"บิ๊กเต่า" ฟาดสำนักพุทธฯ มีหลักฐานเยอะแต่ไม่ทำอะไร เผยมีหลักฐานแน่นมัด "ทิดบุญเลิศ-พระเทพปวรเมธี"

"บิ๊กเต่า" ฟาดสำนักพุทธฯ มีหลักฐานเยอะแต่ไม่ทำอะไร ทำงานด้วยล้มเหลวตลอด

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรณีเรื่องเสพเมถุนเรื่องทำผิดวินัยสงฆ์ รวมทั้งคนภายนอกที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับพระ มันถูกต้องและไม่ได้รับการแก้ไขให้มันถูกต้องตามระเบียน และวิธีปฏิบัติ

ส่วนตัวมองว่า เรื่องจะปล่อยให้สำนักพุทธฯ ทำไปฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะว่า สำนักพุทธฯ ก็เรียนเปรียญธรรมจากพระทั้งหมด ก็ต่างมีคอนเน็คชั่นกัน เป็นพวก เป็นเพื่อนกัน เกิดเหตุขึ้นมาก็ช่วยเหลือกัน ซึ่งเรื่องแบบนี้แก้ไขไม่ได้ต้องให้คนนอกขึ้นมาร่วมแก้ไข ดังนั้นข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดของสำนักพุทธฯที่วางใต้โต๊ะ จะต้องเอาขึ้นมาวางบนโต๊ะให้หมด เนื่องจากฝีระเบิดแล้วก็ต้องจริงใจในการแก้ปัญหา

สิ่งหนึ่งที่สำนักพุทธฯ ต้องทำคือมาร่วมมือกับกองปราบ และตนเองไม่ได้ปรามาสสำนักพุทธฯ แต่ทุกครั้งที่ร่วมงานกับสำนักพุทธคือความล้มเหลว ทำให้ตำรวจเหนื่อยมากขึ้น ต้องมีการสังคายนาสำนักพุทธฯและวัดด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกล่าวเช่นนี้ มองว่าสำนักพุทธฯบ่อนทำลายศาสนาหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ว่าบอกว่าเป็นการบ่อนทำลาย แต่ว่าสำนักพุทธมีแนวทางที่ไม่เข้มงวดกวดขัน เป็นการกลบปัญหาเอาไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายถึงเดินหน้าต่อไปได้ จะปล่อยให้มันเป็นมะเร็งร้าย และลุกลามบานปลายจนคนไม่เข้าวัด ไม่ทำบุญก็คงไม่ใช่ จนเสื่อมแบบนี้ ดังนั้นสำนักพุทธจะต้องแสดงความจริงใจอย่างมากในการที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้

ส่วนที่สำนักพุทธฯ ระบุว่าหลักฐาน “พระปวรเมธี” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ยังไม่เพียงพอต่อการลาสิกขา ยังเป็นเพียงอาบัติสังฆาทิเสส สามารถออกจากอาบัติได้โดยเข้าปริวาสกรรมนั้น ยืนยันว่า สิ่งที่สำนักพุทธมี กับตำรวจมีนั้นมันแตกต่างกัน แต่เชื่อว่าสำนักพุทธมีหลักฐานมากกว่า ซึ่งตำรวจมีข้อมูลยืนยันว่าพฤติกรรมของพระวัดประยุรฯ ผิดวินัยสงฆ์ชัดเจน ซึ่งพรุ่งนี้มีการประชุมร่วมกัน และเราจะชี้ให้เห็นว่ามันเน่าเฟะตรงไหน และมีผลประโยชน์ร่วมกันหรือไม่

พร้อมกับยืนยันยืนยันว่าสำนักพุทธมีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติดีจำนวนมาก แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่กระทำผิดผู้กระทำความผิด ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องมีการแก้ปัญหากันอย่างจริงจัง

“บิ๊กเต่า” ยัน! ตำรวจมีหลักฐาน “ทิดบุญเลิศ“ วัดใหม่ยายแป้น เสพสังวาสสีกากอล์ฟมากกว่า 1 ครั้ง ส่วน “พระเทพปวรเมธี” วัดประยุรฯที่ยังไม่สึก พบหอบเงินเป็นลังให้สีกากอล์ฟ เข้าข่ายยักยอก

