กรณี เมื่อเวลา19.30 วันที่ 27 เม.ย. พ.ต.ต.ชลพรรษ ขวัญศรี สารวัตรสอบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายคน ที่ ต. ท่าช้าง อ. วิเศษชัยชาญ จ. อ่างทอง จึงรุดไปที่เกิดเหตุ

 

พบนายภิสิษฐ์ อายุ 41 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณปากทะลุท้ายทอย และห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบศพผู้ก่อเหตุนอนเสียชีวิตอยู่โคนต้นมะพร้าว นอนคว่ำหน้า มือกำอาวุธปืนลูกโม่ มีบาดแผลบริเวณศีรษะ ทราบชื่อต่อมาว่านายนิวัติ อายุ 45 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญเพื่อทำการรักษา ทราบชื่อต่อมาว่านายลบ อายุ 62 ปี เป็นอาของผู้ก่อเหตุ

 

วันนี้ 28 เมษายน 2567 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผมขับเรือในจุดที่ผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านของผู้ก่อเหตุ ส่วนจุดที่ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตนั้น ครอบครัวได้มาหลังคราบเลือดไปหมดแล้ว ซึ่งทั้ง 2 จุด ห่างกันประมาณ 10 เมตร

 

ช่วงบ่ายวันนี้นายลบ อายุ 62 ปี ผู้บาดเจ็บ ได้ออกจากโรงพยาบาล และมาพักฟื้นต่อที่บ้าน ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า เมื่อวานนี้หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้าน กลับมาถึงบ้าน เขาได้นั่งดื่มกินกับตัวเองที่บ้านของเขาซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของผู้ก่อเหตุประมาณ 300 เมตร จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปร้านค้าที่หน้าปากซอย ซึ่งระหว่างขากลับ ได้ขับรถผ่านหน้าบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนั้นผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่ง ขู่จะยิงภรรยา และทะเลาะกับภรรยาอยู่ จึงเห็นว่าผู้ใหญ่บ้านได้ขับรถผ่านมา แล้วผู้ก่อเหตุก็ได้ยิงผู้ใหญ่บ้านจำนวนหนึ่งนัด จนรถล้ม จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินลงจากชั้นสองของบ้านแล้วมาเจาะจ่อยิงผู้ใหญ่บ้านซ้ำอีกสองนัด ตอนนั้นตัวเองก็ได้ยินเสียงปืนดังเป็นช่วงๆ

 

จังหวะนั้นเองภรรยาและลูกชายของผู้ก่อเหตุ ได้เรียกตัวเองให้ไปช่วย เพราะผู้ก่อเหตุเค้าขู่ว่าจะยิงอีกศพหนึ่ง พอตัวเองเดินเข้าไปถึงบ้านของผู้ก่อเหตุ ก็เห็นเค้ามีอาการคลุ้มคลั่ง และพูดขึ้นมาว่า “เข้ามาเลย ก็จะยิงอีกศพหนึ่ง” ตัวเองจึงเข้าไปแย่งปืนกับผู้ก่อเหตุ จังหวะที่ยื้อแย่งกัน ทำให้กระสุนโดนร่างกายตัวเอง 2 นัด นัดแรกเข้าที่คอทะลุท้ายทอย นัดที่สองโดนแขนด้านขวา จังหวะนั้นตัวเองก็ล้มไปกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุทับร่างตัวเองเอาไว้ ตัวเองเข้าใจว่าตอนนั้นผู้ก่อเหตุคงคิดว่าตัวเองเสียชีวิตไปอีกราย เขาจึงเอาปืนมาจ่อขมับ แล้วยิงตัวเองจำนวนหนึ่งนัด จนเขาแน่นิ่งไป จากนั้นก็มีชาวบ้านอีกหนึ่งรายเข้ามาผลักร่างของผู้ก่อเหตุออกไป แล้วรีพาตัวเองไปส่งโรงพยาบาล

 

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด พบเหตุมาจากผู้ก่อเหตุเขามีอาการหลอนยา ชอบคิดไปเอง ก่อนหน้านี้ก็เคยหึงหวงภรรยาถึงขั้นยิงปืนขู่ภรรยามาแล้ว จนชาวบ้านต้องแจ้งตำรวจมาจับ ซึ่งเหตุการณ์เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว

 

แล้วตัวเองขอยืนยันอีกเสียงว่า ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนดี เป็นที่รักของชุมชน ไม่เคยมีประวัติไปยุ่งเกี่ยวกับกับภรรยาของผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด

