จากกรณี น้องกาย อายุ 15 ปี ถูกรุ่นพี่ซึ่งเป็นทหารค่ายดังแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช พร้อมพวก 12 คนได้บุกมาหาที่บ้านเพื่อนขณะตนเองกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ก่อนอุ้มลากขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วนำไปซ้อมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นแผลเขียวช้ำทั้งตัว และกระดูกซี่โครงหักและทิ่มปอดอาการสาหัส ส่วนสาเหตุ ทหารรุ่นพี่อ้างว่า น้องกายได้ไปเสื้อกันหนาวของกลุ่มเพื่อนที่วางไว้ที่ตะกร้าหน้ารถ ภายในงานของดี ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง เมื่อสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 2-3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งแม่ของน้องกาย กลัวลูกชายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลพัทลุง เพื่อไปติดตามดูอาการของน้องกาย โดยพบว่าน้องกายยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยแพทย์ได้เจาะสายยางไปยังปอดเพื่อระบายเลือดที่ซึมอยู่ภายใน ส่วนบริเวณลำตัวมีร่องรอยถลอกและรอยช้ำเต็มแผ่นหลัง แต่น้องกายยังผวา

 

ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามน้องกาย ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อคืนวันที่ 2 พฤษภาคม 67 ตนเองได้นอนอยู่บ้าน จากนั้นเพื่อนของตนเองชื่อ นายชาร้อน ได้โทรศัพท์มาหาตนเอง และชวนไปนั่งเล่นที่บ้าน จากนั้นตนเองจึงได้เดินทางไปนั่งบ้านของชาร้อน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไม่ไกล

 

ระหว่างที่ตนเองกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ้านเพื่อน และได้ชาร์จแบตโทรศัพท์อยู่ ปรากฏว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุกว่า 10 คน หนึ่งในนั้น คือ นายระพีภัทร หรือ เอ็มมี่ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในละแวกบ้าน โดยเป็นทหารอยู่ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเพื่อน 12 คน ได้บุกมาตนเองในบ้าน และทำร้ายร่างกาย โดยกล่าวหาว่า ตนเองไปขโมยเสื้อกันหนาวของกลุ่มเพื่อน ภายในงานของดี ต.ชะรัด ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่าน ตอนนั้นตนเองทั้งตกใจและงง เพราะตนเองไม่รู้เรื่อง และพยายามบอกว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนขโมยเสื้อกันหนาวไป

 

แต่นายระพีภัทรและพวกไม่ยอมฟัง โดยได้ข่มขู่พร้อมลากตนเองอุ้มขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเพื่อนไป (ซ้อน 3) โดยมุ่งหน้าไปยังศาลาริมทางพรุโต๊ะเด็ม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ตอนนั้นตนเองไม่กล้าจะขัดขืนเพราะนายระพีภัทรพกอาวุธปืนเหน็บเอวมาด้วย

 

โดยระหว่างทางนายระพีภัทรและพวกได้ลากตนเองมากระทืบริมถนนแต่ไม่ทราบว่าบริเวณไหนเพราะมืดมาก จากนั้นได้ใช้ไม้ตีตามตัวและหัวได้รับบาดเจ็บ จากนั้นยังได้อุ้มตนเองขึ้นรถและพาไปที่ศาลาพักริมทางพรุโต๊ะเด็มเพื่อรุมทำร้ายรอบ 2 แต่ครั้งนี้นายระพีภัทรได้นำก้อนหินขนาดใหญ่ มาทุบใส่หน้าอกของตนเอง และให้พวกแต่ละคนช่วยกันกระทืบและใช้ไม้ตีไม่ยั้ง

 

ซึ่งขณะตนเองถูกทำร้าย มีวัยรุ่นที่อยู่แถวนั้น ได้บันทึกคลิปไว้เป็นหลักฐาน แต่สุดท้าย นายระพีภัทรได้เห็นเข้า จึงได้สั่งลบคลิป แต่โชคดีลบไม่หมดเหลือคลิปสุดท้ายจึงนำมาเป็นหลักฐาน โดยในคลิปจะเห็นตนเองถูกกลุ่มนายระพีภัทร ลากเข้าไปในที่มืดและทำร้ายอย่างหนัก ตนเองพยายามร้องขอชีวิตแต่ก็ไม่เป็นผล

 

น้องกายยังบอกทีมข่าวอีกว่าจนถึงตอนนี้ตนเองรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองด้วย ไม่รู้ว่าหลังจากนี้หากตนเองได้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่บ้านจะเกิดความปลอดภัยหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มวัยรุ่นขาใหญ่ในพื้นที่ และหัวโจกคือนายระพีภัทร เป็นทหาร ซึ่งจะพกปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา

 

ล่าสุดทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.42 น. กล้อง 1 และ 2 จะเห็นน้องกายผู้บาดเจ็บได้เดินออกจากบ้านมารอนายชาร้อนบนถนน จากนั้นกล้องอีกตัวจะเห็น น้องกายได้ ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของนายชาร้อนเพื่อเดินทางไปที่บ้านก่อนจะถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุบุกมาอุ้ม

 

และหลังจากนั้นคลิป 3 และ 4 เวลา 00.15 น. หลังจากน้องกายได้ถูกร่วมทำร้ายจนสะบักสะบอมแล้ว จะเห็นเพื่อนของน้องสองคนได้ขี่รถมอไซค์มาส่งน้องกายที่บ้าน หลังจากผ่านมายังจุดเกิดเหตุพอดี โดยจะเห็นน้องกายค่อยๆ เดินเข้าบ้านเนื่องจากบาดเจ็บไปทั้งตัว

