถานที่เตรียมไว้ให้ พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่ ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

 

กทม.เร่งจัดหา "ที่พัก-ห้องสุขา" ดูแลประชาชนร่วมพระราชพิธีฯ

ด้าน พลตำรวจโทชินทัต มีศุข รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมหาราชวัง (กอร.รส.) เรื่อง การเตรียมความพร้อมในการอำนวยความประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางมายังท้องสนามหลวงอย่างล้นหลาม ชณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายความมั่นคง เพื่อกำหนดบริเวณการเข้าพื้นที่ของประชาชนในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ว่าจุดใดหรือบริเวณใดของพื้นที่สนามหลวงที่ประชาชนจะเข้ามาร่วมในการพิธีได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าร่วมพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพได้อย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ กทม.ยังได้จัดสร้างพระเมรุมาศจำลอง 9 แห่ง ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ 42 แห่ง และสถานที่ถวายดอกไม้จันทน์ตามพื้นที่ทั้ง 50 เขต อีก 62 แห่ง รวมทั้งสิ้น 113 แห่งทั่วกรุงเทพฯ

ส่วนการอำนวยความสะดวกด้านที่พักให้กับประชาชน กทม.ได้จัดศูนย์เยาวชนกทม.ไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง ไว้รองรับประชาชน และอยู่ระหว่างจัดหาที่พักตามวัดและพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมทั้งได้รับการประสานงานจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งอยู่ระหว่างจัดหาที่พักให้แก่ประชาชนเช่นกัน

ส่วนของห้องสุขา กทม.ได้จัดเตรียมรถสุขาไว้ทุกจุดบริเวณสถานที่ถวายดอกไม้จันทน์ หรือจุดพักคอยต่างๆ รวมถึงประสานงานกับภาคเอกชนเพื่อจัดเตรียมรถสุขาเพิ่มเติมด้วย

 

รฟท.เพิ่มขบวนรถไฟฟรี ให้บริการ ปชช.ร่วมงานพระราชพิธีฯ

ขณะที่ นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เตรียมความพร้อมในการรองรับการเดินทางของประชาชนที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัด และปริมณฑล เพื่อร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ให้ได้รับความสะดวก เพียงพอ และปลอดภัย โดยการเพิ่มขบวนรถเร็วพิเศษช่วยการโดยสาร ชั้น 3 จากต่างจังหวัดและขบวนรถดีเซลรางจากเขตปริมณฑล (เป็นขบวนรถให้บริการฟรี) รวมทั้งการพ่วงตู้โดยสารเพิ่มไปกับขบวนรถด่วนและรถเร็วที่มีเดินประจำ ในระหว่างวันที่ 23-31 ตุลาคม 2560 รวม 9 วัน

การเดินทางจากต่างจังหวัด – กรุงเทพฯ ได้เพิ่มขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร ชั้น 3 (ขบวนรถให้บริการฟรี) 22 ขบวนต่อวัน การเดินทางจากปริมณฑล – กรุงเทพฯ ได้เพิ่มขบวนรถดีเซลราง (ขบวนรถให้บริการฟรี) รับ-ส่ง 18 ขบวนต่อวัน จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้วันละ 117,638 คน

พร้อมจัดให้มีรถ ชัตเตอร์บัส (Shuttle Bus) เพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง จากสถานีกรุงเทพ ชุมทางบางซื่อ ที่หยุดรถยมราช วงเวียนใหญ่ ศาลายา โดยมีรถ Shuttle Bus หมุนเวียนรับผู้โดยสารตั้งแต่เวลา 05.00 – 18.00 น. ยกเว้นสถานีกรุงเทพ มีรถ ชัตเตอร์บัส ให้บริการถึงเวลา 21.00 น. ส่วนสถานีธนบุรี สามารถเชื่อมต่อโดยเรือข้ามฟาก ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.

สำหรับประชาชนที่จะเดินทางไปกับขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร หรือขบวนรถไฟฟรี สามารถนำบัตรประชาชนติดต่อขอรับตั๋วโดยสารในวันเดินทาง ได้ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ

กราบถวายบังคมพระบรมศพวันที่ 335