 

และที่ตัวเองรอดตายมาได้ในเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ตัวเองเชื่อว่าอาจเป็นเพราะ ตัวเองพกเหรียญพระสมเด็จเรือแจว เบี้ยแก้ และยันต์หลงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ติดตัว เพราะทั้งสามสิ่งนี้ตัวเองจะพกติดตัวตลอดเวลา และตัวเองก็เคยแคล้วคลาดภัยมาแล้วสองครั้งครั้งแรกตัวเองประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ครั้งที่สองตัวเองถูกไฟชอร์ต

 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางถาวร อายุ 71 แม่ของผู้ใหญ่บ้าน ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ก่อนจะเกิดเหตุลูกชายของตัวเองได้ขับรถกระบะกลับมาจากไร่นา เมื่อมาถึงบ้าน ก็ได้นั่งดื่มเหล้ากับนายลบ (ผู้บาดเจ็บ) จากนั้นลูกชายได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปซื้อโซดาที่ร้านค้าซึ่งอยู่ถัดจากบ้านของผู้ก่อเหตุไปไม่ไกล ระหว่างที่ลูกชายขับรถกลับบ้าน ผู้ก่อเหตุซึ่งเกิดอาการหลอนยา ได้ยืนยิงปืนมาจากชั้น 2 ของบ้าน จำนวน 1 นัด พอลูกชายตัวเองล้มลงผู้ก่อเหตุได้ลงมาจากบ้านแล้วมายิงซ้ำอีกสองนัด จังหวะนั้น ภรรยาของผู้ก่อเหตุได้วิ่งมาเรียกที่บ้านตัวเอง ว่าสามีของเขาได้ก่อเหตุยิงผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นนายลบ (ผู้บาดเจ็บ) ได้วิ่งไปจุดเกิดเหตุ และมีการยื้อแย่งปืนกับผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งโดนกระสุนปืนถากบริเวณหัวไหล่ ได้รับบาดเจ็บอีกราย จังหวะที่ผู้ก่อเหตุต่อสู้กับนายนายลบอยู่ เจ้าตัวก็ได้ยิงตัวตายที่จุดนั้นเลย ซึ่งตัวเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณสองช่วง

 

ส่วนปมในการก่อเหตุตัวเองก็คาดว่าน่าจะมาจากที่นายนิวัติ ผู้ก่อเหตุ เขาหลอนยาเสพติด และหึงหวงภรรยาของเขา คิดว่าผู้ใหญ่บ้านจะไปแย่งภรรยาเขามา ซึ่งตัวเองขอยืนยันว่า ลูกชายของตัวเองเป็นคนนิสัยดี

 

เป็นที่รักของคนในชุมชน และไม่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับทางด้านภรรยาของผู้ก่อเหตุอีกด้วย

 

ด้านพระวิน อายุ 71 ปี พ่อของคนก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณเกือบ 1 ทุ่ม ขณะที่ตัวเองจำวัดอยู่ ตัวเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 ช่วง จำนวนหลายนัด ตอนนั้นจำได้แม่นเลยว่าเป็นเสียงปืนของลูกชายตัวเอง แต่ไม่คิดว่าลูกชายจะก่อเหตุยิงคนอื่นจน เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บแบบนี้ นึกว่าลูกชายเพียงแต่ยิงปืนข่มขู่ภรรยา หรือยิงปืนขึ้นฟ้าเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานชาวบ้านก็มาเรียกตัวเองบอกว่าลูกชายไปก่อเหตุยิงผู้ใหญ่บ้าน จนเสียชีวิต และยังยิงญาติอีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย

 

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองคาดว่าน่าจะมาจากอาการหลอนยาของลูกชาย ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายก็ปกติดี แต่พอรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เขาก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนถูกปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งลูกชาย จะคลั่งหลอนยาอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้ก็เคยทะเลาะกับตัวเองถึงขั้นขู่จะยิงปืนใส่ตัวเอง และกับภรรยาเขาก็จะขู่ยิงภรรยาอยู่เป็นประจำ

 

ตัวเองขอยืนยันว่าผู้ใหญ่บ้านไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับภรรยาของลูกชายแต่อย่างใด แต่ทั้งหมดนั้นลูกชายหลอนยาแล้วคิดไปเองเอง

 

ทาสยานรก คลั่งยิงผู้ใหญ่บ้าน-ชาวบ้าน ดับ 2 ศพ ก่อนหนีความผิดปลิดชีพตัวเอง