"กัน จอมพลัง" น้ำตานองขอพักอยู่กับลูก หลังสังคมจี้ถามประเด็นดราม่า พร้อมยื่นร้อง มท. ตรวจสอบมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้

วันที่ 24 ต.ค. เวลา 14.40 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" ได้เดินทางมาที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อยื่นหนังสือร้องให้ตรวจสอบมูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้ โดย กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็รู้สึกโล่งใจ และสบายใจขึ้น เพราะแฟนคลับเข้าใจ เพราะทุกประเด็นสามารถชี้แจงด้วยเอกสารได้ ไม่ใช่เพียงแค่การพูดจากปากเท่านั้น ขณะนี้ก็การแสดงเอกสารเป็นที่เรียบร้อย เพื่อความชัดเจน และความโปร่งใส เพื่อแสดงความถูกต้อง และความชัดเจน

วันนี้จึงเดินทางมายื่นหนังสือคำร้องตรวจสอบมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ ที่ตัวเองเป็นคนก่อตั้ง เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับมูลนิธิอื่น โดยตนเชื่อว่าขั้นตอนการตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทยจะมีระบบ มีกลไกรูปแบบการตรวจสอบที่เป็นของกระทรวงฯอยู่แล้ว ซึ่งเรายินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยสามารถชี้อยู่ ชี้ไปให้กับมูลนิธิได้เลย

และนอกจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว ถ้าหากทาง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. หรือหน่วยงานอื่นๆ ต้องการข้อมูลอะไรหรืออยากจะตรวจสอบตนเองก็ยินดี และพร้อมให้ตรวจสอบ

กัน จอมพลัง ระบุว่า ถ้าเราไม่บริสุทธิ์ใจเราไม่มาตรงนี้ นอกจาก กัน จอมพลัง ระบุว่า ทุกคนที่โอนเงินมูลนิธิมีตัวตนหมด และถ้าหากเป็นการฟอกเงินหรือมูลนิธิม้า จะมายืนตรงนี้ให้ตรวจสอบทำไม

เมื่อถามว่ารู้สึกว่าตัวเองถูกลอยแพหรือไม่ ที่เมื่อเช้า ร.อ.ธรรมนัส ไม่รู้เรื่อง และบอกว่า “กัน จอมพลัง เหมือนมือใหม่หัดขับ” กัน จอมพลัง การยอมรับว่าร.อ.ธรรมนัสก็พูดถูก เพราะเราทุกคนใหม่หมด เรามาด้วยความที่อยากให้ทุกอย่างรวดเร็ว ยอมรับทุกอย่างเป็นเรื่องจริงไม่โทษใคร เรื่องนี้ทำให้ส่งผลกระทบกับหลายคน ทั้งร.อ. ธรรมนัสที่เอาชื่อมา ในฐานะลูกผู้ชายตนเองขอยอมรับ และขอโทษ ซึ่งการจัดตั้งมูลนิธิขึ้นมา ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ปรึกษากับ ร.อ.ธรรมนัส แต่ตอนปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า ซึ่งต้องแยกว่าตัวมูลนิธิกับร.อ.ธรรมนัสไม่ใช่คนเดียวกัน พร้อมกล่าวย้ำว่า “ต้องขอโทษด้วยครับ”

เมื่อถามว่าสนิทกับ ร.อ.ธรรมนัส ทำไมถึงไม่พูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส เรื่องนี้ กัน จอมพลัง ระบุว่าเพราะตน และอยากได้ความรวดเร็ว ส่วนที่ร.อ.ธรรมนัส ตำหนิกัน จอมพลังว่าทำอะไรไม่ค่อยคิด กัน จอมพลัง ก็ยอมรับว่าบางครั้งก็ไม่ได้คิดเยอะก็เป็นคนคนนึงที่มีความผิดพลาดได้

ส่วนที่มีคนกล่าวหาว่ามูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้เป็นมูนิธิม้า กัน จอมพลัง เชื่อว่าทุกคนที่โอนเงินบริจาคเข้ามา มีเจตนาให้มูลนิธินำเงินไปใช้เพื่อโครงการต่างๆ เพราะว่าใครเป็นประธาน ซึ่งมูลนิธิก็ทำตามวัตถุประสงค์ทุกคนจะเห็นได้จากการที่ตัวเองลงพื้นที่ช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด รวมถึงเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินมาใช้ส่วนตัว ไม่ได้เป็นนอมินีใคร ถ้าหากใครที่เคยลงหน้างานกับตนก็จะทราบดีว่าว่าตัวเองทำงานจริงจังทุ่มเทขนาดไหน เสี่ยงขนาดไหนก็ไป

