พายุฝนถล่ม กทม. ต้นไม้ล้มขวางถนน-บ้านพัง การจราจรเป็นอัมพาตหลายจุด

เมื่อ 05.50 น. วันที่ 3 ต.ค.68 กรมอุตุนิยม แจ้งผ่านรายการข่าววิทยุ อสมท.100.5 ว่า ฝนที่ตกหนักช่วงเช้ามืดวันนี้ในพื้นที่ กทม.เป็น "ลมหมุน" มาเร็วไปเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กทม.เผชิญฝนถล่มตกหนักต่อเนื่องตลอดคืนจนถึงช่วงเช้าวันนี้ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนประชาชนและรถยนต์เสียหายจำนวนมาก อีกทั้งยังทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักและไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่

ความเสียหายจากพายุฝนและลมกระโชกแรงในครั้งนี้กระจายตัวเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในหลายพื้นที่สำคัญของกรุงเทพฯ
- ซอยรามคำแหง 60 แยก 10 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ พบความเสียหายหนัก หลังคาบ้านเรือนประชาชนปลิวว่อน และมีต้นไม้หักโค่นล้มทับรถยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหาย
- ซอยวิภาวดี 19 เขตจตุจักร เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มลงกลางถนน ทำให้กีดขวางเส้นทางจราจรและล้มทับรถยนต์ที่สัญจรอยู่
- ซอยพัฒนาการ 30 เขตสวนหลวง แผ่นหลังคาเมทัลชีสขนาดใหญ่ปลิวมาตกอยู่กลางถนน บริเวณก่อนถึงสะพานข้ามคลอง ทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านได้และควรหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยด่วน
- ถนนกำแพงเพชร 2 บริเวณด้านหน้านครชัยแอร์ ฝั่งมาจากรัชโยธิน มีต้นไม้ใหญ่ล้มถึง 2 ต้นขวางช่องทางการจราจร ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดสะสมเป็นทางยาว
- บริเวณรัชดาภิเษก ซอย 32 หน้าตึกปิยะภิรมย์ ต้นไม้ล้มขวางถนนอย่างสิ้นเชิง ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวเป็นอัมพาต
- นอกจากนี้ ที่ กรุงเทพกรีฑา ซอย 8 ยังมีรายงานเสาไฟฟ้าและหม้อแปลงล้ม ส่งผลให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับในบริเวณใกล้เคียง

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมกำลังพร้อมเครื่องมือเข้าพื้นที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วนเพื่อทำการตัดต้นไม้ที่ล้มทับถนนและบ้านเรือนประชาชน รวมถึงดำเนินการแก้ไขปัญหาเสาไฟฟ้าและหม้อแปลงที่ล้ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเร่งฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคให้กลับสู่ภาวะปกติ

เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว เนื่องจากพบว่าหลายเส้นทางการจราจรเริ่มมีรถติดขัดอย่างหนักแล้ว เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

สำหรับประชาชนที่พบเห็นเหตุต้นไม้ล้ม เสาไฟโค่น หรือความเสียหายอื่น ๆ สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ หรือแจ้งผ่านช่องทางร้องทุกข์ของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการแก้ไขโดยเร็วที่สุด