ป้าชาวบุรีรัมย์ เกลียดเขมรเข้าไส้ ยอมอดกินมะม่วง ใช้มีดฟันทิ้งต้นมะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้น ที่เคยซื้อมาปลูกได้ 10 ปี เหตุเป็นสายพันธุ์เขมร

วันที่ 24 ธ.ค. 2568 จากกรณีที่ผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพต้นมะม่วงล้ม พร้อมเขียนข้อความว่า "น้ำตาจะไหล หมดกัน ต้นมะม่วงแก้วขมิ้น ของฉัน หมดคำสิเว่ากับยายคนหนึ่งที่อยู่บ้านข้างๆ...ตัดมันทำไม ถามผู้ต้องหาว่า มาตัดต้นมะม่วงหนูทำไม ยายคนนั้นบอกว่า ซังมัน มันเป็นมะม่วงเขมร วาซั่น ป้านุ่ม โอ้ยยยย น้อออ หัวจิปวด กว่าจะปลูกได้ต้นขนาดนี้ เก็บกินทุกปี มะม่วงมันผิดอิหยัง บ่แมนป้านุ่มสิ 0 แล้วบ้อหึ ส่งกลับศูนย์อพยพคืนดีบ่หึ ยายอันนี้แหม ยายคำปลิว #เจ้าของบ้านมัวแต่ไปทำกับข้าวส่งทหารกลับบ้านค่ำทุกวัน"

จากการตรวจสอบพบว่า คนโพสต์เป็นลูกสาวของนางคำปลิว อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยนางคำปลิว เป็นคนตัดต้นมะม่วง ได้ระบายความในใจว่า ตนซื้อพันธุ์มะม่วงแก้วขมิ้นมาจากตลาดนัด นำมาปลูกเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา มะม่วงต้นนี้ลูกดก อร่อย

หลังจากมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา และรับทราบข้อมูลจากสื่อมาเป็นระยะ ยอมรับว่าเวลานี้เกลียดเขมรมาก โดยเฉพาะลูกชายของตนซึ่งเป็นทหารทั้ง 2 คนมาเล่าให้ฟัง ตนยิ่งเกลียดพฤติกรรมของเขมร แต่ไม่รู้จะทำอะไรได้ เพราะตนอยู่แนวหลังได้แค่ให้กำลังใจให้ทหารรบชนะให้ได้

พอมาเดินมาสวนหลังบ้านเห็นต้นมะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้น ซึ่งมีถิ่นกำเนิดมาจากเขมร อารมณ์มันขึ้น ไปคว้ามีดในห้องครัวลงมือฟันด้วยตนเองจนต้นขาดและล้มลง จนกระทั่งลูกสาวมาถาม จึงอธิบายความในใจให้ฟังดังกล่าว

นางคำปลิว บอกด้วยว่า เขมรทำให้คนไทยต้องเดือดร้อน ทหารต้องตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ไทยไม่เคยเริ่มก่อน จึงอยากฝากถึงทหารหรือรัฐบาล จัดการเขมรให้จนสิ้นสภาพ ไม่ให้มันย้อนมารังแกคนไทยแบบนี้อีก