ส่วนเรื่องรถหรู ที่มีคนตั้งข้อสังเกตนั้น กัน จอมพลัง ระบุว่า วันนี้ตัวเองทำอะไรก็ถูกจับจ้อง ซึ่งเรื่องรถก็ไม่มีอะไร ตนเองซื้อมา แล้วรถไม่สามารถโอนได้จึงคืนเขาไป ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้ใช้รถคันนั้นมาเป็นปีๆแล้ว พร้อมบอกว่ารถคันหรูขับมาตั้งแต่ขายบะหมี่แล้ว วันนี้จะกลับไปประชุมต่อที่โกดังของมูลนิธิ

ในส่วนที่มีคนกล่าวหาว่ามูลนิธิมีการถอนเงินสดออกมาจากธนาคาร ก็อยากให้มาแสดงหลักฐาน เพราะจากการตรวจสอบสเตทเม้นท์ ไม่พบการกดเงินสดออกมา

ส่วนบทบาทการลงพื้นที่หลังจากนี้จากการพูดคุยหลังจากนี้ตัวเองจะขอใช้เวลาอยู่กับลูก แต่หากวันใดสังคมเรียกร้องตัวเองก็จะกลับมา ส่วนจะหายไปนานหรือไม่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะสิ่งที่ขาดมาโดยตลอด ตนเองช่วยเหลือสังคมจนไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว และลูกสาว ซึ่งถ้าทุกคนเห็นจะรู้ว่าน้องหมี่เกี๊ยวลูกสาวหน้าตาเหมือนตัวเองมาก แต่ลูกกลับบอกว่าตัวเองหน้าตาเหมือนแม่ เพราะไม่ค่อยได้เจอตัวเองเนื่องจากต้องไปช่วยเหลือสังคม อย่างไรก็ตามมูลนิธิก็จะขับเคลื่อนต่อไป

กัน จอมพลัง พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้สึกเสียดายที่เคยช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด แต่ในวันนี้จะต้องยุติบทบาท เพราะตนได้ช่วยชีวิตคนหลายคนไปแล้วตรงนั้นถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้ว ตนภูมิใจและยินดีมากๆที่ได้ลงมือทำ

"ผมไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน ผมรู้ดีว่าทำอะไรอยู่ และทำอะไรลงไปแค่ทุกคนเห็นเอกสารเมื่อเช้าที่เปิดให้ดูก็คือเรื่องจริง ถ้าเราไม่ชัวร์เราต้องเละ แต่หากชัวร์ผมจะผ่านมันไปได้อย่างสง่างาม" กันจอมพลัง กล่าว

ขณะที่กัน จอมพลัง ให้สัมภาษณ์เสร็จมีสีหน้าเศร้าน้ำตาคลอ เนื่องจากมีการกล่าวถึงลูกสาว ก่อนจะร้องไห้ออกมา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงลูกสาวหรือไม่ กัน จอมพลัง ระบุว่า ตนสละเวลากับลูกมามาก เวลาที่ผมอยู่กับลูกแทบไม่มี วันนี้ถามว่าจะมีสักกี่คนที่ทำแบบตน ตนเชื่อว่าคงมี แต่ตนเป็นคนหนึ่งที่เอาเวลาครอบครัวมาเสียสละให้กับสังคม ยอมรับว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำผิดพลาดกับครอบครัวที่ไม่เคยมีเวลาให้แต่พวกเขาก็ไม่เคยห้ามตนในการช่วยสังคม ตนจึงจะนำเวลาที่พักตรงนี้ไปให้ครอบครัว

"หมี่เกี๊ยวลูก วันนี้ปะป๊าไม่รู้ว่าหนูจะรู้ ในสิ่งที่ปะป๊าทำไหมนะ แต่สักวันที่หนูโตขึ้นหนูจะภูมิใจในตัวปะป๊าและสิ่งที่ปะป๊าทำ การทำความดีมันยาก และในระหว่างทางอาจจะมีอุปสรรค แต่หนูจะรู้ว่ามีคนได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ ถ้าหนูจะเดินทางเดียวกับปะป๊าหนูจะต้องแข็งแกร่งมากกว่าปะป๊า" กัน จอมพลัง กล่าว