เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนได้รับการว่าจ้างจากคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาทราบภายหลังว่าใช้รูปปลอมทักหาผู้เสียหาย โดยอ้างตัวว่าเป็นโมเดลลิ่ง สนใจจะว่าจ้างผู้เสียหายให้ไปรับงานเอ็นเตอร์เทน ซึ่งทันทีที่ไปถึงจุดนัดพบ ปรากฏว่าตัวจริง เป็นคนละคนกับผู้ว่าจ้าง ซึ่งไอ้มีนก็อ้างว่าตนมารับแทน และด้วยความที่ผู้เสียหายกว่าจะเสียประวัติการทำงาน จึงยอมไปตามคำชวนของไอ้มีนแต่โดยดี

ระหว่างทางนั้น ไอ้มีนก็พูดจาโอ้อวดต่าง ๆ นานา บอกว่าวันนี้ลูกค้าที่นัดมานั้นได้เงินจากพนันออนไลน์มาเยอะ ถ้าทำงานได้ดีก็จะมีทิปให้ พอไปถึงโรงแรม จังหวะที่เธอออกมาจากห้องน้ำ ไอ้มีนก็มีอาการลุกลี้ลุกลน จะขอกลับบ้าน โดยปล่อยให้เธอรออยู่ในโรงแรมเพียงคนเดียว ทันทีที่เธอเปิดกระเป๋าดูก็พบว่าทรัพย์สินหายไปกว่า 10,000 บาท จึงพยายามโทรตามไอ้มีน ซึ่งไอ้มีนก็เอาแต่อ้างว่า เดี๋ยวจะไปคืนที่บ้าน

ด้านผู้เสียหายอีกคนเล่าให้ฟังว่า ตนโดนไอ้มีนออกอุบายให้โอนเงินไปให้ โดยไอ้มีนอ้างว่า ได้เดิมพันกับเพื่อนว่าเด็กเอ็นเตอร์เทนวันนี้พกเงินสดมาเท่าไหร่ ถ้าใครทายถูกก็จะได้เงินจากการเดิมพัน โดยไอ้มีนได้ร้องขอให้เธอโอนเงินไปให้จนหมดบัญชี และอ้างว่าหลังจากเสร็จเดิมพันแล้วจะนำเงินมาคืนพร้อมกับเพิ่มค่าจ้างให้อีกเท่าตัว ซึ่งเธอก็ตกลงจึงโอนเงินให้ไป จากนั้นไอ้มีนได้ไปส่งตนที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ทันทีที่เธอลงจากรถไอ้มีนก็รีบขับรถหนีออกไปเลย

หลังเกิดเรื่อง ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนร่วมอาชีพหลายคน ปรากฏว่ามีหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อไอ้มีน บางคนนอกจากจะโดนขโมยทรัพย์สินแล้ว ยังโดนข่มขืนอีกด้วย ซึ่งมีบางคนได้ไปแจ้งความ แต่ทางตำรวจก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรให้ จนทำให้บางคนถึงขั้นคิดสั้นจนเกือบจะฆ่าตัวตายมาแล้ว

ซึ่งถ้าหากไอ้มีนมีโอกาสได้ดูอยู่ ตนก็อยากจะถามว่า ทำไมต้องมาเอาเปรียบผู้หญิงแบบนี้ อยากให้ติดคุก หรือได้รับผลกรรมจากสิ่งที่ทำไว้โดยเร็ว

ทั้งนี้มีข้อมูลว่าไอ้มีนจะตระเวนก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ทั่วทั้งกรุงเทพฯ และมักจะมุ่งเน้นไปที่ย่านพระราม 3 และเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ไอ้มีนเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติด ก่อนจะพ้นโทษออกมาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอยู่หลายครั้ง

ด้านนายเอกภพเหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า หลังจากนี้ตนจะประสานไปยัง พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดตัวไอ้มีนมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะถ้าหากปล่อยไว้ถือเป็นภัยร้ายแรงสำหรับผู้หญิง

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตามที่อยู่ของนายมีนพบว่าอาศัยอยู่ ตำบลไทรน้อยอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรีแต่เมื่อไปถึงบ้านปรากฏว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบุคคลที่รู้จักกับญาติของนายมีนเท่านั้นไม่ใช่ญาติของนายมีนโดยตรง

คุณ เบญจวรรณ เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ญาติของนายมีนได้มาขอให้นายมีนอาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านด้วยตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรจึงให้อาศัยอยู่ด้วยเพราะเป็นคนคุ้นเคยกัน แต่ปรากฏว่าผ่านไปไม่นานพบว่ามีบุคคลมาสอบถามหานายมีนโดยเฉพาะแก๊งเงินกู้นอกระบบมาตามหาว่านายมีนโกงเงิน

นอกจากนี้ยังพบว่านายมีนมีพฤติกรรมไปหลอกลวงหญิงสาวหลายรายโดยจะพาหญิงสาวแต่ละรายไปร่วมหลับนอนด้วยจากนั้นก็ขโมยโทรศัพท์ทรัพย์สินมีค่าของหญิงสาวไปซึ่งทำมาหลายครั้งตนเองพอทราบข่าวถึงพฤติกรรมเช่นนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจที่จะให้อยู่ในทะเบียนบ้านต่อไปจึงได้ไปถอนชื่อนายมีนออกจากทะเบียนบ้านเมื่อปี 2566

ซึ่งพฤติกรรมของนายมีนนั้นทางครอบครัวตนรับไม่ได้เพราะถือเป็นภัยสังคมที่หลอกลวงผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเอนเตอร์เทน เมื่อติดต่อแล้วกลับไม่พาเขาไปทำงานพาเขาไปข่มขืนและขโมยของเขาซ้ำอีกถือว่าเป็นภัยสังคมอย่างมากป้าจึงไม่ให้เขาอยู่ในที่นี่และไม่เคยเห็นนายมีนกลับมาพื้นที่อำเภอไทรน้อยอีกเลยจนกระทั่งทราบข่าววันนี้ว่าไปหลอกลวงผู้หญิงหลายคน

ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปที่บ้านของญาตินายมีน พยายามสอบถามกับญาติของนายมีนโดยตรง แต่ทางญาติปฏิเสธให้ข้อมูลโดยบอกเพียงสั้นๆ ว่านายมีนไม่ได้กลับมาที่บ้านนานมากแล้วรู้เพียงแค่ว่ามีภรรยาใหม่อยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์และไม่รู้เรื่องว่าไปก่อเหตุหลอกลวงผู้หญิงและเด็กเอนเตอร์เทน ทางครอบครัวไม่ได้ติดต่อและยุ่งเกี่ยว นานมากเหมือนตัดขาดกันโดยอัตโนมัติ