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผย ถึงกรณีสีกากอล์ฟ ที่เกี่ยวข้องกับพระจนทำให้ลาสิกขาหลายรูป ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลเรื่องพระที่ลาสิกขาไปแล้ว ซึ่งมีทั้งที่ตกเป็นเหยื่อ และยังไม่ได้เข้ามาให้การตำรวจด้วย โดยเฉพาะ “อดีตพระมหาบุญเลิศ” วัดใหม่ยายแป้น ที่ได้เข้ามาให้ปากคำกับตำรวจเมื่อวานนี้ โดยตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ที่สีกากอล์ฟพยายามเข้าหาผ่านทางโซเชียล 3-4 ครั้ง แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ และสุดท้ายก็หลอกล่อจนมีความสัมพันธ์และเสพเมถุนมากกว่า 1 ครั้ง และยังมีการให้หยิบยืมเงินไป 1 แสนกว่าบาท โดยสีกากอล์ฟอ้างว่าลูกป่วย ซึ่งลูกคนดังกล่าวสีกากอล์ฟอ้างว่าเป็นลูกของอดีตพระที่ตนเองเคยมีความสัมพันธ์ด้วยเมื่อนานมาแล้ว ก็ให้ถือว่าเป็นลูกหลาน จึงขอความสงสารเพื่อหยิบยืมเงินดังกล่าวมาเป็นค่ารักษาพยาบาล

ทั้งนี้ยอมรับว่าอดีตพระมหาบุญเลิศ เป็นพระที่ดี เมื่อรู้ว่าตัวเองผิดก็ยอมลาสิกขา และได้เข้ามาแจ้งความ เช่นเดียวกับพระเทพวรเมธี ที่ยังไม่ได้ลาสิกขาตนเองก็ไม่มีอำนาจหน้าที่ไปบังคับขู่เข็ญให้สึก แต่ยืนยันว่าตำรวจมีหลักฐานชัดเจน โดยพบเส้นทางการเงิน รวมถึงเงินสดที่ยกมาให้เป็นลัง คล้ายกับเงินที่นำมาจากตู้บริจาคเพราะขยำแบงค์ และนอกจากนี้ยังมีเครื่องสังฆทาน จีวร ที่ปะปนมาด้วย รวมทั้งทรัพย์สินที่มากกว่าเครื่องสังฆทานส่งมาให้กันเยี่ยงผัวเมีย ซึ่งอย่าคิดว่าทางตำรวจไม่มีหลักฐาน เพราะตำรวจจะตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดของวัด โดยลักษณะเช่นนี้เข้าข่ายยักยอกเงินวัด ซึ่งหลักฐานที่ปรากฏไม่สามารถปกปิดได้โดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

ส่วนที่วัดประยุรฯมีการส่งคนสนิทของผู้ช่วยเจ้าอาวาสมาบิณฑบาตกับตนเอง ยืนยันว่าทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน และตัวเองก็ไม่มีหน้าที่ที่จะไปกำหนดว่าใครจะต้องสึกหรือไม่สึก

โดยยืนยันว่าไม่ได้ต้องการที่จะกลั่นแกล้ง แต่หากไม่สึก และไม่สำนึก ตำรวจก็จะมีวิธีการที่แสดงให้เห็นว่าเข้าข่าย “อาบัติ”

ส่วนกรณีที่คนของสำนักพุทธเข้าไปรับตำแหน่งไวยาวัจกรในวัดต่างๆ และทำเกินหน้าที่ไปเจรจากับพระจนทำให้เกิดเรื่องบานปลายนับ 10 ปี มองว่าปัญหาดังกล่าวจะต้องมีการพูดคุยในที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ ที่จะมีแนวทางที่จะต้องมีแนวทางบูรณาการแก้ปัญหาร่วมกัน

ทั้งนี้ ฝากทางนี้อยากจะฝากถึงพระที่ลาสิกขาไปแล้ว ที่ตกเป็นเหยื่อสีกากอล์ฟ ให้เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจเพื่อที่จะขยายผลและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

“บิ๊กเต่า” เตรียมเปิดคดีใหม่ เอาผิดพระสมณศักดิ์สูงกว่าคดีสีกากอล์ฟ เกี่ยวข้องเรื่องเงิน เชื่อ! ทุกคนจะตะลึงเมื่อเห็นชื่อ

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ระบุว่า นอกจากคดีสีกากอล์ฟ ยังมีข่าวที่เกี่ยวกับวงการสงฆ์ ที่ทำให้วงการสงฆ์สั่นสะเทือนอีก เนื่องจากขณะนี้มีบุคคลเข้ามาร้องเรียนว่ามีพระผู้ใหญ่ที่สมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีสีกากอล์ฟ ที่กระทำผิดปาราชิก จะต้องจับสึกเพราะปล่อยไว้ไม่ได้ และหากเปิดชื่อเชื่อว่าทุกคนจะต้องตะลึง เพราะเป็นพระมีชื่อเสียงที่ทุกคนรู้จัก ซึ่งข้อมูลนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับคดีสีกากอล์ฟแต่อย่างใด และไม่ได้เป็นข้อมูลจากศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัยที่เพิ่งเปิดขึ้นใหม่ แต่เป็นข้อมูลผู้หวังดีเข้ามาร้องเรียนว่าพฤติกรรมของพระรูปนี้ ที่อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน แต่ส่วนจะเกี่ยวข้องกับสีกาหรือไม่ ยังไม่เปิดเผยในรายละเอียด แต่ขอให้เชื่อมั่นว่าทางตำรวจจะดำเนินการอย่างเป็นธรรม และเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไป