วันที่ 6 พ.ค. พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว หัวหน้าชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่4 นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เกาะสมุย หลังปรากฏข่าวทางสื่อมวลชน กรณีชาวต่างชาติ ทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับแม่บ้านชาวไทย การทดสอบโดยให้มีการตรวจสอบว่าบริเวณที่มีการก่อสร้างวิลล่ามีการได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ รวมถึงการครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าว ว่า เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่

 

พ.อ.ดุสิต กล่าวว่า ในการตรวจสอบโดยใช้แผนที่ทางทหารประกอบการบินสำรวจพบว่าที่ดินบริเวณ ดังกล่าวรวมถึงสิ่งปลูกสร้างได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายแต่เมื่อตรวจสอบไปถึงผู้ถือครอง ที่พบว่ามีการจัดตั้งเป็นนิติบุคคล และเชื่อว่าหุ้นส่วนอีก 2 รายซึ่งเป็นชาวไทยเป็นนอมินีของนางแคทเทอรีน ซึ่งคณะทำงานได้มีการรวบรวมในส่วนของรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อนำเสนอต่อ แม่ทัพภาคที่ 4 ต่อไป

 

“ที่ผ่านมาในพื้นที่เกาะสมุยมีปัญหาเกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินของรัฐ มีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำที่ดินไปขายให้กับชาวต่างชาติโดยมีนักกฎหมายชาวไทยเข้าไปช่วยเหลือ ในการใช้ช่องว่างของกฎหมายช่วยเหลือให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในการทำงานอย่างต่อเนื่องของคณะทำงานพบว่า ที่ดินส่วนใหญ่ที่มีชาวต่างชาติเป็นผู้ถือครองเกินกว่าร้อยละ 80 มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และมีชาวไทยเป็นนอมินี ที่แม่ทัพภาคที่4 ได้ให้ความสนใจในกรณีดังกล่าว ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเรื่องของการ ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินของชาวต่างชาติให้กับแม่บ้านชาวไทย แต่เป็นการให้เข้ามาตรวจสอบว่าการถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในนามนิติบุคคลของชาวต่างชาตินั้น ถูกต้องตามกฎหมายหรือใช้นอมินี กรณีเหตุการณ์นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐในการทำผิดกฎหมายของชาวต่างชาติเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในอนาคตต่อไป

 

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเบื้องต้น การจดทะเบียนนิติบุคคลในนามบริษัท  จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด   พบว่าทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ก่อตั้งเมื่อ 19 เม.ย. 2555 ที่หมู่ 2 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย มีนางแคทเทอร์รีน จูแอลว์ โรแลน เจอร์แมน เดอลาโคท  ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 49 นายทองใส (สงวนนามสกุล) ชาว จ.อุบลราชธานี ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 35 และ น.ส.รัชประภา (สงวนนามสกุล) ชาว จ.นครศรีธรรมราช ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 16 และระบุกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม1 ราย คือ นางแคทเทอร์รีน

 

ปี 2561 แจ้งรายได้รวม 2.4 ล้านบาทเศษ แต่หักลบค่าใช้จ่าย จากทุนราว 6 แสนบาท

ปี 2562 แจ้งรายได้รวม 1.3 ล้านบาทเศษ หักลบค่าใช้จ่าย ขาดทุน 1.4 ล้านบาทเศษ

ปี 2563 แจ้งรายได้รวม 1 ล้านบาทเศษ หักลบค่าใช้จ่าย ขาดทุน 1.5 ล้านบาทเศษ

ปี 2564 แจ้งรายได้รวม 2 ล้านบาทเศษ หักลบค่าใช้จ่าย ขาดทุน 6 หมื่นบาทเศษ

ปี 2565 แจ้งรายได้รวม 2 ล้านบาทเศษ หักลบค่าใช้จ่าย มีกำไร 3 แสนบาทเศษ โดยที่ผ่านมา รายได้ของบริษัท กิจการ ไม่ถึงเกณฑ์ จึงไม่ได้เสียภาษีเงินได้

 

เมื่อตรวจสอบงบการเงิน ในส่วนของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ พบว่าในปี 2561 แจ้งสินทรัพย์รวม มีมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท แต่ในปี 2565 มูลค่าสินทรัพย์รวม ลดลงเหลืออยู่ราวๆ 5.3 ล้านบาท

ส่อวุ่น! กองทัพเตรียมสอบที่ดินแหม่ม 100 ล้าน