กรณีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งได้โพสต์ข้อความในกลุ่มจังหวัดปทุมธานีว่า “พื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี..หรือย่านนาวง นี้ไม่มีกล้องวงจรปิดหรือกล้องถูกลบทิ้งโดยคนพื้นที่หรือผู้มีอิทธิพลค่ะ..ใครอยู่แถวนาวงซอย6 แล้วมีภาพเหตุการณ์วันที่ 23 เมษายน 2567 เวลา 6.00-6.30 น. ช่วยดิฉันหน่อยได้ไหมค่ะ..จากใจคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ..ลูกดิฉันต้องมาถูกยิงและเสียชีวิตทั้งที่เค้าเป็นเด็กดีในสายตาของดิฉัน และเป็นรอยยิ้มเป็นกำลังที่ดีของชั้นนะค่ะ..อยากร้องขอความยุติธรรมให้ลูกของ ดิฉันด้วย..คนร้ายที่ก่อเหตุมีมากกว่า1คน...จะปิดคดีที่คนร้าย ที่มามอบตัวคนเดียวมันไม่ถูกต้องค่ะ..ถ้าคนร้ายทั้งหมดสำนึก ผิดมากราบขอขมาศพจะไม่ว่าสักคำ..แต่นี้นอกจากคิดไม่ได้ยังโพสประกาศศักดากันแบบท้าทายกฎหมาย..ข่มขู่ท้าตีกลุ่มเพื่อน ลูกชายดิฉันไม่จบสิ้น..แล้วแบบนี้ดิฉันจะพึ่งใครได้ค่ะ..ถ้าเจ้าหน้าที่มองข้ามชีวิตคนแบบนี้..ขอความเห็นใจจากใจคนเป็นแม่คนนึ่งที่ต้องสูญเสียลูกชายด้วยค่ะ”

 

ทีมข่าวได้มาพูดคุยกับนางสาวฟ้า (นามสมมติ) แฟนของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุ รุ่นน้องในกลุ่มถูกสั่งผู้ก่อเหตุร่วมกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ ตัวเอง, ผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนจึงไปเคลียร์กับฝั่งคู่กรณีให้ โดยเดินทางไปรถเก๋งสองคัน พอไปถึงบ้านของผู้ก่อเหตุก็ได้มีการพูดคุยกัน เพื่อตามหาตัวคนที่กระทืบรุ่นน้อง แต่ยังเคลียร์กันไม่จบ ฝั่งผู้ก่อเหตุได้ถือมีดเข้ามาจะทำร้ายพวกตัวเอง พวกตัวเองจึงพากันวิ่งขึ้นรถเก๋ง ไม่ได้มีการถือปืนไปยิงยิงฝั่งผู้ก่อเหตุก่อนแต่อย่างใด ที่เขาอ้างว่าพวกตัวเองยิงปืนแล้วปืนขัดลำกล้อง ก็ไม่จริง พวกตัวเองยังไม่ได้จับปืนเลยปืนยังอยู่ในรถ แต่พวกตัวเองแค่ทำท่าคล้ายกับจะยิงพวกเขาเท่านั้น

 

แต่นายแม็กผู้ก่อเหตุ หยิ่งมาใส่พวกตัวเองจำนวนหลายนัด โดยแฟนของตัวเอง นั่งอยู่ตรงกลางของเบาะหลังรถเก๋งคันสีดำ ถูกกระสุน 1 นัด เข้าที่ท้ายทอย ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็พยามบอกให้แฟนอย่าหลับ และบอกแฟนว่า “ตัวเองรักเขาไหม” แฟนก็พยักหน้าตอบกลับ จากนั้นแฟนก็ทรุดตัว แล้วเพื่อนในกลุ่มก็มีการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเปิดทางจำนวนหนึ่งนัด ยืนยันว่าไม่ได้ยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด ก่อนที่จะขับรถเก๋งพาแฟนไปส่งโรงพยาบาล

 

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ฝั่งผู้ก่อเหตุก็ไม่มาขอโทษหรือขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิตแม้แต่ครั้งเดียว ซ้ำ กลุ่มคนก่อเหตุจะมีการโพสต์ข่มขู่ท้าทายฝั่งตัวเองอยู่ตลอดเวลา

