เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยไทย-กัมพูชา เดินหน้าปักหมุดชั่วคราวบนเส้นอ้างสิทธิ์หลักเขตที่ 42-43 "บ้านหนองหญ้าแก้ว" ได้แล้ว 26 หมุด จาก 277 หมุด คิดเป็น 9.38 % ขณะที่ชาวบ้านบ่น ทหารไม่แจ้งความคืบหน้า และยังห้ามไม่ให้เข้าไปสังเกตการณ์ดูการทำงานอีกต่างหาก ส่วนการเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่ "บ้านหนองจาน" สามารถดำเนินการได้ 14.13 % และการเข้ารังวัดออกโฉนด นำร่องแปลงเป้าหมายในพื้นที่บ้านหนองจาน เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถดำเนินการได้
วันที่ 1 ธ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมชุดสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ระยะที่ 1 ระหว่างหลักเขตที่ 42-43 บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการปักหมุดชั่วคราวบนเส้นตรง ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 43 ของแต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ ทุก ๆ ระยะ 50 เมตร ซึ่งโดยเริ่มตั้งแต่หลักเขตแดนที่ 42 เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ล่าสุดจนถึงวันนี้ (1 ธ.ค.) ฝ่ายไทยสามารถปักหมุดชั่วคราวบนเส้นที่ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ได้แล้ว จำนวน 13 หมุด จากทั้งหมด 138 หมุด และเส้นที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างสิทธิ์ สามารถปักหมุดชั่วคราวได้แล้ว จำนวน 13 หมุดเช่นกัน จากทั้งหมด 139 หมุด รวมทั้งหมดสามารถปักหมุดชั่วคราวได้แล้ว จำนวน 26 หมุด เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา จากทั้งหมด 277 หมุด คิดเป็น 9.38 % โดยวานนี้ 30 พ.ย. ชุดสำรวจร่วมทั้งสองฝ่าย ได้หยุดปฎิบัติการ 1 วัน เพื่อการบำรุงรักษาเครื่องมือสำรวจและยานพาหนะและจะเริ่มปฏิบัติปักหมุดชั่วคราวร่วมกันต่อเนื่อง ในวันนี้ 1 ธ.ค. ต่อเนื่องจากจุดที่ดำเนินการไว้ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านที่มีที่ดินในบริเวณแนวชายแดน ทั้งบ้านหนองหญ้าแก้วและบ้านหนองจาน ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ทราบความคืบหน้าของการสำรวจปักหมุดเลย ทางฝ่ายทหารในพื้นที่ไม่เคยแจ้งให้ชาวบ้านได้รับรู้ นอกจากนั้นชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ยังไม่ทราบจุดประสงค์และวิธีการดำเนินการ เพราะชาวบ้านบางรายเมื่อพบเห็นจุดหรือหลักหมุดในที่ดินของตน ต่างพากันตกใจว่าจะต้องเสียพื้นที่ให้เขมร

นอกจากนั้น ชาวบ้านยังสงสัยอีกว่า เหตุใดจึงไม่อนุญาตให้ตัวแทนชาวบ้าน จำนวน 3 คน เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ระหว่างการทำงานทั้ง ๆ ที่เป็นข้อตกลงที่ทำกันไว้แล้ว ก่อนที่เริ่มทำงาน

ผู้สื่อข่าวยังได้รายงานผลการปฎิบ้ติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน จนถึงปัจจุบัน สามารถเก็บกู้ได้พื้นที่ปลอดภัย จำนวนทั้งสิ้น 14,100 ตารางเมตร คิดเป็น 14.13 % คงเหลือพื้นที่ ที่ได้รับการยืนยันว่า มีทุ่นระเบิด จำนวน 85,700 ตารางเมตร คิดเป็น 85.87 % ซึ่งระหว่างการปฎิบัติการที่ผ่านมา ได้พบทุ่นระเบิดและสรรพาวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิด จำนวน 17 รายการ เป็นทุ่นระเบิดสังการบุคคล PMN จำนวน 16 ทุ่น และ UXO จำนวน 1 นัด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเข้ารังวัดออกโฉนด นำร่องแปลงเป้าหมายในพื้นที่บ้านหนองจาน เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านได้เดินทางไปยังพื้นที่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน สาขาอรัญประเทศ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งทหารอ้างว่า ไม่ปลอดภัย สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านส่วนหนึ่งด้วย

















