ประชาชนใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก ตลอด 24 ชั่วโมง

ตามที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน จนถึงเวลาเที่ยงคืนของคืน วันที่ 5 ตุลาคม

โดยตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน วานนี้ (1ต.ค.) ประชาชนจำนวนมาก ต่างพร้อมใจเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศไม่ขาดสายในทุกช่วงเวลา เข้าแถวเพื่อรอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพกันอย่างเนืองแน่น ประกอบกับเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้มีประชาชนเดินทางมามากเป็นพิเศษ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนสลับฝนตกตลอดทั้งวัน แต่ประชาชนยังคงต่อแถวโดยไม่ย่อท้อ

โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ทหาร ตำรวจ เทศกิจ จิตอาสา เจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง คอยดูแลอำนวยความสะดวก จัดแถวจัดระเบียบเพื่อความสะดวกเรียบร้อย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เปิดจุดคัดกรองเพียง 2 จุด ได้แก่ จุดคัดกรองโรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีประชาชนเข้าแถวยาวไปตลอดเส้นถนนราชดำเนินในล้นไปถนนราชดำเนินกลาง ขณะที่บางช่วงท้ายคิวอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนจุดคัดกรอง ด้านวงเวียนหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนมีแถวประชาชนต่อคิวยาวตลอดเส้นถนนสนามไชย บางช่วงล้นออกไปยังถนนเจริญกรุง หน้าสวนสราญรมย์ ตลอดเส้นทางรอคอยมีจิตอาสาคอยบริการน้ำดื่ม แจกจ่ายอาหารให้ประชาชน เก็บขยะ พร้อมรถสุขาเคลื่อนที่คอยบริการ

ส่วนที่เต็นท์อาหารพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณประตูวิมานเทเวศร์ ในพระบรมมหาราชวัง ประตูทางออก หลังเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ การนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายประชาชนระหว่างเวลา 07.00-18.00 น.

 

ยอดเข้ากราบพระบรมศพ 30 ก.ย.60 รวม 64,700 คน

ขณะที่ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2560 ตั้งแต่เวลา 00.01 น. จนถึงเวลา 24.00 น. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 64,700 คน รวม 332 วัน มี 11,564,102 คน

และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,048,937.25 บาท รวม 332 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 860,329,098.51 บาท

 

ยอดสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจ 4,006,801 คน งานบริการสูงสุดเป็นอันดับ 1

ทั้งนี้ ภายหลังจากปิดรับสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สำนักพระราชวังได้แจ้งยอดผู้เข้าสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน มีประชาชนทั้งในและต่างประเทศร่วมสมัครแล้ว 4,006,801 คน โดยประชาชนลงสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ประเภทงานบริการประชาชนสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,771,174 คน อันดับ 2 งานดอกไม้จันทน์ 870,103 คน อันดับ 3 งานแพทย์ 376,816 คน อันดับ 4 งานรักษาความปลอดภัย 324,907 คน อันดับ 5 งานประชาสัมพันธ์ 254,908 คน อันดับ 6 งานโยธา 204,350 คน อันดับ 7 งานจราจร 125,225 คน และอันดับ 8 งานขนส่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน 79,345 คน

 

ชาวลำพูนเดินเท้าไป กทม.เพื่อถวายอาลัย ร.9

ส่วนที่ต่างจังหวัดยังคงมีประชาชนเดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนายชวาลย์ ทิศสว่าง อายุ 51 ปี ชาวตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ได้เดินเท้า จากลานอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ตั้งแต่ช่วงสายของวานนี้ (1ต.ค.) เพื่อเดินถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยกำหนดเป้าหมายที่พระบรมมหาราชวัง รวมระยะทาง 670 กิโลเมต รคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 16 วัน นายชัชวาลย์ กล่าวว่า การเดินเท้าไปยังพระบรมหาราชวัง ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี และแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่ตนเองเคยเดินไปครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ครั้งนี้ตั้งเป้าการเดินทางไว้คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 16 วัน เพราะต้องกลับมาเป็นจิตอาสาในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพที่จังหวัดบ้านเกิด

 

ชายวัย 71 ปี สะสมภาพพระบรมฉายาลักษณ์และธนบัตรติดตามผนังบ้าน นานกว่า 30 ปี

ส่วนที่จังหวัดสงขลา นายปลื้ม จันทองพูน อายุ 71 ปี ชาวบ้านโคกพันตัน ตำบลทุ่งหมอ อำเภอสะเดา เก็บสะสมพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช และธนบัตร นำไปติดตั้งไว้ตามผนังบ้านทุกด้านและตามโรงเรือนบริเวณบ้าน รวม 3 หลัง และได้นำธนบัตรชนิดต่างๆ ทั้งเก่าและใหม่ ใส่แก้ววางไว้หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นจำนวนมากอีกด้วย

ลุงปลื้ม กล่าวว่า ได้เริ่มสะสมพระบรมฉายาลักษณ์ โดยซื้อมาบางส่วน และอีกส่วนหนึ่งนำมาจากปฏิทินเก่าๆ และเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวนำมามอบให้ โดยนำมาใส่กรอบไม้ด้วยตนเอง ส่วนที่นำธนบัตรมาตั้งคู่ เนื่องธนบัตรทุกฉบับ มีพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มีคุณค่าทางด้านจิตใจ จึงเก็บสะสมไว้

และในอนาคตก็จะยังสะสม พระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวทุกๆพระองค์ต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่ใช้ยึดเหนี่ยวด้านจิตใจมาตลอดชีวิต ทุกวันนี้ ใครที่ผ่านไปผ่านมา ต่างอดไม่ได้ ที่ต้องแวะชมพระบรมฉายาลักษณ์ที่บ้านของตนเอง ด้วยความชื่นชม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองและครอบครัวปลาบปลื้มและมีความสุขมากที่สุด

กราบถวายบังคมพระบรมศพวันที่ 333