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางดวงธิดา อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ บอกว่า เหตุเกิดช่วงรอยต่อกลางดึกของคืนวันที่ 2 -3 พฤษภาคม 67 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองทำงานอยู่ ลูกชายโทรมาบอกว่า “แม่เลิกงานยัง” ตนเองบอกว่า “ยังไม่เลิก” ลูกจึงบอกต่อว่า “แม่ช่วยพาผมไปโรงพยาบาลหน่อยผมโดนตี”

 

ตนเองจึงรีบโทรกลับไปยังน้าที่อยู่ข้างบ้านว่าช่วยพาลูกชายไปหาหมอหน่อย จนกระทั่งน้าพาไป รพ.กงหรา แต่หมอวินิจฉัยว่า อาการหนัก มีเลือดไหลในช่องท้องเนื่องจากซี่โครงหักแทงทะลุปอด ก่อนแพทย์ รพ.กงหรา ได้เจาะเพื่อเอาเลือดออกแล้วส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.พัทลุง โดยตามลำตัวมีรอยช้ำ เป็นรอยเท้า รอยไม้ ตีบวมระบมทั้งตัว

 

หลังจากเกิดเหตุตนเองได้ติดต่อไปหาพ่อของทหารคนดังกล่าวเพื่อให้ออกมารับผิดชอบ โดยเรียกเงินไปจำนวน 3 แสนบาท แต่เมื่อติดต่อไป พ่อของทหารรายนี้กลับเพิกเฉย และข่มขู่ไม่ให้ตนเองนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งความ โดยขู่ว่า “หากไปแจ้งความก็จะยิงพ่อเด็กแม่เด็กด้วยเพราะจะได้ชดใช้ในทีเดียวเลย”

 

ทำให้ตอนนี้ตนเองหวาดกลัวมาก และอยากถามว่า ผู้ก่อเหตุเป็นถึงทหารทำไมถึงได้ทำกับลูกตนเองขนาดนี้ เป็นทหารเข้าสอนกันให้ทำกับเด็กแบบนี้หรือ

 

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของนายระพีภัทร หรือ พลทหารแอมมี่ สังกัดค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ก่อเหตุ เราได้พบกับ นายอั้ม (นามสมมติ) พี่ชายของผู้ก่อเหตุ บอกกับทีมข่าวว่า ล่าสุดน้องชายของตนเองถูกผู้บังคับบัญชาเรียกกลับเข้ากรมด่วนและสั่งลงโทษทางวินัย โดยตอนนี้ถูกขังอยู่ภายในคุกทหาร ยังติดต่อไม่ได้

 

หลังเกิดเหตุยอมรับว่าพ่อของตนเองเครียดมากที่น้องชายไปก่อเหตุทำร้ายเด็ก 15 ขนาดนั้น ส่วนที่แม่ของฝ่ายผู้บาดเจ็บบอกว่าพ่อของตนเองพูดข่มขู่ว่า “เดี๋ยวจะยิงทิ้งให้หมดทั้งพ่อแม่เด็ก จะได้จ่ายทีเดียว” ตนเองไม่รู้ว่าพ่อพูดจริงหรือเปล่าแต่ถ้าหากพูดจริงตนเองก็ขอโทษด้วยและคิดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดของพ่อที่พูดไปแบบนั้น

 

ยืนยันที่ผ่านมาน้องชายของตนเองเป็นเด็กนิสัยดี ส่วนที่มีพฤติกรรมชอบพกปืน และอวดลงโซเชียล ยอมรับว่าที่บ้านไม่รู้เรื่องนี้เลย เพราะปกติน้องชายเวลาอยู่บ้านจะเป็นคนเรียบร้อย และพ่อแม่ไม่เคยสอนให้น้องมีนิสัยนักเลงแบบนั้น

 

ล่าสุดทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายชาร้อน เพื่อนของน้องกายผู้บาดเจ็บ ซึ่งน้องกายได้เดินทางมานั่งเล่นที่บ้านของชาร้อนก่อนถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุบุกมาอุ้มไปทำร้าย โดยนายชาร้อนยืนยันกับทีมข่าวว่า ตนเองไม่ใช่นกต่อที่เป็นคนโทรศัพท์ไปหากลุ่มพวกผู้ก่อเหตุให้มาทำร้ายเพื่อนตนเองบ้านพักแน่นอน

 

ส่วนก่อนเกิดเหตุตนเองได้ส่งข้อความไปชักชวนให้นายกายมานั่งเล่นที่บ้านด้วยกันจริง แต่ต่อมานายกายเป็นคนโทรศัพท์มาและขอให้ตนเองมารับไปหาที่บ้านเอง ซึ่งตนเองก็ออกมารับจริง แต่ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ

 

นอกจากนี้เจ้าตัวยังยอมรับว่าขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุบุกมาที่บ้านของตนเองและอุ้มตัวนายกายออกไปนั้น พวกตนเองนั่งอยู่หน้าบ้าน ส่วนกายนั่งอยู่ภายในบ้านเพียงคนเดียว ซึ่งตนเองเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นทหารด้วยความกลัวจึงไม่กล้าเข้าไปช่วยจึงจำเป็นต้องยอมปล่อยให้เพื่อนถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มไปทำร้ายด้านนอก

 

สำหรับนายกายเพื่อนของตนเองนั้นที่ผ่านมายอมรับว่ามีนิสัยชอบลักขโมย ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้คับแค้นใจจึงเดินทางมาทำร้าย

เปิดหลักฐานแก๊ง "ทหาร" เหี้ยม! อุ้มเด็ก 15 หินทุบปางตาย