นายวีระ สมความคิด จี้ถามผู้ว่าฯ สระแก้ว ปมที่ดินหนองจาน ลั่นทำไมถึงแถลงข่าวแบบนั้น ทำประชาชนเสียใจ เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ด้านผู้ว่าฯ ขอโทษชาวบ้าน ยันหมายถึงพื้นที่จุดสามเหลี่ยมประมาณ 99 ไร่เท่านั้น พร้อมให้สำนักงานที่ดินตรวจสอบเอกสารของชาวบ้านเพื่อการออกโฉนด
วันที่ 25 ส.ค. 2568 ที่หอประชุมอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว มีชาวบ้านประมาณ 30 ราย เดินทางมารวมตัวกัน พร้อมกับถือป้ายเรียกร้องความเป็นธรรม หลังชาวบ้านกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีปัญหาที่ถูกฝั่งกัมพูชายึดที่ดินทำกินไม่สามารถเข้าไปในที่ของตัวเองได้ หลายคนเตรียมเอกสารมายื่นเรื่องกับเจ้าหน้าที่
โดยก่อนหน้านี้นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้นัดชาวบ้านเพื่อทำความเข้าและกล่าวขอโทษพี่น้องประชาชนชาวหนองจาน เนื่องจากที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะก่อนหน้านี้เคยพูดไปว่า ชาวบ้านไม่มีเอกสารสิทธิ์จนทำให้เกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อน
ทันทีที่นายปริญญาเดินทางมาถึง ได้พยายามทำความเข้าใจกับสื่อมวลชน เรื่องเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวว่า ที่ผ่านมาความหมายที่ตนเองแถลงข่าวในวันที่คณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่เมื่อวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการอธิบายพื้นที่บริเวณจุดสามเหลี่ยม เนื้อที่ประมาณ 99 ไร่ 30 ตารางวา ที่ทหารยึดพื้นที่ตั้งรั้วลวดหนามและยางรถยนต์ บริเวณบ้านหนองจานเท่านั้น ไม่ใช่เหมารวมเป็นหมู่บ้านหนองจานทั้งหมด ยืนยันว่าหมู่บ้านหนองจานอยู่บนแผ่นดินของประเทศไทย
โดยระหว่างที่นายปริญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กำลังอธิบายกับสื่อมวลชน นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้เดินเข้ามาสอบถามกับทางผู้ว่าฯ ว่าทำไมถึงแถลงข่าวแบบนั้น ทำให้ประชาชนรู้สึกเสียใจและเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน นอกจากนีนายวีระยังจี้ถามไปที่เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดสระแก้ว ว่าทำไมถึงไม่ออกเอกสารสิทธิ์ให้กับชาวบ้าน
จากนั้น นายปริญญาได้อธิบายความเข้าใจกับชาวบ้าน โดยยืนยันว่าชาวบ้านที่มีเอกสารตั้งแต่ สค. 1 - นส. 3 ถือว่าเป็นหลักฐานที่ใช้ในการครอบครองและเป็นเจ้าของที่ดินได้ ส่วนชาวบ้านที่มีหลักฐานเป็นใบ ภบท. 5 หรือ การเสียภาษีบำรุงท้องถิ่น ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้
จากนั้น นายปริญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดใจกับทีมข่าว ตอนนั้นระหว่างการแถลงข่าวให้กับทางผู้สังเกตการณ์ ได้ถามว่าพื้นที่บริเวณ ดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์หรือไม่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว อยู่ใกล้กับจุดที่ทางทหารมีการทำแนวรั้วลวดหนามไว้ โดยพื้นที่หลังแนวถนนศรีเพ็ญเกือบทั้งหมด ยังไม่มีโฉนดที่ดิน มีเพียงเอกสารสิทธิ์การจับจองที่ดินอย่าง นส. 3 และ สค.1
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองอยากขอโทษกับชาวบ้าน กับสิ่งที่ตนเองสื่อสารไปอาจจะเกิดความคลาดเคลื่อน วันนี้จึงตัดสินใจให้ชาวบ้านนำเอกสารที่ถืออยู่ในมือนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ตรวจสอบที่ดินของชาวบ้านว่าจะสามารถออกโฉนดให้ได้หรือไม่ หากชาวบ้านรายใดมีเอกสาร นส.3 หากในอดีตที่ผ่านมาไม่สามารถเข้าถึงและยังไม่เคยรังวัดที่ดินมาก่อน วันนี้ได้ทำหนังสือประสานไปยังอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อขอยกเว้นการรังวัด และใช้ภาพถ่ายทางอากาศชี้พิกัดให้ชาวบ้านยืนยัน ซึ่งหากทางกรมที่ดินอนุมัติก็พร้อมออกโฉนดให้กับชาว ส่วนใบจับจองที่ดินประเภทอื่นๆ เช่น สค. 1 จะให้เจ้าหน้าที่ที่ดินไปตรวจสอบและทำการรังวัด
ขณะที่ ชาวบ้านบางส่วนที่มีการนำหลักฐานเป็นใบ ภบท. 5 หรือใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันแสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดินได้ เพราะเนื่องจากหลักฐานนี้แสดงว่าชาวบ้านได้ทำกินในที่แปลงนี้เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่บริเวณนั้นจะเป็นพื้นที่ของป่าไม้ ไม่สามารถออกโฉนดได้