 

วันนี้ทีมข่าวช่องแปดเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ที่ซอยนาวงพัฒนา 6 ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นเป็นหน้าบ้านของกลุ่มผู้ก่อเหตุ

 

ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุมาพบว่า เวลา 05.53.58 น. (เวลา 00.04 ในคลิป) ได้ยินเสียง (ฝั่งคนตาย) ตะโกนในกล้องวงจรปิดว่า “ยิงเลย ยิงเลย”

 

เวลา 00.06 ในคลิป มีเสียงปืน นัดที่ผู้ก่อเหตุยิงฝั่งคนตาย (ก่อนหน้านี้ ยิงแล้ว 3 นัด รวม 4 นัด แต่กล้องจับไม่ทัน) และมีรถเก๋ง คันสีดำของฝั่งคนตายขับออกจากซอย

 

เวลา 00.11 น. ในคลิป ได้ยินเสียงปืนฝั่งคนตายยิง ดังขึ้นหนึ่งนัด ก่อนที่รถของฝั่งผู้ตายจะขับออกจากซอยไป

 

ทีมข่าวได้มาพูดคุยกับนางสาวแอน (นามสมมติ) แม่ของหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ และเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงเวลาประมาณตีห้าเกือบ 6 โมงของวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ฝั่งของผู้เสียชีวิตได้มาขอเคลียร์กับฝั่งลูกหลานของตัวเอง เนื่องจากมี วัยรุ่นหนึ่งคนที่อยู่ฝั่งผู้เสียชีวิต เค้าถูกฝั่งลูกชายตัวเองทำร้ายร่างกาย ฝั่งนั้นเขาจึงอยากมาขอเจอคนที่กระทืบเด็กฝั่งเขา และพยายามให้เด็กฝั่งตัวเองออกไปตัวต่อตัวกับฝั่งเขา กระทั่งเคลียร์กันจบแล้ว แต่ฝั่งนั้นก็ไม่ยอมจบ และมีอาการเมา คาดว่าเค้าเพิ่งกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงกันมา

 

จังหวะที่เคลียร์กัน ตัวเองเห็นว่าฝั่งคนตาย มีการหยิบปืนออกมาจากรถ แล้วส่งปืนให้กัน ตัวเองจึงบอกลูกๆหลานๆว่า “มันมีปืน ถอยๆๆๆ” แล้วฝั่งคนตาย เหมือนว่า จะมาเอาเรื่องกับนายแม็ก (ผู้ก่อเหตุ) ให้ได้ จังหวะนั้นพี่สาวตัวเองเห็นท่าไม่ดีจึงตะโกนออกไปว่า ให้โทรแจ้งตำรวจ ทำให้ฝั่งผู้เสียชีวิตพากันขึ้นรถเก๋งแล้วขับรถออกไปจากหน้าบ้านของตัวเอง

 

จังหวะที่ฝั่งนั้นขับรถออกไป นายแม็ก ผู้ก่อเหตุ เห็นว่าฝั่งนั้นมีการเปิดประตูออกมาแล้วใช้ปืนยิงมาที่ฝั่งตัวเอง แต่ปืนขัดลำกล้อง ยิงไม่ออก นายแม็ก จึงยิงฝั่งผู้ตายไปประมาณสี่นัด โดยยิงไปมั่ว ไม่ได้เจาะจงผู้ใดผู้หนึ่ง และยิงป้องกันตัว แล้วฝั่งผู้ตายก็ยิงมาอีกหนึ่งนัด จนมารู้ที่หลังว่าฝั่งนั้นมีคนเสียชีวิต

 

โดยหลังจากเกิดเหตุ นายแม็ก เขาได้หลบหนีไปประมาณสองวันเพื่อไปตั้งสติ ก่อนที่เค้าจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว

 

