เพจเฟซบุ๊กมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้โพสต์ข้อความว่า#ลัทธิเชื่อมจิต สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำอะไรอยู่ ?

 

ผมขอถาม นายอินทพร จั่นเอี่ยม. ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีเด็กคนหนึ่ง อายุประมาณ 8 ขวบ อ้างว่าตนเองเป็นบุตรของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าส่งมาเกิด เป็นพระอนาคามี เป็นพญานาคลงมาเกิด สอนธรรมะด้วยวิชา เชื่อมจิต ใช้ฤทธิสอนธรรม ซึ่งไม่มีอยูในพระไตรปิฎก ของศาสนาพุทธนิกายเถรวาท เป็น #สัทธรรมปฏิรูป ถือเป็น #ลัทธิเชื่อมจิต

 

เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือไม่ ? ที่จะออกมาดำเนินการกับเด็กคนดังกล่าว ที่สอนธรรมที่พระะพุทธเจ้าไม่ได้สอนไว้ ซึ่งบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก ?

 

ช่วยตอบคำถามหน่อยครับ อย่าเงียบ ทำงานหน่อย……ให้เวลา 3 วัน

ที่ถามเพราะ หากไม่ใช่หน้าที่ มูลนิธิทนายกองทัพธรรม จะได้จัดการเอง !

 

และเพจ ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช ได้โพสต์ว่า #ประกาศ มูลนิธิทนายกองทัพธรรม

หากท่านผู้ใด ถูกฟ้องและดำเนินคดีที่เกิดจากการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต เป็นไปโดยชอบธรรม ในฐานะชาวพุทธ เกี่ยวกับ #ลัทธิเชื่อมจิต

 

#มูลนิธิทนายกองทัพธรรม มี ????ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในทุกระดับความรู้ กว่า 100 คน ด้าน #พระไตรปิฎก #พระธรรมวินัย ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ทั้งพระภิกษุและฆราวาส เปรียญธรรมทุกประโยค ทั้งระดับ ดร.ศาสตราจารย์, รองศาสตราจารย์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ #ที่พร้อมจะเป็นพยานเบิกความต่อศาลได้ โดยไม่มีค่าตัวหรือค่าตอบแทนใดๆ ฟรีครับ เพื่อรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป ติดต่อมาได้ที่มูลนิธิทนายกองทัพธรรม

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับแม่นก แม่ของน้องไนซ์ นิรมิตเทวาจุติ หลังจากมีกระแสสังคมต่างๆเริ่มถาโถม จนมีการสั่งการนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ลงพื้นที่มาตรวจสอบ โดยวันนี้เองแม่นกไม่ได้ให้น้องไนซ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้น้องไนซ์พักผ่อน เนื่องจากใกล้จะเปิดเทอมแล้วและแม่นกก็ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า

 

จากการที่มีกระแสข่าวว่าจะมีทางสำนักพุทธ หรือทางกัน จอมพลัง จะลงพื้นที่มาตรวจสอบครอบครัวของตน เรื่องนี้ตนก็ไม่ได้ตกใจใดๆทั้งสิ้นเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ก็มีทางเจ้าหน้าที่ พม.ได้เข้าตรวจสอบและพูดคุยกับทางน้องไนซ์ไปแล้ว ซึ่งผลที่ออกมาก็ไม่ได้มีเรื่องที่ไม่ถูกต้องใดๆทั้งนั้น และหากจะมีการเข้ามาตรวจสอบกันอีกรอบ เรื่องนี้ก็ไม่ได้นอกเหนือจากเรื่องที่ตนคิดเอาไว้เลยว่าครอบครัวของตนจะต้องถูกตรวจสอบอีกเรื่อยๆแน่นอน

 

และกระแสข่าวที่ว่าตนพร้อมกับน้องไนซ์และครอบครัวนั้นไม่ได้อยู่บ้าน แต่เดินทางเข้าไปที่พักผ่อนกัน เรื่องนี้ก็เป็นความจริง ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ตนพร้อมกับน้องไนซ์และครอบครัว เดินทางออกจากบ้านพักที่จ.สุราษฏร์ธานี เดินทางพาน้องไนซ์มาพักผ่อนหย่อนใจที่ จ.ชลบุรี โดยมีบรรดาลูกศิษย์ของน้องไนซ์ ที่จ.ชลบุรี เป็นคนจัดหาที่พักให้ และขอยืนยันว่าการเดินทางมาที่ จ.ชลบุรี ไม่ได้เป็นการหนีหน่วยงานต่างๆที่จะเข้ามาตรวจสอบ เพราะมีการจองตั๋วเครื่องบินและจองที่พักกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ตนพร้อมกับน้องไนซ์และครอบครัว จะไม่ได้อยู่ที่ จ.สุราษฏร์ธานี เพื่อเปิดบ้านให้หน่วยงานต่างๆ เข้าไปตรวจสอบที่บ้าน แต่ตนมองว่าตอนนี้ตนก็อยู่ละแวกใกล้เคียงกรุงเทพฯแล้ว การเดินทางมาหาของหน่วยงานต่างๆคงจะสะดวกกว่า และตนก็ยินดีเป็นอย่างมากที่หน่วยงานต่างๆจะมาพบกับน้องไนซ์ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องต่างๆที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขณะนี้ว่าเรื่องใดเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องใดเป็นเรื่องตัดต่อแล้วนำมาเผยแพร่จนน้องไนซ์และครอบครัวต้องเสียหาย

 

ส่วนความรู้สึกของไนซ์ ตอนนี้ก็รู้สึกเฉยๆเพราะน้องไนซ์ ไม่ได้สนใจเรื่องของกระแสที่โจมตีตัวเองเข้ามาอยู่แล้ว และสุดท้ายตอนนี้ตนก็มองว่ามันมีกระแสโจมตีน้องไนซ์เป็นอย่างมาก โดยข้อมูลที่นำมาโจมตีก็เป็นข้อมูลที่เท็จทั้งนั้น และเมื่อมีการนำข้อมูลเท็จกระจายออกไป จึงทำให้คนทั่วๆไปมองน้องไนซ์ในแง่ลบกันหมด จึงอยากบอกว่าขอให้ทุกๆคนอย่างเพิ่งตัดสินในตัวน้องไนซ์จากข้อมูลเท็จก่อน อยากจะให้มาสัมผัสตัวตนของน้องไนซ์ร่วมกันว่าเป็นอย่างที่มีการโจมตีกันหรือไม่

"ทนายกระดูกเหล็ก" จี้สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ "น้องไนซ์เชื่อมจิต"