จากกรณีที่มีประชาชนเรียกร้องให้ตรวจสอบ “น้องไนซ์” เด็กอายุ 8 ขวบ ที่อ้างตัวเป็นบุตรพระพุทธเจ้า สอนธรรมะด้วยการเชื่อมจิต จนทำให้นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบบ้านพักครอบครัวน้องไนซ์ ทำให้ต่อมาเฟซบุ๊ก “นิรมิตเทวาจุติ” ได้ออกแถลงการณ์เตรียมเอาผิดสื่อที่นำเสนอข่าวเรื่องราวอันเป็นเท็จ โดยไลฟ์ถ่ายทอดสดเรื่อง “นารีสวรรค์เผยความจริง เชื่อมจิต มีบัญญัติในพระไตรปิฎก”




โดยมีตอนหนึ่งที่ทีมงานได้อ่านคำแถลงการณ์ถึงการเตรียมเอาผิดสื่อที่นำเสนอเรื่องราวอันเป็นเท็จของ “น้องไนซ์” ซึ่งเตรียมจะยื่นเรื่องต่อนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ท่านนายกรัฐมนตรี และผู้มีอำนาจในบ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง ได้มีมาตรการในการควบคุมพฤติกรรมของสื่อ และวางแนวทางในการออกกฎหมาย ควบคุม เอาผิด สื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว นำเสนอเรื่องราวอันเป็นเท็จ ทำให้สังคมบิดเบือน และเกิดความขัดแย้งกันขึ้นเป็นวงกว้าง


โดยบางช่วงทีมงานนารีสวรรค์ ได้ชี้แจงว่า "การเชื่อมจิตนั้น มีอยู่ในพระไตรปิฎกจริงหรือไม่ จริง ๆ แล้วคำว่าเชื่อมจิต ของอาจารย์น้องไนซ์นั้น ท่านเปรียบเปรยเฉย ๆ เป็นคำพูดให้เข้ากับยุคสมัยนี้ ให้คนเข้าใจง่าย เพราะหากเอาคำพูดที่มันยาก ๆ หรือคำอ่านในพระไตรปิฎกมาพูด ผู้คนก็จะไม่เข้าใจ ว่าคืออะไร"




ล่าสุด (25 เม.ย.2567) ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช ได้โพสต์ข้อความโต้กลับประเด็นนี้ ระบุว่า “ขอบคุณแอดมินทั้ง 2 คน ที่ออกมาแถลงการณ์ พยานหลักฐานพร้อม “ผมคิดว่าเป็นประกาศของคณะปฏิวัติ” การกล่าวว่า การเชื่อมจิต มีบัญญัติในพระไตรปิฎก เป็นการกล่าวความเท็จ ไม่จริง แล้วยังนำเรื่องเท็จไม่จริงออกเผยแพร่สู่สาธารณะ และแอดมินผู้เผยแพร่ด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ... ก่อนทิ้งท้ายแล้วเจอกัน หลัง 15 วัน ที่ท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวง พม. ดำเนินการใด ๆ ไม่ได้”




ทั้งนี้ หลังจากคำแถลงการณ์โดยนารีสวรรค์เผยแพร่ออกไป ได้มีชาวโซเชียลนำคลิปภาพนางรำคนหนึ่ง กำลังร่ายรำอ่อนช้อย และปรากฏภาพน้องไนซ์นั่งดูอยู่ที่โซฟาด้านหลัง ทำให้หลายคนเปรียบเทียบหน้าของนารีสวรรค์กับนางรำท่านนี้ ว่าคือคนเดียวกันหรือไม่ ซึ่งคลิปนี้เป็นงานเชื่อมจิตของน้องไนซ์ ที่จัดขึ้น จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา และน้องไนซ์มีการให้คะแนนนางรำท่านนี้ 99 จาก 100 คะแนน เลยทีเดียว


นอกจากนี้ โซเชียลยังขุดคลิปขณะที่มีคนมาขอให้น้องไนซ์เชื่อมจิตที่หน้าผาก แต่น้องไนซ์กลับแสดงท่าทีเหนื่อยล้า และบอกว่า “ไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว พลังงานใกล้หมดแล้ว โอ้ย 30 กว่าคน พลังไนซ์ไม่พอ” จากนั้นทีมงานได้พยายามขอให้น้องไนซ์เชื่อมจิตให้กับคนกลุ่มนี้กลุ่มสุดท้าย แต่น้องไนซ์ก็ไม่ยอม ทำใหหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ทีมงานจำนวนมาก ที่พยายามบังคับทั้งที่น้องไนซ์เหนื่อยแล้ว




ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสวิดีโอคอลพูดคุยกับแม่นก แม่ของน้องไนซ์ นิรมิตเทวาจุติ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อสอบถามประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่มีข่าวลือว่าพ่อน้องไนซ์มีการแชตหาผู้หญิงในทำนองชู้สาว โดยแม่นกได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ยืนยันเลยว่าไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย และตนก็ไม่ได้ให้ค่าหรือสนใจเรื่องนี้เลย เพราะตนกับพ่อของน้องไนซ์ตัวติดกัน และมักจะทำกิจกรรมร่วมกันกับน้องไนซ์อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเพจต่าง ๆ ที่มีการนำเสนอเรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ หน้าตาตัวเองยังไม่ออกมาเผย จะไปเชื่อถืออะไรได้ เพราะฉะนั้นสื่อไหนที่จะมีการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ และลงโจมตีครอบครัวของตนและน้องไนซ์ ตนก็ลุยฟ้องอย่างแน่นอน


ส่วนเรื่องต่อมาคือเรื่องของคลิป ๆ หนึ่ง ที่มีการให้น้องไนซ์นอนและใช้มือจิ้มเพื่อเชื่อมจิตสิทธิ์ยาลูกศิษย์ทั้งหลาย โดยคนที่ไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงก็อาจจะมองว่าเป็นการบังคับเด็กให้ทำหรือไหม ซึ่งเรื่องนี้ทางตนก็อยากชี้แจงว่า ไม่มีการบังคับฝืนใจอย่างแน่นอน และเป็นตัวเองต่างหากที่มีการบอกกับน้องไนซ์ไปแล้วว่าขอให้หยุดพักได้แล้ว แม่ไม่ไหวแล้วพอเถอะ เพราะตนดูแล้วว่าน้องไนซ์ คงจะไม่ไหวแล้ว แต่ด้วยความที่น้องไนซ์ ยังมีสปิริต จึงเปลี่ยนถ้าเชื่อมจิตจากถ้านั่งปกติเป็นท่านอน เพราะเห็นว่ายังมีศิษย์ยานุศิษย์อีกหลายพันคนที่ยังไม่ได้รับการเชื่อมจิตจากตัวเอง แล้วถึงแม้ตนจะบอกให้พออีกกี่รอบ น้องไนซ์ก็ไม่ยอมฟัง


จากกระแสข่าวในช่วงนี้ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกซีเรียสหรือแม้แต่ทางน้องไนซ์เองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเช่นกัน ซึ่งเรื่องแรกที่ตนนั้นอยากจะชี้แจงก็คือเรื่องของทนายอนันตชัย ที่จะลงมาเพื่อลุยตรวจสอบตนเองและน้องไนซ์ ตนเองก็ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไรทั้งสิ้น เพราะถึงจะตรวจสอบอะไรยังไงก็ไม่พบความผิดปกติ หรือเรื่องที่นำไปสู่การดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน




ส่วนเหตุผลที่ตนต้องนำรูปของทนายอนันตชัยนำไปใส่ในโปสเตอร์โปรโมตการแถลงการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา ก็เพราะทนายอนันตชัย เป็นคนกล่าวอ้างและโจมตีทางน้องไนซ์ก่อนว่า การเชื่อมจิตนั้นไม่ได้มีกล่าวไว้อยู่ในพระไตรปิฎก จึงต้องมีใส่รูปทนายอนันตชัย เพื่อให้สังคมรับรู้ว่าวันนี้จะมีการพูดถึงเรื่องของทนายอนันตชัยด้วย


ถัดมาเรื่องของการฟ้องร้องสื่อเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตสื่อ หรือการร้องเรียนสื่อไปยังนายกรัฐมนตรี จากการแถลงการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา เรื่องนี้ตนก็จะดำเนินการอย่างจริงจัง เนื่องจากยังบางซื่อนำเสนอข้อมูลเท็จที่ไม่เป็นจริงเกี่ยวกับตัวของน้องไนซ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบอกว่าน้องไนซ์อ้างตัวเป็นพระพุทธเจ้า เรื่องน้องไนซ์ให้หลวงตากราบก็ตาม ซึ่งการที่คุณเป็นสื่อแต่ไม่ยอมตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนและนำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดออกไปจนทำให้น้องไนซ์เสียหาย ตอนนั้นก็ยอมไม่ได้เช่นกันจึงต้องมีการร้องเรียนและฟ้องร้องเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับน้องไนซ์


และต่อมาคือเรื่องสำนักพุทธ ตอนนี้ตนก็ขอยืนยันว่ายังการติดต่อเพื่อมาพูดคุยหรือเข้ามาตรวจสอบอะไรทั้งนั้น และก่อนหน้านี้ตนก็บอดไปแล้วว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบทุกเรื่อง และตนก็มองว่าตนก็มาอยู่ในพื้นที่ใกล้กับสำนักพุทธแล้ว ทำไมถึงไม่ยอมเข้ามาติดต่อเพื่อพูดคุยกันเพื่อทราบความจริงที่เกิดขึ้นกับตัวน้องไนซ์ว่าเรื่องใดเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จบ้าง ดังนั้นจึงโปรดติดต่อเพื่อมาพูดคุยกันเพราะตนอยากจะชี้แจงเป็นอย่างมากในตอนนี้

 

เปิดใจ! "แม่น้องไนซ์" มั่นใจสามีไม่มีกิ๊ก โต้ บังคับลูกเชื่อมจิต