ส่วนที่ฝั่งผู้เสียชีวิตไปให้ข่าวว่า ฝั่งตัวเองลูกหลานของตำรวจ และใช้อิทธิพลในการถอดกล้องวงจรปิดแถวบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น ตัวเองขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง ฝั่งตัวเองไม่มีใครเป็นลูกหลานตำรวจ และไม่มีใครไปถอดกล้องวงจรปิด

 

ถามว่าฝั่งตัวเองอยากจะไปขอขมาฝั่งคนตายไหม ก็ยืนยันว่าอยากไป แต่ที่ไปไม่ได้เพราะกลัวว่าจะมีการเอาคืนการเกิดเกิดขึ้นอีก

 

นางสาวแอนเล่าให้ทีมข่าวฟังอีกว่า สำหรับเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นมาจาก ฝั่งเพื่อนผู้เสียชีวิต เขาได้มาแย่งแฟนฝั่งลูกหลานตัวเองก่อน ทำให้ทั้งสองกลุ่มมีเรื่องไม่พอใจกัน และมีการกระทืบกันก่อนเกิดเหตุ 1 วัน คือคืนวันที่ 22 เมษายน และเช้าวันที่ 23 เมษายนก็มีการยิงกันจนเสียชีวิต

 

ด้านนางสาวเวียงวิภา อายุ 42 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า การตายของลูกชายครั้งนี้ตัวเองคิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีมากกว่าหนึ่งคน และอยากให้ตำรวจจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ครบทุกคน ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุตำรวจก็ไม่แจ้งถึงความคืบหน้าทางคดี ไม่ให้ตัวเองดูกล้องวงจรปิด ทำให้ตัวเองคาใจว่าหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะมีลูกหลานของตำรวจหรือไม่ และตอนนี้ตัวเองยังได้ข่าวว่าหนึ่งเหตุได้รับการประกันตัว ยิ่งทำให้เจ็บใจ

 

เพราะหลังจากเขาประกันตัวออกมาฝั่งของผู้ก่อเหตุก็มีการโพสต์ข่มขู่เพื่อนของลูกชาย ท้าทายกันไม่จลสิ้น เกรงว่าจะเกิดการตายอีก แต่กรณีที่ฝั่งผู้ก่อเหตุมาให้ข่าวว่าฝั่งเพื่อนลูกชายมีการถือปืนยิงไปหาพวกเขาก่อนนั้น ก็อยากถามเขาว่า ทำไมเขาให้ข่าวโยนความผิดมาให้ฝั่งลูกชายตัวเองแบบนี้

 

ที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนนิสัยน่ารัก ซึ่งลูกชายเคยบอกกับตัวเองว่าเขาจะเก็บเงินซื้อรถยนต์ แต่เขาก็มาเสียชีวิตลงก่อน จนตัวเองสูญเสียลูกไปแล้วทั้งสองคน ในช่วงโควิดพี่สาวคนโตก็เพิ่งเสียชีวิตไป ทั้งนี้ลูกชายตัวเองก็มาเสียชีวิตเป็นรายที่สอง ทำให้ตอนนี้ตัวเองกับลูกเพียงสองคนเท่านั้น

 

ตัวเองอยากบอกวิญญาณลูกชายว่า แม่จะดิ้นรนสู้เรื่องคดีให้ถึงที่สุด เพื่อหาความเป็นธรรมให้ลูก

 

ทีมข่าวช่องแปดได้รับแชต Facebook จากแฟนสาวของผู้เสียชีวิตมา ซึ่งเป็นแชตหลังจากเกิดเหตุที่กลุ่มผู้ก่อเหตุมีการท้าทาย ให้ฝั่งผู้เสียชีวิตไปหา ซึ่งมีจำนวนหลายหน้า แต่มีเนื้อความทำนองว่า

 

“ผมเองคนทำครับ รีบมาเหอะ ผมรอนะ“

“ออกมายัง ปล่อยผมเก้ออีกแล้ว จะมาไม่มา”

“อ่านไม่ตอบ จะมาไม่มา“

“ผมรอเนี่ย ผมอยากคุย ไห้มันจบๆไป”

ร้องช่อง 8 ลูกถูกฆ่า แม่ผวาถูกขู่ฆ่าอีก แก๊งมือปืนโต้ป้องกันตัว